ที่มา: http://www.dollitaclub.com/site/รีวิวประสบการณ์ศัลยกรร/

ศัลยกรรมเกาหลี โดย เจนนี่ ที่จะมาเปิดเผยรายการการผ่าตัดในแต่ละครั้งและราคาในแต่ละครั้งก่อนนะคะ ทั้งในประเทศไทยและประเทศเกาหลี ซึ่งจะค่อยๆเรียบเรียงให้เห็นภาพทีละครั้งนะคะ

 

ศัลยกรรมที่ประเทศไทย

1999 อายุ 18 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 1)
– ทำจมูก 15,000 บาท
2010 อายุ 29 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 2)
– ทำจมูกครั้งที่ 2 40,000 บาท
– ฉีด filler คางครั้งแรก 35,000 บาท
2011 อายุ 30 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 3)
– ฉีด filler คางครั้งที่ 2 15,000 บาท
2012 อายุ 31 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 4)
– เริ่ม botox meso fat
– ทำจมูกครั้งที่ 3 45,000 บาท
2013 อายุ 32 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 5)
– แก้ filler คาง + เสริมคางซิลิโคน 50,000
* รวม ค่าศัลยกกรรมที่ไทย
200,000 บาท + botox,meso fat 2 ปี 460,000 บาท = 660,000 บาท

ศัลยกรรมเกาหลี ทำอะไรบ้าง มาดูกัน

2014 อายุ 33 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 6)
– ทำจมูกครั้งที่ 4 ราคา 8 ล้านวอน 240,000 บาท
– ตัดโหนกแก้ม 7 ล้านวอน 210,000 บาท
– ร้อยไหมละลาย เลเซอร์ไขมันหน้า 4.5 ล้านวอน 135,000
*รวม 19.5 ล้านวอน 585,000 บาท

2014 อายุ 33 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 7)
– เสริมหน้าอก 12 ล้านวอน 360,000 บาท

2015 อายุ 34 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 8)
– ทำจมูกครั้งที่ 5 ราคา 15 ล้านวอน 450,000 บาท

2015 อายุ 34 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 9)
– ตัดโหนกแก้มครั้งที่ 2 ราคา 7+3 =10 ล้านวอน 300,000 บาท
– วีไลน์ 10 ล้านวอน 300,000 บาท
– เอาซิลิโคนที่คางออก 1.5 ล้านวอน 45,000 บาท
* รวม 21.5 ล้านวอน 645,000 บาท

2015 อายุ 34 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 10)
– เอนโดไทน์หน้าผาก (ยกคิ้ว) 8 ล้านวอน 240,000 บาท

2016 อายุ 35 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 11)
– accu sculpt ดูดไขมันหน้า 5.5 ล้านวอน 165,000 บาท
– ร้อยไหมไม่ละลาย 6.6 ล้านวอน 198,000 บาท
* รวม 12.1 ล้านวอน 363,000 บาท

2016 อายุ 35 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 12)
– ดูดไขมันต้นขา 7.7 ล้านวอน 231,000 บาท
– ฉีดไขมันก้น 9.9 ล้านวอน 297,000 บาท
* รวม 17.6 ล้านวอน 528,000 บาท

2016 อายุ 35 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 13)
– accu sculpt แก้มบน 3.3 ล้านวอน 99,000 บาท
– ฉีดไขมันหน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม 5.5 ล้าน + prp 1.65 ล้านวอน = 214,500 บาท
– เย็บมุมปากด้านใน 2.75 ล้านวอน 82,500 บาท
* รวม 13.2 ล้านวอน 396,000 บาท

2017 อายุ 36 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 14)
– อัลเทอร่า+เทอมาจ กระชับหน้า 10 ล้านวอน 300,000 บาท

