วันที่ 15 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงผลการสอบสวน เฮเลน หรือ ชุติมณฑ์ ศรีเทพ กูรูด้านความงาม และเอเจนซี่คลินิกเสริมความงามและศัลยกรรมต่างๆ โดยเฮเลนกล่าวว่า เมื่อประมาณต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มีเพื่อนแนะนำให้รู้จักซินแสโชกุนครั้งแรกที่เจอกันซินแสโชกุนได้มาอาสาดูดวงให้
จากนั้นซินแสโชกุนก็บอกกับตนว่ามีบริษัทจำหน่ายอาหารเสริมชื่ออลิเซียน และมีนายทุนอยู่ที่ฮ่องกง พร้อมชักชวนให้ร่วมโครงการขายอาหารเสริมดังกล่าว ซึ่งมีโปรโมชั่นว่าหากซื้อผลิตภัณฑ์เพียง 13,130 บาทก็จะได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยเช่าเครื่องบินเหมาลำ
น.ส.ชุติมณฑ์ให้การต่อว่า ตนเห็นว่าดูเป็นบริษัทใหญ่ เพราะมีนายทุนอยู่ต่างประเทศ จึงตัดสินใจเข้าร่วมลงทุน พร้อมทำโปสเตอร์โปรโมทเองทั้งหมด ใช้ชื่อว่า “หลบเมืองร้อนไปทริปสุขภาพดี ที่..โอซาก้า” แต่ส่งเฉพาะกลุ่มเพื่อนเท่านั้น หลังจากนั้นเพื่อนๆที่สนใจและโอนเงินให้จนครบทุกคน เนื่องจากเห็นว่าราคาถูก แต่ตนยังไม่แน่ใจ จึงโอนให้ไปเพียง 11 รายเท่านั้น
น.ส.ชุติมณฑ์กล่าวต่อว่า ต่อมามีพรรคพวกในสมาคมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้สอบถาม พร้อมให้ข้อมูลว่าการจัดทริปที่มีคนจำนวนมากขนาดนี้จะต้องมีบริษัททัวร์รองรับ ซึ่งก็ไม่พบบริษัททัวร์ใดทราบเรื่องดังกล่าว ประกอบกับสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ก็ติดต่อมายังตนพร้อมระบุว่าในวันที่ 11-16 เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ซินแสโชกุนจัดทริปนั้น ไม่มีการจองเที่ยวบินแต่อย่างใด ก็เลยเริ่มรู้สึกไม่แน่ใจ เนื่องจากใกล้วันเดินทาง แต่ไม่เคยได้รับรายละเอียดใดๆเลย
กระทั่งเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนไปร่วมกิจกรรมล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ จึงได้พบกับซินแสโชกุนและนางประนอมอีกครั้ง ก็เลยพยายามถามรายละเอียดทั้งหมด แต่ซินแสโชกุนกลับบ่ายเบี่ยง ตอบเพียงว่าทริปนี้เกิดขึ้นแน่นอน ไม่เบี้ยว แต่รายละเอียดทั้งหมดอยู่ระหว่างดำเนินการ ก่อนจะเดินหนีไป
น.ส.ชุติมณฑ์กล่าวอีกว่า จากนั้นตนจึงก็เจอหญิงสาวรายหนึ่งทราบว่าเป็นชาวฮ่องกง จึงสอบถามว่าเป็นนายทุนหรือไม่ แต่หญิงคนดังกล่าวไม่ยอมตอบ ก่อนที่ซินแสโชกุนจะให้ชาย 2 คนมาพาตัวออกไป จึงรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะมีพิรุธ จึงตะโกนขู่ไปว่า “ฉันน่ะของจริงนะ”
จากนั้นไม่ถึง 1 สัปดาห์ นางประนอมก็โอนเงินค่าเดินทางเพื่อนของตนทั้ง 11 คนคืนมาให้ ต่อมาก็ทราบว่ามีผู้นำโปสแตอร์โปรโมทการท่องเที่ยวของตนไปใช้ก็เลยไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วที่ สน.โชคชัย
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
