ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

จับสาวแสบลวงเหยื่อผ่านเฟซบุ๊กว่า ส่งไปทำงานที่ประเทศเยอรมนีได้ แต่ต้องเสียค่าดำเนินการประมาณ 3 หมื่นบาท พอได้เงินปิดโทรศัพท์หนีไปทำงานที่เกาหลีใต้ จนตำรวจประสานส่งตัวกลับมาดำเนินคดี ตรวจสอบประวัติพบมีหมายจับอีก 4 หมาย เหยื่อถูกหลอกลวงแล้ว 50-70 ราย วอนเหยื่อที่ยังไม่แจ้งความให้เข้าร้องทุกข์โดยด่วน

EyWwB5WU57MYnKOuX7Eo1Lwo5g9DsBvgcVhE9GKzkcl0gnLnslBmc3

ตำรวจจับสาว 18 มงกุฎลวงเหยื่อไปทำงานต่างประเทศรายนี้ เปิดเผยขึ้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 19 ธ.ค. พ.ต.ท.อานันท์ วิชเศรษฐสมิต สว.กก.1 บก.ปคม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ร่วมกันควบคุมตัว น.ส.เมธิญา เจนประชากร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ม.3 ต.ห้วยลาน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1538/2558 ลงวันที่ 7 ก.ค.58 ข้อหาจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานที่ต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหาหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศได้โดยการหลอกลวง โดยการหลอกลวงดังกล่าวได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินของผู้ถูกหลอกลวง และข้อหาฉ้อโกง

พ.ต.ท.อานันท์ วิชเศรษฐสมิต สว.กก.1 บก.ปคม.เผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า น.ส.เมธิญา หลบหนีไปอยู่ประเทศเกาหลีใต้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ว่า ทางการไทยต้องการตัว น.ส.เมธิญากลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ต่อมา น.ส.เมธิญาถูกตำรวจเกาหลีใต้จับกุมข้อหาอยู่เกินกำหนด (over stay) จึงแจ้งกลับมายัง บก.ปคม.ว่า จะผลักดันกลับประเทศไทยในวันที่ 18 ธ.ค. โดยส่งตัวขึ้นเครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 657 ออกจากสนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้เวลา 21.25 น.ถึงสนามบินสุวรรณภูมิวันที่ 19 ธ.ค.เวลา 01.20 น. หลังจากนี้จะควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมและทำบันทึกจับกุมที่ กก.1 บก. ปคม. พร้อมประสานไปยังตำรวจท้องที่อื่นที่ น.ส.เมธิญาเคยกระทำความผิดไว้ เพื่อให้มาอายัดตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า น.ส.เมธิญาเคยหลอกหลวงหญิงไทยไปทำงานต่างประเทศมาแล้วจำนวนมาก ผู้เสียหายหลายรายไม่สามารถไปทำงานต่างประเทศตามที่ตกลงกัน แต่เสียค่าใช้จ่ายไปแล้วรายละ 30,000 – 35,000 บาท มีผู้เสียหายประมาณ 40 คนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ รวมถึงยังมีหมายจับข้อหาฉ้อโกงจากจังหวัดอื่นอีก และยังตรวจสอบพบว่า น.ส.เมธิญา มีพฤติกรรมหลอกลวงขายสินค้าแบรนด์เนมให้แก่คนไทยในต่างประเทศอีกด้วย

ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตตบุศย์ ผกก.1 บก.ปคม. นางอรุณี จิตรปฏิมา ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน แถลงจับกุม น.ส.เมธิญา โดย พล.ต.ต.กรไชยเผยว่า กรมจัดหางานกระทรวงแรงงานประสานมาว่า มีผู้เสียหายแจ้งว่าถูก น.ส.เมธิญาหลอกลวงผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กว่า สามารถส่งไปทำงานที่ประเทศเยอรมนีได้ แต่ต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการ เมื่อโอนเงินไปแล้ว น.ส.เมธิญาปิดโทรศัพท์หนี จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนศาลออกหมายจับ ตรวจสอบทราบว่า น.ส.เมธิญาหลบหนีไปทำงานร้านอาหารที่ประเทศเกาหลีใต้ และถูกส่งตัวกลับมาเมื่อคืนวันที่ 19 ธ.ค. จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปจับกุม

พล.ต.ต.กรไชยกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.เมธิญามีหมายจับอีก 4 หมาย ได้แก่ หมายจับศาลจังหวัดพระโขนง หมายจับศาลจังหวัดพัทยา หมายจับศาลอาญา ข้อหาจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานที่ต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหาหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศได้โดยการหลอกลวงดังว่าได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินของผู้ถูกหลอกลวง และข้อหาฉ้อโกง และหมายจับศาลจังหวัดน่านข้อหาฉ้อโกง จากการสอบสวน น.ส.เมธิญารับสารภาพว่า เปิดเฟซบุ๊กหลอกลวงผู้เสียหายจริง เพราะเคยถูกหลอกลักษณะเดียวกันมาก่อน

ด้านนางอรุณี จิตรปฏิมา ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กรมจัดหางานได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูก น.ส.เมธิญาหลอกลวงประมาณ 50-70 ราย จึงอยากประชาสัมพันธ์ว่า หากใครถูกหลอกแจ้งได้ที่ 1694 เบอร์สายด่วนของกรมจัดหางาน หรือ 1191 ของ บก.ปคม.ได้ทันที

เรื่องน่าสนใจ