2017 อายุ 36 ปี (ผ่าตัดครั้งที่ 15)
– ทำจมูกครั้งที่ 6 ราคา 11.55 ล้านวอน 346,500 บาท
– เติมปาก filler 1.65 ล้านวอน 49,500 บาท
– เปิดหางตา ดึงลง + เอาไขมันเปลือกตาออก 4.4 ล้านวอน 132,000 บาท
– endotine ครั้งที่ 2 ราคา 8.8 ล้านวอน 264,000 บาท
– elasticum ร้อยไหมสามเหลี่ยม 7.7 ล้านวอน 231,000 บาท
– ยกกระชับแก้ม 2.2 ล้านวอน 66,000 บาท
– Vline ครั้งที่ 2 ราคา 16.5 + 3.3 = 19.8 ล้านวอน 594,000 บาท
– เอาไทเทเนียมที่โหนกแก้มและคางออก 3.3 ล้านวอน 99,000 บาท
– accu sculpt รอบ2 ราคา 6.6 ล้านวอน 196,000 บาท
– ดูดไขมันเนินก้น 4.4 ล้านวอน 132,000 บาท
– ดูดไขมันปีกเอว 4.4 ล้านวอน 132,000 บาท
– botox น่อง 4.4 ล้านวอน 132,000 บาท
* รวม 79.2 ล้านวอน 2,376,000 บาท

2017 อายุ 36 ปี (ศัลยกรรมครั้งที่ 16)
– เติม filler ปากบน-ล่าง (ครั้งที่ 2) 1.5 cc 2.25 ล้านวอน 67,500 บาท
– Botox กล้ามเนื้อคิ้ว 0.44 ล้านวอน 13,200 บาท
* รวม 2.69 ล้านวอน 80,700 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ไทย 660,000 บาท + เกาหลี 210.79 ล้านวอน 6,323,700 บาท
ทั้งหมด 6,983,700 บาท
*** ไม่รวมการดูแลผิวเป็นประจำ ***

ในรูปปี 2007 อายุ 26 ปี 160 cm. 44-45 kg.
เสริมจมูกครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 18 ปี (ปี 1999) ราคา 15,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่เคยทำศัลยกรรมอะไรเลย ผ่านมา 8 ปี ผิวหนังบางลง เริ่มเห็นแกนซิลิโคนชัดขึ้นเรื่อย และ เริ่มเบี้ยวชัดขึ้น ส่วนโครงหน้าจะเห็นโหนกแก้มด้านข้าง บาน และสูง ต่ำ ไม่เท่ากัน ปลายคางตัด และคางหลบส่วนกรามก็ดูเบี้ยว หน้าผากแบน ตากับคิ้วชิดกันมาก ปากดูยื่น (ส่วนนึงจากการใส่เหล็กจัดฟันด้วย) แก้มเยอะ ตาดูลึก หามุมถ่ายรูปยากมากๆ

ปี 2008 อายุ 27 ปี 160 cm. 44-45 kg.
จะเห็นว่าบางรูปผิวสว่างขึ้น เพราว่าจริงๆแล้วเป็นคนผิว 2 สี และก่อนหน้านั้นไปเที่ยวทะเลบ่อย ชอบเล่นกิจกรรมทางน้ำ ตากแดดทั้งวัน พอเริ่มงด หันมาทำพวกสกินแคร์ เลเซอร์พวกกระ ก็ดีขึ้นและในรูปถ่ายทริปเดียวกัน ต่างกันตรงสภาพแสงค่ะ

 

Mar 2009 อายุ 27 ปี 160 cm. 47-48 kg.
ช่วงนี้น้ำหนักขึ้น จะเห็นว่าหน้าเต็มมาก แทบจะกลมเลย หน้าด้านข้างเหนียงเริ่มมาการที่ใช้กระเป๋าแพงๆ ไม่ได้ช่วยให้สวยขึ้นเลย 5 5 5

 

Oct 2009 อายุ 28 ปี 160 cm. 46-47 kg.

