เนื้อหาโดย Dodeden.com

คงไม่มีใครปฏิเสธหากเราจะบอกว่า ปัจจุบัน “วิตามินชี” กลายเป็นสิ่งที่หลายคนต้องมีติตบ้านหรือมีติตกระเป๋าไว้ จนมีกระแสข่าวออกมาว่าวิตามินซี มีประโยชน์มากกว่าแค่ป้องกันการเป็นหวัด คือสามารถช่วยป้องกันและรักษาโรคมะเร็งได้ เรื่องนี้ จะจริงเท็จแค่ไหน เราจะไปหาคําตอบกันค่ะ

เรื่องความสามารถในการรักษา หรือป้องกันมะเร็งของวิตามินซีนั้น เรื่องนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซีชนิดทาน รวมไปถึงวิตามินซีชนิดฉีต ถ้าจะยืนยันเรื่องนี้ได้จริง ในการศึกษาวิจัยและทดลอง จะต้องมีกลุ่มผู้เข้าร่วมทําการทดลองที่เป็นมะเร็งในระดับที่ใกล้เคียงกัน เช่น หากต้องการศึกษาว่าคนที่เป็นมะเร็งลําไส้ เมื่อได้รับวิตามินซีแล้ว จะสามารถป้องกันหรือรักษาไต้จริงหรือไม่ ก็ต้องเอาผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งลําไส้ในระยะใกล้เคียงกันมาแบ่งเป็นสองกลุ่ม โดยให้กลุ่มหนึ่งกินวิตามินซีจริง ในปริมาณที่กําหนต ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง ให้กินเม็ดแป้งที่ทําขึ้นมาคล้ายวิตามินซี หลังจากนั้น ก็นําผลที่ได้จากผู้ป่วยทั้งสองกลุ่ม มาเปรียบเทียบกัน สรุปคือปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาวิจัยที่ได้ผลออกมาชัดเจน ว่าวิตามินซีช่วยเรื่องมะเร็งได้จริง มีเพียงงานวิจัยที่ยืนยันในการช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันเท่านั้น

เเล้ววิธีการป้องกันมะเร็งที่ดีที่สุดคืออะไร ?
การป้องกันตัวเองจากโรคมะเร็งที่ดีที่สุดก็คือ การศึกษาหาความรู้ว่าสารที่ก่อเกิดโรคมะเร็งนั้นมีอะไรบ้าง เช่น ฝุ่นแร่ใยหิน ถั่วหรือของแห้งที่อาจมีสารอะฟลาท็อกซินปนเปื้อน, ควันบุหรี่ รวมถึงไวรัสบางชนิดที่อาจมีผลทําให้เกิดมะเร็งในบางกลุ่ม และมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ที่ผิดปกติ เพราะในร่างกายเรามีสารพันธุกรรมที่ผิดปกติแฝงอยู่ ทําให้เกิดการกลายไปเป็นเซลล์มะเร็ง และขยายใหญ่ ซึ่งถ้าภูมิคุ้มกันทำงานอย่างปกติ โดยสามารถกําจัดเซลล์เหล่านี้ออกไปได้ ก็ไม่ทําให้เป็นมะเร็ง แต่ถ้าหากกําจัดไม่ได้ เนื่องจากภูมิคุ้มกันเกิดการเสียสมดุล อันนี้ก็จะทําให้เป็นมะเร็ง ดังนั้นจึงต้องเสริมสร้างที่ภูมิต้านทาน เช่น การออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ, การลดน้ำตาลที่สะสมในเลือดเกินปกติ หรือกระทั่งการรับสารอนุมูลอิสระต่างๆ เข้าสู่ร่างกายมากผิดปกติ และสุดท้ายคือ การตรวจคัดกรองมะเร็งเพื่อให้สามารถตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไต้

เพราะฉะนั้น อย่าหลงเชื่อคําโฆษณาหรือคำแนะนำว่าให้ทานวิตามินซีในปริมาณสูงต่อวัน เพื่อป้องกันหรือรักษามะเร็งเลยนะคะ หากยังสงสัย สามารถขอรับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางได้ค่ะ

เรื่องน่าสนใจ