ที่มา: thaihealth

เรียบเรียงข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม

ภาพประกอบจาก thaihealth

การตากผ้าถือเป็นสิ่งที่ทุกบ้านต้องทำกันอยู่แล้ว และเชื่อเหลือเกินว่าส่วนใหญ่มักตากผ้าในที่กลางแจ้งหรือให้โดนแดด แต่หากตากผ้าในที่ร่มหรือตากในเวลากลางคืนหรือตากผ้าในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ควรจะระมัดระวังเชื้อราหรือไม่อย่างไร

e_abdefjmopry2

ต้องบอกว่า เชื้อราที่พบกว่า 80% บนผ้าที่ตากในที่ร่มช่วงหน้าฝนคือ เชื้อราแคนดิดา อัลบิแคนส์  ซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในสภาวะที่อับชื้นเป็นด่าง ส่วนเชื้อราสายพันธุ์อย่าง แคนดิดา สปีชี่ส์  และโทรูลอบซิส ก็จะพบได้เช่นเดียวกัน

โดยเชื้อราเหล่านี้สามารถล่องลอยอยู่ในอากาศที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เมื่อสปอร์ของเชื้อราตกลงบนเสื้อผ้าที่อับชื้นไม่มีแสงแดด ก็จะช่วยทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเชื้อราที่อยู่บนกางเกงชั้นใน ซึ่งทำให้เกิด “โรคเชื้อราในช่องคลอด” ได้

ในปัจจุบัน เรามักพบว่า มีนักศึกษาที่พักอาศัยอยู่ตามหอกันมาก ซึ่งไม่มีบริเวณตากผ้าที่แดดส่องถึง การตากกางเกงชั้นในจึงมักแขวนผึ่งลมให้แห้ง

และเกิดความเข้าใจผิดว่า เพียงเท่านี้ก็สะอาดไม่เกิดอันตรายใด ๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว เชื้อราจะต้องถูกทำลายด้วยแสงแดดเท่านั้น ดังนั้น ชุดชั้นในจึงจำเป็นต้องตากแดด แค่ตากลมในห้องนั้นไม่เพียงพอ

อาการแรกเริ่มเมื่อเกิดเชื้อราในช่องคลอดคือ มีอาการคัน ระคายเคืองบริเวณช่องคลอด บางรายมีอาการตกขาวขุ่นข้นคล้ายนมบูด ควรรีบไปพบแพทย์ อย่าอาย อย่าซื้อยาทาหรือยากินเอง เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจรุนแรงถึงขั้นเป็นเชื้อราในมดลูกได้

ส่วนวิธีป้องกันควรเลือกซื้อกางเกงชั้นในที่ผลิตจากผ้าฝ้าย ซึ่งจะช่วยระบายอากาศได้ดี ไม่ควรเลือกกางเกงชั้นในที่ทำจากไนลอน

สำหรับคนที่เริ่มมีอาการของโรคช่องคลอดติดเชื้อรา ควรเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่ทั้งหมด หรือควรต้มในน้ำเดือด 10-15 นาที แล้วตากแดดให้แห้งก่อนนำมาใช้ใหม่

นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงกางเกงที่รัดรูปมากเกินไป เพราะไม่ระบายอากาศอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณช่องคลอดและขาหนีบได้

อาการติดเชื้อราจะพบได้มากเป็นอันดับต้น ๆ ที่จุดซ่อนเร้น แต่จะไม่เกิดปัญหาถ้าร่างกายสร้างภูมิคุ้ม กัน หากระบบสมดุลในช่องคลอดเปลี่ยนจากกรดเป็นด่าง จะเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรามากขึ้น และแสดงอาการตกขาวมากผิดปกติ เป็นก้อนสีขาวขุ่น

ซึ่งเกิดได้ทุกวัยตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ การมีเพศสัมพันธ์สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน เพราะน้ำอสุจิมีฤทธิ์เป็นด่าง

สำหรับการรักษา ควรพบแพทย์ซึ่งการรักษามียาทั้งแบบรับประทานและแบบสอดช่องคลอด แต่ปัญหาคือมักกลับมาเป็นซ้ำ เนื่องจากไม่ปรับพฤติกรรมให้จุดซ่อนเร้นระบายอากาศได้ดี ไม่มีกลิ่นอับชื้น

เคล็ดลับการดูแลรักษา แนะนำว่าควรล้างและทำความสะอาด ไม่ให้บริเวณจุดซ่อนเร้นเสียสมดุล (ห้ามสวนเพราะเชื้อราจะเข้าสู่ภายในช่องคลอดได้)

หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน ๆ ใกล้เคียงกับกรดแลคติกจะช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียดีที่มีชื่อว่า “แลคโตบาซิลไล” ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียได้อย่างดี

จึงสามารถลดการระคายเคืองกลิ่นอับชื้นได้ และไม่ควรใช้สบู่เพราะมีค่าเป็นด่างไปทำลายกรดแลคติก

นอกจากนี้ ในทางการแพทย์ไม่แนะนำให้ใส่แผ่นอนามัยตลอดเวลา เพราะก่อให้เกิดความอับชื้น ขอให้ใช้ช่วงที่จำเป็น เช่น ตกขาว มากก่อนมีประจำเดือน

การเป็นเชื้อราไม่เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกเพียงก่อให้เกิดความรำคาญ บางคนคันเกาเป็นแผลเกิดเชื้อแบคทีเรีย ถ้าเป็นบ่อยให้ปรึกษาแพทย์ แต่อาการตกขาวเรื้อรังหรือมีอาการตกขาวปนเลือดอาจจะเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ จึงควรไปพบแพทย์เพื่อหาเหตุที่แท้จริง

ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน หาโอกาสตากผ้าค่อนข้างยาก ทำให้ต้องตากผ้าในที่ร่ม หลายคนที่เคยซักผ้าแล้วเมื่อนำผ้าไปตาก ก็จะพบว่าผ้าไม่แห้ง อับชื้นได้

สำหรับผู้หญิง เวลาอยู่ในวัยที่มีประจำเดือนจะสังเกตได้ว่า จะมีคราบขาวติดอยู่ที่กางเกงชั้นใน จะมากน้อยแค่ไหนหรือมีลักษณะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็เป็นตามช่วงระยะของการมีประจำเดือน

เนื่องจากช่องคลอดของผู้หญิงจะมีการทำความสะอาดตัวเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว จึงถือว่าเป็นกระบวนการทำความสะอาดตัวเองตามปกติ

ดังนั้น จึงหมั่นดูแลตนเอง โดยเฉพาะจุดซ่อนเร้น และเสื้อผ้าที่สวมใส่ เพื่อเป็นการลดอาการที่อาจเกิดขึ้นจากเชื้อราในช่องคลอดได้

เรื่องน่าสนใจ