คิ้วกับตาใกล้กันมาก ต้องคอยเอาผมมาปิดหน้าปิดโหนกแก้มไว้ตลอด ไม่มั่นใจ

May 2010 อายุ 29 ปี 160 cm 45-46 kg
เป็นกันมั้ย ? เวลาถ่ายรูปจะต้องถ่ายไกลๆ หรือเอาผมมาปิดหน้า จนหน้าแทบจะหายไปครึ่งหน้าแล้ว ไม่มั้นใจที่จะโชว์หน้าเต็มๆ หามุมหลอกตัวเองว่าหน้าเล็ก ส่วนจมูกซิลิโคนเริ่มเอียงชัดขึ้นเรื่อยๆ


June 2010 อายุ 29 ปี 160 cm. 45-46 kg. (1-7 วันหลังผ่าตัด)
ตัดสินใจเสริมจมูกครั้งที่ 2 (เปลี่ยนหมอ เพื่อนแนะนำ ตอนนั้นหมอคนนี้ดังมากในโซเชี่ยล) ราคา 40,000 บาท เปลี่ยนซิลิโคนอันใหม่ หมอให้แกะพลาสเตอร์ที่จมูกออกในวันที่ 4-5 หลังจากผ่าตัด เขียวและช้ำมาก บวมมาก ครั้งแรกที่ทำ ก็บวมมากเหมือนกัน ดูแลตัวเองดีมาก ประคบตามที่หมอสั่ง กินยาเป็นประจำ กินยาลดบวม น้ำมะพร้าว ใบบัวบกทุกวัน แต่ยุบช้ามาก ช้ำมาก
* จริงๆ ไม่เคยคิดอยากจะทำศัลยกรรมอีก เพราะกลัวทำออกมาแล้วแย่กว่าเดิม แต่ว่าซิลิโคนอันเก่าเริ่มเอียงชัดขึ้นเรื่อยๆ เลยคิดว่าควรจะเปลี่ยน


July 2010 (1 เดือนหลังผ่าตัด)
หน้ายังอวตารอยู่ สันจมูกยังบวมมาก สังเกตุดีๆ จะเห็นซิลิโคนยาวถึงปลายจมูก ดูช่วงปลายจะแหลมๆ


Oct 2010 อายุ 29 ปี 160 cm 45-46 kg
3 เดือนหลังทำจมูกครั้งที่ 2 (ก่อนฉีด filler ที่คาง) หลังจากทำจมูก รู้สึกว่าหามุมถ่ายรูปง่ายขึ้น แต่ว่าหน้าจะดูกลมๆ คางสั้น แก้มเยอะ ต้องเอาผมลงมาปิดๆหน้า ทำให้ดูรุงรัง


Oct 2010 อายุ 29 ปี 160 cm 45-46 kg
– 3 เดือนหลังทำจมูกครั้งที่ 2
ฉีด Filler ที่คางเป็นครั้งแรก 35,000 บาท
ฉีดกับหมดที่คิดว่าไว้ใจได้ เห็นเพื่อนไปเติมที่สันจมูกมา เพื่อนบอกว่ามันยุบ เชื่อเพื่อนเลยไปทำ
จริงๆแล้วอยากทำคางมาก แต่กลัวว่าจะดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่เข้ากับหน้า เลยคิดว่าลองฉีดดูก่อน ถ้ามีคางแล้วเข้ากับหน้าจึงจะไปเสริมซิลิโคนที่คาง
( เป็นความคิดที่ผิดมาก และเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ ใครที่คิดจะฉีด filler ที่คางใหเคิดดีๆ)
ช่วงนี้จะหามุมถ่ายรูปง่ายขึ้น แต่ก็ถ่ายเป็นร้อยกว่าจะได้ดีๆซักรูป และถ้าสังเกตุให้ดี รูปแรกบนซ้าย จะเห็นว่าคางเบี้ยว ต้องใส่แว่น ใส่พรอบเยอะๆ หรือเอาผมลงมาปิดหน้า บังโหนกแก้มไว้ บางรูปจะสังเกตุเห็นว่า ปลายจมูกแดง และดูแหลมๆ มองเห็นปลายซิลิโคน


