ที่มา: TNN 24

วันนี้ (26 ม.ค. 59) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่สหรัฐอเมริกายอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากพายุหิมะถล่ม เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 36 คน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์หลังพายุหิมะผ่านพ้น เริ่มค่อยๆ กลับคืนสู่ปกติ โดยเริ่มมีการเก็บกวาดกำจัดหิมะที่กองทับถมสูงทั่วภาคตะวันออกของประเทศเมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) หลังจากถูกพายุหิมะครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ พัดถล่มตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนคนอเมริกันตั้งฉายาให้พายุหิมะครั้งนี้ว่า “สโนว์มาเก๊ดด้อน” หรือ “สโนว์ซิลล่า” โดยมีหิมะท่วมสูงถึง 3 ฟุต หรือ 91 เซนติเมตรใน 5 รัฐ และปริมาณหิมะตกหนักที่สุดทำลายสถิติที่ 42 นิ้ว ในเมืองเกล็นแกรี่ รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย คาดว่าต้องใช้เวลานานหลายวันในการกำจัดหิมะและกลับสู่สภาพปกติ ส่วนพายุหิมะได้อ่อนกำลังลงแล้วและพัดออกมหาสมุทรแอ๊ตแลนติกไปแล้ว คาดว่า จะทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในอังกฤษต่อไป 

16

โดยสถานการณ์ในภาคตะวันออกของสหรัฐหลังพายุหิมะผ่านพ้น เริ่มกลับสู่ปกติเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สนามบินแห่งชาติเรแกน และสนามบินต่างๆ ในกรุงวอชิงตัน นครนิวยอร์ก เมืองริชมอนด์และเมืองชาร์ล็อต เริ่มเปิดให้บริการแล้ว และเที่ยวบินในกรุงวอชิงตันดีซีและเมืองบัลติมอร์เริ่มกลับมาเป็นปกติ แต่ยังมีประมาณ 1,510 เที่ยวบินถูกยกเลิกหรือล่าช้าทั่วภาคตะวันออกเมื่อวานนี้ ส่วนรถไฟทั่วภาคตะวันออกเริ่มกลับมาให้บริการได้บ้าง 

ในกรุงวอชิงตันดีซี การเก็บกวาดหิมะจำนวนมหาศาลต้องใช้เวลานานหลายวัน เจ้าหน้าที่เริ่มเก็บกวาดหิมะออกจากสถานที่สำคัญอย่างอาคารรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งเลื่อนการลงมติทั้งหมดในสัปดาห์นี้ไปเป็นสัปดาห์หน้า รถไฟใต้ดินเริ่มกลับมาให้บริการอย่างจำกัดมากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากปิดให้บริการนาน 3 วันตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว แต่หน่วยงานราชการของรัฐบาลกลางส่วนใหญ่ยังคงปิด แต่โรงเรียนเริ่มเปิดแล้ว

ส่วนที่นครนิวยอร์ก ซึ่งมีหิมะตกสูงเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของนิวยอร์ก คือ 26.8 นิ้ว หรือ 68 เซนติเมตร สถานการณ์กำลังกลับคืนสู่สภาวะปกติ โดยรถไฟใต้ดินกลับมาให้บริการเกือบจะเป็นปกติแล้ว ส่วนโรงเรียนทุกแห่งเปิดเรียนได้แล้ว ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดทำการตามปกติ แต่ประชาชนในย่านควีนส์บ่นว่าการกำจัดหิมะของเจ้าหน้าที่เชื่องช้ามาก

เรื่องน่าสนใจ