การมีชีวิตและสุขภาพดีๆ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกิจวัตรที่มีประสิทธิภาพ และง่ายต่อการปฏิบัติทุกวันทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ตื่นตัว และมีแรงบันดาลใจ แถมไม่จำเป็นต้องเจียดเวลาในการออกกำลังกาย และนี่คือคำแนะนำง่าย ๆ กับ วิธีแก้อาการงัวเงีย สำหรับการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ ที่เรานำมาฝากกันค่ะ!!

วิธีแก้อาการงัวเงีย ทำได้อย่างไรบ้างนะ

ปิดอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมด
ยิ่งคุณอยู่ห่างจากโทรศัพท์และไม่เสียสมาธิมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น การออกกำลังกายในตอนเช้า ก่อนที่จะไปวุ่นวายกับอีเมล อินสตาแกรม และข้อความต่างๆ จะทำให้วันนั้นผ่านไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น รวมถึงพร้อมที่จะสื่อสารกับคนทั้งโลกด้วย

สัมผัสแสงแดด
การออกไปนอกบ้านทุกวันเพื่อสูดอากาศสดชื่น สัมผัสบรรยากาศความมีชีวิตชีวา และรับวิตามินดีเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แสงแดดจะช่วยตั้งค่านาฬิกาชีวภาพในร่างกายของคนเราใหม่ ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น และปรับสภาพร่างกายได้ตามที่ต้องการ การศึกษาหนึ่งพบว่าการขาดวิตามินดีของผู้หญิงวัยรุ่น มีความเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพียงออกไปถูกแสงแดดบ้างก็ใช้ได้แล้ว และถ้าคุณทำงานที่บ้าน..การเดินเล่นนอกบ้านยังช่วยแบ่งเวลาส่วนตัวของคุณกับเวลาทำงานได้ด้วย

โฟลว์โยคะ
การฝึกโฟลว์โยคะ จะทำให้ยามเช้าของคุณน่าตื่นเต้นขึ้น มีขั้นตอนการฝึกที่ไม่ยากและรวดเร็ว ซึ่งส่วนใหญ่จะกินระยะเวลาอยู่ที่ 7-12 นาที  การฝึกโยคะทั่วไปวันละ 10 นาที หรือมากกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง สมดุล และความยืดหยุ่น รวมถึงทำให้จิตใจสงบและผ่อนคลายความเครียด นอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการปวดหลังช่วงล่างได้ด้วย

ขูดลิ้น
การขูดลิ้นด้วยที่ขูดลิ้น ซึ่งทำจากทองแดงหรือสเตนเลส จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่การแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าการขูดลิ้นไม่ถูกจริตของคุณก็ไม่เป็นไร การทำความสะอาดและการเสริมความงามในตอนเช้า ก็ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า หลังจากที่เพิ่งลุกออกจากเตียงได้เช่นกัน

ฝึกสมาธิ
แม้ว่าจะฟังดูไม่ยาก แต่การมีสมาธิอยู่กับการกำหนดลมหายใจก็ไม่ง่ายขนาดนั้น การฝึกสมาธิจะทำให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์ มีสติ และมีจิตใจมุ่งมั่นมากขึ้น

ที่สำคัญเลยนะคะ หากคุณเป็นคนตื่นเช้าและออกกำลังกาย เช่น การฝึกกล้ามเนื้อหรือวิ่ง วันนั้นของคุณก็จะมีแต่ความสดชื่น นอกจากนี้การออกกำลังกายก่อนทานอาหารเช้า ก็จะช่วยเผาผลาญไขมันได้มากถึงเกือบร้อยละ 20 และที่สำคัญรสชาติของอาหารเช้าก็จะอร่อยขึ้นด้วยนะ!

 

เรียบเรียงโดย โดดเด่นดอทคอม

ป้ายกำกับ:

เรื่องน่าสนใจ