Jan 2011อายุ 29 ปี 44-45 kg.
– 6 เดือนหลังทำจมูกครั้งที่ 2
– 3 เดือนหลังฉีด Filler ที่คางครั้งแรก
เติม filler ครั้งที่ 2 15,000 บาทBotox ลดกรามและ lift หน้าจะทำเป็นประจำปีละ 3 ครั้ง ใช้ของ Allergan ตลอด และ ฉีดลดไขมันที่หน้า Meso Fat เดือนละครั้ง
คหสต. คิดว่า Meso Fat ไม่ค่อยเห็นผล
… หลายๆคน ที่ฉีด filler แรกๆ คงมีช่วงที่มันดูสวย(ขึ้น) และนี่ก็คือช่วงที่สวยสุดของเรา มันแลดูไปกันได้ด้วยดี (กับ filler) จนคิดว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ 5 5 5 ช่วงนี้ถ่ายรูปง่ายขึ้น ก็จะหลงตัวเองหน่อย เพราะมีคนทักเยอะว่าสวยขึ้น (สวยบางมุมเท่านั้นแหละ) แต่หารู้มั้ยว่าหายนะกำลังจะมาแล้ววววว


July 2011 อายุ 30 ปี 160 cm. 45 kg.
– ครบ 1 ปี หลังทำจมูกครั้งที่ 2
– ครบ 6 เดือนหลังจากเติม filler ที่คางครั้งที่ 2
จะเห็นว่าช่วงนี้โดยรวมยังหามุมถ่ายรูปได้อยู่ แต่ว่าปลายจมูกรูปใสมากขึ้น ปลายจมูกยังแดงอยู่ และเจ็บเป็นบางครั้ง




July 2011 อายุ 30 ปี 160 cm 45 kg
สังเกตต้นขา ช่วงนี้หนักประมาณ 44-45 แต่เป็นคนต้นขาใหญ่ รอบด้าน จะดูหลอกตาในบางมุม แต่ถ้ายืนตรงขาชาชิดกัน ต้นขาจะบียดกันกมาก เวลาถ่ายรูปจะได้มุมข้างหรือหน้าตรงแล้วเอาผมมาปิดๆด้านข้าง พอเปิดหน้าปุ๊บ ตายทันที หน้าผากแคบแบน เห็นโหนกคิ้วชัด หน้าบวม ตาดูลึก มีคางเพราะฉีดก็จริง แต่ยังดูปากยื่นอยู่ สันจมูกดูเป็นแท่ง ปลายจมูกใส มองเห็นซิลิโคน และดูแหลม


Jan 2012 อายุ 30 ปี 160 cm 45 kg
เวลาถ่ายรูปต้องหันข้าง และใส่แว่น


Mar 2012 อายุ 30 ปี 160 cm 45 kg
– ครบ 1 ปี 8 เดือน หลังทำจมูกครั้งที่ 2
รูปแรกจะเห็นปลายจมูกชัดมากกก


Apr 2012 อายุ 30 ปี 160 cm 45 kg
เนื้อปลายจมูกบางลง และปลายจมูกก็แหลมขึ้น


July 2012 อายุ 31 ปี 160 cm. 45-46 kg.
– ครบ 2 ปี หลังทำจมูกครั้งที่ 2
– ครบ 1 ปี 6 เดือน หลังจากเติม filler ที่คางครั้งที่ 2
ปลายคางจะดูห้อย ปลายจมูกดูเชิ่ดขึ้น





