ลังเลในการตัดสินใจ ทำ หรือ ไม่ทำศัลยกรรม ดีกว่ากัน
ในยุคปัจจุบันนี้ การศัลยกรรม กลายเป็นเรื่องที่ยอมรับได้และแพร่หลายกว้างขวาง จากที่เมื่อหลาย ๆ สิบปีก่อนนั้น ศัลยกรรมแทบจะเป็นเรื่องต้องห้าม ใครทำมาก็ต้องแอบปกปิดไว้ไม่ให้คนอื่นรู้ (หรือถ้ารู้ ก็จะไม่ยอมรับ) ทำให้คนที่คิดจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาของตัวเองนั้นมีอยู่น้อยเหลือเกิน ต่างจากตอนนี้ที่คิดอยากเปลี่ยนส่วนไหนจุดไหน ก็สามารถฉีด ผ่า เสริม เหลา ได้แบบไม่ยากเย็นอะไร ทำให้หลาย ๆ คนที่มีความรู้สึกไม่ค่อยชอบใจในส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวเองเป็นทุนเดินอยู่ แล้ว มีแนวโน้มที่จะเอนเอียงไปหาการศัลยกรรมมากขึ้น และถ้าคุณเองก็กำลังอยู่ในช่วงคิดตัดสินใจว่าจะทำศัลยกรรมดีหรือไม่ เรามีข้อช่วยคิดก่อนการทำศัลยกรรมว่าจะ “ทำ” หรือ “ไม่ทำ” จากเว็บไซต์ milllionlooks ลองค่อย ๆ คิดตามกันไปที่ละข้อดูนะคะ
การศัลยกรรมดีจริง กับกรณีฉุกเฉินหรือกับเรื่องไม่คาดคิดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ เช่น การศัลยกรรมบาดแผล เช่น แผลจากการถูกทำร้ายที่ใบหน้า แผลจากการถูกน้ำกรด นิ้วขาดจากอุบัติเหตุ ฯลฯ ศัลยกรรมความผิดปกติที่เกิดจากความเจ็บป่วย เช่น โรคปากแหว่งเพดานโหล่ เต้านมยุบเพราะโรคมะเร็งเต้านม
การศัลยกรรมด้วยสาเหตุข้างต้นนี้เป็นสิ่งอันควร เพื่อให้ผู้ที่เข้ารับการศัลยกรรมสามารถกลับไปใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น ๆ ในสังคมได้อย่างปกติ
แต่อย่างไรก็ดี ศัลยกรรมในสมัยนี้มุ่งไปในด้านการ “เสริม” ความงามมากกว่า นั่นหมายความว่าสิ่งที่เป็นอยู่เดิมก็ไม่ได้ย่ำแย่หรือเป็นปัญหาอะไร แต่อยากจะเสริมให้ดูดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อความมั่นใจหรืออะไรก็แล้วแต่ สาเหตุหลักมักมาจากความไม่ชอบใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ ซึ่งผลที่ได้หลังการทำจะเป็นการแก้ไขจุดที่คิดว่าบกพร่องเหล่านั้น
ผู้ที่ประสบความสำเร็จและพึงพอใจในผลการศัลยกรรมนั้นมีให้เห็นหลายราย อย่างไรก็ดีส่วนใหญ่มักไม่ค่อยมีใครสวยคงทนจากการศัลยกรรมไปได้ในระยะยาว การศัลยกรรมเพิ่งจะบูมมาก ๆ ในช่วงไม่ถึงสิบปีที่ผ่านมานี้ เพราะฉะนั้นผลที่จะเกิดขึ้นกับผู้เข้ารับการศัลยกรรมในระยะยาวจึงยังมีให้ เห็นไม่มากนัก และกลุ่มผู้ที่เคยทำศัลยกรรมมานานแล้ว เช่น สาวใหญ่หลาย ๆ คน ก็มักปรากฏให้เห็นว่าเมื่อแก่ตัวลง กลับดูแล้วผิดธรรมชาติ แต่อาจจะโทษว่าเพราะเทคโนโลยีในการศัลยกรรมยุคก่อนนั้นไม่ดี หรืออาจเป็นเพราะตัวผู้รับการศัลยกรรมเองเกิดอาการเสพติดศัลยกรรม กลับไปทำบ่อย ๆ จนจากสวยเปลี่ยนเป็นเสียไปเองก็ได้
ไม่ว่าจะศึกษาหาข้อมูลมากเพียงใด รอบคอบ และเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญมากเพียงใด โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดจากการศัลยกรรมได้ก็ยังคงมี ไม่สามารถลดความเสี่ยงให้เหลือ 0% ได้ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ก็ตาม และหากเกิดขึ้น ความฝันที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สวยขึ้นในชั่วข้ามคืนก็จะสลายทันตา แถมยังต้องอยู่กับผลที่ไม่ต้องการไปอย่างนั้น หรือไม่ก็ต้องวุ่นวายกับการศัลยกรรมแก้ไข
ส่วนคนที่ทำศัลยกรรมแล้วได้ผลออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ จำนวนหนึ่งของคนกลุ่มนี้ก็เริ่มติดใจ และต้องการที่จะทำศัลยกรรมแก้ไขในส่วนอื่นเพิ่มขึ้นอีก ด้วยความรู้สึกว่าทำครั้งแรกก็สวยดี และอยากสวยกว่านี้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ในที่สุดอาจกลายเป็นโรคเสพติดการศัลยกรรมได้
ผู้ที่ลงเอยด้วยการเสพติดศัลยกรรมต้องเผชิญกับความอันตรายที่สุด เพราะการศัลยกรรมแต่ละครั้งมีความเสี่ยง ยิ่งทำมาก และหลายครั้งความเสี่ยงก็ยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม ยังไม่นับรวมผลหลังการศัลยกรรมครั้งต่อ ๆ ไป ที่ไม่รู้ว่าจะออกมาน่าพึงพอใจเหมือนเดิมหรือเปล่าด้วย และหากทำในหลาย ๆ จุด ผลเสียที่ตามมาก็ยิ่งมากขึ้นด้วย
การศัลยกรรมทุกครั้งก็ควรมีเหตุอันสมควรที่มีเหตุผลที่ดีเพียงพอที่ให้คุณ ยอมเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงได้ แต่หากเป็นเพราะความอยากสวยขึ้นมาเฉย ๆ การศัลยกรรมไม่น่าจะตอบโจทย์คุณได้ หรือได้แต่ไม่ดี สิ่งที่คุณควรเปลี่ยนมากกว่าที่จะมองหาว่าจะฉีดจะผ่าตรงไหนดี น่าจะเปลี่ยนที่ทัศนคติของตัวเองมากกว่าก็ได้
ขอบคุณเนื้อหาจาก www.kapook.com
