นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน กล่าวถึงปัญหาการปล่อยโคมลอยจนกระทบกับการบิน ว่า ภายในเดือน ม.ค. 58 กรมการบินพลเรือนเตรียมลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) แนวทางการปฏิบัติการปล่อยโคมลอยและการจุดบั้งไฟ เพื่อไม่ให้กระทบกับการบิน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวง คมนาคมได้เข้มงวดในการปล่อยโคมลอยอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีการฝ่าฝืนเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าหากมีการลงนามเอ็มโอยูร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว จะทำให้การฝ่าฝืนลดลง และลอยอย่างถูกวิธี ซึ่งจะมีการกำหนดพื้นที่ เวลาอย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้กระทบต่อการบิน เพราะหากเกิดอุบัติเหตุแล้วจะเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงมาก

04-22

ด้าน นายวรเดช หาญประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ระบุว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคมได้มอบหมายให้ไปศึกษาหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติทางการบิน จากการปล่อยโคมลอยและการจุดบั้งไฟซึ่งจะมีการกำหนดกรอบและแนวปฏิบัติที่ชัดเจน โดยจะเน้นเรื่องการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้นรวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ สำหรับความผิดหากปล่อยโคมลอย หรือการจุดพลุ การเล่นดอกไม้ไฟ หรือยิงบั้งไฟหากเป็นการจุดบริเวณในละแวกใกล้เคียงท่าอากาศยาน อาจจะมีความผิดบางประการในการเดินอากาศยานตาม พรบ.2521 มาตรา 6 ว่าด้วยการกระทำใดๆ ทั้งโคมลอย ทั้งลูกโป่ง ลำแสงเลเซอร์ที่จะไปทำให้เกิดการรบกวนกระทำให้เป็นอันตรายต่ออากาศยาน หรือ น่าจะเป็นอันตราย โดยอัตราโทษถึงขั้นประหารชีวิต หรือ จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกระหว่าง 5 ปี ถึง 20 ปี เพราะกฎหมายเห็นว่า เป็นภัยสาธารณะที่เกิดกับอากาศยานที่เป็นภัยที่มีความเสียหายร้ายแรงกฎหมายจึงลงโทษหนัก

ขณะที่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัด ได้มีมาตรการที่จะเข้าไปดูแลการปล่อยโคมลอย ที่จะส่งผลกระทบด้านการบินแล้ว โดยเบื้องต้น จะประสานกับการท่องเที่ยวเชียงใหม่ทำความเข้ากับบริษัททัวร์ ร้านอาหาร โรงแรม ให้งดปล่อยโคมลอย โดยจะชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับการบินของเครื่องบิน และจะมีการประชุมทำความเข้าใจกับท้องถิ่นเรื่องการปล่อยโคมลอย การขายโคมลอยบนทางเท้า ริมถนนทางหลวง พร้อมจัดชุดออกตรวจรอบตัวเมือง วัด ร้านค้า ถนนหลวง

ขอขอบคุณ Springnews

เรื่องน่าสนใจ