Oct 2012 อายุ 31 ปี 160 cm 45-46 kg
จมูกทรงนี้จะมีสันที่โด่ง ทำให้ใส่แว่นง่าย ไม่หลุด หน้าผากแบนมีโหนกแก้ม แว่นใหญ่ๆ จะช่วยปิดและอำพรางได้ดีระดับนึง เลยเป็นคนที่ติดแว่นมาก ใส่บ่อยจนถึงขั้นแพ้แสงไปช่วงนึง ขาใหญ่มาก เป็นคนซ่อนรูป ไขมันขึ้นทุกส่วน หุ่นอวบ แต่มีเอว


Nov 2012 อายุ 31 ปี 160 cm 45-46 kg
– วันที่ 7 และวันที่ 14 หลังจากทำจมูกเป็นครั้งที่ 3 เปลี่ยนซิลิโคนอันใหม่ และใช้กระดูกอ่อนหลังหูรองที่ปลายจมูก 45,000 บาท (หมอคนเดิม)
เนื่องจากมีอาการเจ็บที่ปลายจมูกถี่ขึ้นเรื่อยๆ จึงตัดสินใจเข้าไปปรึกษาคุณหมอ และหมอแนะนำให้เปลี่ยนซิลิโคนใหม่ และใช้กระดูกอ่อนหลังหูรองที่ปลายจมูก เพราะว่าเรามีเนื้อจมูกน้อย และ บาง บอกหมอว่า อยากให้หน้าหวานๆ
หลังจากทำได้ 7 วัน ที่สันจมูกมีอาการเลือดคั่ง หมอจึงเจาะและดูดเลือดออก ขอบอกว่าเจ็บมาก !!!



Nov 2012 อายุ 31 ปี 160 cm 45-46 kg.
– หลังจากทำจมูกครั้งที่ 3 ครบ 1 เดือน ยังบวมอยู่มาก
นมแบน ก้นไม่มี ต้นขาใหญ่ แต่โชคดีที่มีเอวเว้าเข้าไปนิดนึง จมูกยังบวมมาก ไปเที่ยวต้องใส่แว่นถ่ายรูปตลอด ถ่ายรูปเสร็จก็รีบถอด


Jan 2013 อายุ 31 ปี 160 cm 45 kg
– หลังจากทำจมูกครั้งที่ 3 ครบ 3 เดือน
สันจมูกยังใหญ่อยู่ ปลายจมูกยังดูกลมๆ โตๆ


Jan 2013 อายุ 31 ปี 160 cm 45 kg
ปลายคางเริ่มห้อยมากขึ้น อยู่ๆ จะรู้สึกเจ็บขึ้นมา


Feb 2013 อายุ 31 ปี 160 cm 45 kg
คางที่ฉีด Filler เริ่มปวดถี่ขึ้นเรื่อยๆ


Apr 2013 อายุ 31 ปี 160 cm 45 kg
หลังทำจมูกครั้งที่ 3 ครบ 6 เดือน
เอา Filler ที่คางออก และเสริมซิลิโคนที่คาง 50,000 บาท
วันที่ 15 เมษา หลังผ่าตัด 1 ชม. แรก – 2 วันหลังผ่าไปพบคุณหมอที่ทำจมูกให้ เพื่อเช็คอาการจมูก เพราะรู้สึกว่าจมูกยังดูใหญ่อยู่หมอบอกว่า ทำได้แค่นี้เป็นเพราะพื้นฐานเรา ให้ไลท์ดั้งเอา (เงิบกับคำตอบ แต่ก็ช่างมัน) และหมอแนะนำให้ขูด filler ทันที ให้งดน้ำและอาหาร และรอผ่าภายในวันนี้ ตอนนั้นหมอผ่าอยู่หลาย รพ. แต่เราเลือก รพ.ที่แพงสุดและดีที่สุด เหราะห่วงเรื่องความปลอดภัย ตอนที่ไปปรึกษาหมอไม่ได้เตรียมเงินสดไปมีแต่บัตรเครดิต เลยต้องให้คนที่บ้านเอาเงินสดมาให้ และมาขับรถกลับบ้าน
จำได้ว่ามาหาหมอช่วงบ่าย รอผ่าตัดจนถึงเกือบเที่ยงคืน เพราะช่วงนั้นหมอจะคิวแน่นมาก


