ทึ่งในรักแท้!! ลุงป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ แม้แรงจะไม่มีทำงานไม่ได้ แต่ยังคงประคบประหงมดูแลภรรยาป่วยโรครุมลุกไม่ได้ ประกาศวอนผู้ใจบุญสร้างห้องน้ำภายในบ้าน เพื่อภรรยาจะได้ไม่ลำบากยามขับถ่าย ยืนยันขอดูแลกันไปจนกว่าจะจากโลกนี้…
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางทุเรียน หนูวงษ์ ผู้ใจบุญตำบลห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ว่ามีสองสามีภรรยาเป็นโรคประจำตัวทั้งคู่ สามีไม่มีเรี่ยวแรง ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ส่วนภรรยาเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่เด็ก ซ้ำร้ายยังเป็นโรครูมาตอยด์ และเบาหวาน ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ปัจจุบันอาศัยเงินช่วยเหลือจากเบี้ยพิการและเงินช่วยเหลือจากเทศบาลรวม 1,600 บาทต่อเดือน ประทังชีวิตอยู่ได้ด้วยความรักความเข้าใจกัน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไป ยังบ้านเลขที่ 31 ม.9 ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ที่เป็นบ้านชั้นเดียวผนังรอบด้านเป็นแผ่นยิปซั่ม มุงด้วยสังกะสี ซึ่งเป็นบ้านที่ นายสวิง เสือสุ่ม อายุ 51 ปี อาศัยอยู่กับ น.ส.เชือน กลิ่นฟุ้ง อายุ 56 ปี สองสามีภรรยาใช้ชีวิตร่วมกันมากว่า 23 ปี จนมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่ ประกอบอาชีพรับจ้างทำนาให้กับคนในหมู่บ้าน แต่ช่วงปี 2556 ที่ผ่านมา นายสวิง ป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ระยะที่ 3 ต้องทำการผ่าตัด หลังจากทำการผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้ว ก็ไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนที่เคยมีทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพเพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว
ลุงสวิง เสือสุ่ม อายุ 51 ปีป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ อยู่กับ น.ส.เชือน กลิ่นฟุ้ง อายุ 56 ปี ภรรยาคู่ชีวิต
ด้านภรรยาก็ป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่กำเนิด ทั้งยังเป็นโรครูมาตอยด์ และเบาหวาน แต่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จนกระทั่ง 6 เดือนที่ผ่านมา ร่างกายทรุดหนัก มีอาการปวดไขข้อ ปวดแข้งขา แขน ขา บวม ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ รวมไปถึงโรคเบาหวานเริ่มขึ้นตา ทำให้ตาข้างซ้ายเริ่มพร่ามัว มองเห็นเป็นลางๆ ทำให้ต้องใช้ชีวิตอยู่บนแคร่ไม้ภายในบ้าน ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้
เวลาจะขยับตัวไปไหนมาไหนนั้น นายสวิงก็อุ้มภรรยาไม่ไหว ต้องไปเรียกชาวบ้านใกล้เคียงมาช่วยอยู่เป็นประจำ ส่วนลูกชาย อายุ 21 ปี ก็เรียนจบแค่เพียง ป.6 ไปทำงานเป็นลูกจ้างที่กรุงเทพฯ เพื่อหาเงินส่งมาให้พ่อ แม่ แต่ประกอบกับวุฒิการศึกษา และงานที่ทำอยู่ทำให้ส่งเงินมาได้ครั้งละน้อยนิดไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ประจำวันของสองสามีภรรยา
น.ส.เชือน เปิดเผยชีวิตตัวเองทั้งน้ำตาว่า ปัจจุบัน ต้องเข้ารับการรักษาเป็นประจำที่โรงพยาบาลสรรคบุรี โดยใช้บัตรทอง 30 บาท แต่เวลาจะไปรักษาตัวแต่ละครั้งต้องใช้เงินจำนวน 300 บาท เพื่อจ้างเหมารถ เพื่อรับส่งจากบ้านไปถึงโรงพยาบาล เงินที่มีก็ไม่เพียงพอ ทำให้บางครั้งก็ไม่ได้ไปรับการรักษาตามที่แพทย์นัดไว้
ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันนั้น การที่ไม่สามารถเดินเหินไปไหนมาไหนได้เหมือนคนปกติทำให้ต้องกินข้าว นอน อาบน้ำ และขับถ่ายปัสสาวะ อุจจาระ บนแคร่ เวลาจะปัสสาวะหรืออุจาระ นายสวิงผู้เป็นสามีก็ต้องนำปี๊บมารอง แล้วนำไปทิ้งที่ส้วมของเพื่อนบ้าน เนื่องจากบ้านที่อาศัยอยู่นั้นไม่มีห้องน้ำ มีเพียงห้องน้ำสังกะสีที่อยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ 10 เมตร
ปัจจุบันชำรุดจนไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนนายสวิงหลังทำการผ่าตัดมะเร็งลำไส้มาแล้วนั้น ทุกๆ 3 เดือน ต้องไปทำการเช็กเลือดที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร อ.เมืองชัยนาท เพื่อตรวจเลือดและตรวจว่าเชื้อมะเร็งลุกลามหรือไม่ ก็ต้องใช้เงินในการเดินทาง บางครั้งไม่มีเงินก็ต้องหาหยิบยืมชาวบ้านในละแวกนั้น
ภรรยาป่วยโรครุมเร้า ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ทำให้ลุงสวิงต้องรับหน้าที่ดูแลทั้งที่ตัวเองไม่มีแรง
ด้าน นายสวิง กล่าวว่า โรคร้ายที่ตนเผชิญนั้น แค่ทำให้ตนไม่มีเรี่ยวแรง แต่ตนเห็นใจคนรักที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคอีกหลายๆโรค ที่เจ็บปวดกว่าตนหลายต่อหลายเท่า
“อะไรที่สามารถทำได้ ก็จะทำให้ภรรยาที่เป็นที่รักได้ทุกอย่าง โดยไม่มีท่าทีรังเกียจหรือจะหนีหายไปจากกันแต่อย่างใด เพราะทุกๆ ปี ทุกๆ วันที่อยู่ร่วมกันมา ต้องเผชิญความทุกข์มากกว่าความสุขอยู่เป็นประจำ อดมื้อ กินมื้อ แต่ก็ยังยิ้มได้ ยังหยอกล้อ ยังกอด ยังให้กำลังใจกันได้” ลุงมะเร็งลำไส้หัวใจเต็มไปด้วยรัก กล่าว
นายสวิง ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า จะดูแล น.ส.เชือน ผู้เป็นภรรยา จนกว่าชีวิตตนจะหมดลมหายใจ แต่สิ่งที่อยากจะขอวอนผู้มีจิตศรัทธามาช่วยเหลือคือในเรื่องของห้องน้ำ ตนอยากให้ในบ้านของตนมีห้องน้ำเพื่อที่จะให้ น.ส.เชือนได้ขับถ่ายได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องถ่ายใส่ถังปี๊บเหมือนอย่างที่ผ่านๆ มา รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาตัวและดำเนินชีวิตประจำวันเพียงเท่านั้น
หากผู้ใดต้องการช่วยเหลือสองสามีภรรยาคู่นี้สามารถโทรสอบถามราย ละเอียดได้ที่ น.ส.เชือน กลิ่นฟุ้ง โทรศัพท์หมายเลข 08-2945-8665 หรือเลขที่บัญชี 124-0-05032-1 ธนาคารกรุงไทย สาขาสรรคบุรี ชื่อบัญชี นายสวิง เสือสุ่ม เพื่อ น.ส.เชือน กลิ่นฟุ้ง.