3-4 วันหลังผ่า เป็นวันที่บวมที่สุด


7 -14 วันหลังผ่า …วันที่ 7 หลังผ่าต้องไปเจาะเลือดคั่งออก บวมมาก


Jul 2013 อายุ 32 ปี 160 cm. 45 kg.
– 3 เดือน หลังผ่าตัดเสริมคาง
ยังมีอาการบวมอยู่มาก ยังมีรอยเหลืองๆ หลังผ่าตัด ต้องแต่งหน้าปิด
หมอบอกว่าเป็นเพราะขูดเอาฟิลเลอร์ออก จะเข้าที่ช้ากว่าเคสปกติ รูปทั้งหมดคือทริปเดียวกัน ช่วงระยะเวลาห่างกันไม่กี่วัน ถ่ายรูปต้องใส่แว่น และเอียงข้าง

Aug 2013 อายุ 32 ปี 160 cm. 45 kg.
– 4 เดือนหลังจากเสริมคางด้วยซิลิโคน
อาการเริ่มดีขึ้น เริ่มดูเป็นธรรมชาติขึ้น แต่หน้าตรงจะเห็นได้ชัดว่าคางเบี้ยว


oct 2013 อายุ 32 ปี 160 cm.. 45 kg.
– หลังจากเสริมซิลิโคนที่คางครบ 6 เดือน คางเล็กลงมากแต่ยังเบี้ยวอยู่


Nov 2013 อายุ 32 ปี 160 cm. 46-47 kg.
– หลังจากเสริมคางด้วยซิลิโคนครบ 7 เดือน
ช่วงนี้อยู่ญี่ปุ่น กินเยอะมากน้ำหนักขึ้น หน้าจะดูบวมมาก เวลาถ่ายรูป ต้องหันข้าง หรือเอาผมมาปิดๆ


Jan 2014 อายุ 32 ปี 160 cm. 45 kg.


Oct 2019 อายุ 38 ปี 
– mini face lifting 11 ล้านวอน 286,000 บาท
– ดูดไขมันเหนียง กรอบหน้า 5.5 ล้านวอน 143,000 บาท
– ฉีดไขมัน ขมับ ร่องแก้ม ใต้ตา หนาผากนิดหน่อย 4.4 ล้านวน 114,400 บาท
– เย็บด้านในปากล่าง (เป็นคนปากล่างห้อยนิดนึง ยกปากล่างขึ้นไป จะได้เห็นคางยาวขึ้น) 2.2 ล้านวอน 57,200 บาท
– ดูดไขมันเข่า 4.4 ล้านวอน 114,400
– botox น่อง 6.6 ล้านวอน 171,600 บาท
– ดูดไขมันต้นขา 7.7 ล้านวอน 200,200 บาท

 

DA Plastic Surgery : Korea
Website :
 http://daprseng.com 

CELL PHONE
+82 10-3455-7111

E-MAIL
[email protected]

LINE
daplasticsurgery

_____________________________

SS Agency ศึกษาและค้นหาคุณหมอที่มีความชำนาญโดยแท้จริงไม่อิงกระแส
https://www.facebook.com/ssagencykorea/
Line id : @ssagency , @da_thailand

FB: da plastic surgery thailand 
http://bit.ly/FB_DA_TH

IG: daplasticsurgery_th
http://bit.ly/IG_DA_TH

Youtube: da plastic surgery thailand
http://bit.ly/YoutubeDA_TH

Website: da plastic surgery thailand
http://www.daprsth.com

สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่

โดดเด่น
ศัลยกรรม
webdodeden

 

ป้ายกำกับ: | | |

เรื่องน่าสนใจ