ที่มา: dodeden

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ส่งทีมนักกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ ลงตรวจสอบคลินิกฟอกสีฟันของดารา ที่ย่านสยามสแควร์ ซอย 5 กทม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ชี้ประชาชน ดารามีสิทธิ์ขออนุญาตเป็นเจ้าของคลินิกได้ แต่ผู้ดำเนินการให้บริการจะต้องเป็นทันตแพทย์เท่านั้น 

หากไม่มีจะเข้าข่ายคลินิกเถื่อน ทันตแพทย์เถื่อน  มีโทษจำคุก 3 ปี และปรับ 30,000- 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ  ชี้การฟอกฟันจะต้องทำโดยทันตแพทย์เท่านั้น  เนื่องจากการฟอกฟันขาวหากทำไม่ถูกต้อง สารเคมีจะทำลายเนื้อฟัน   เสียวฟัน เหงือกเป็นแผลได้  

y1lhmi90z2hf

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าได้รับการประสานจากทันตแพทยสภา เกี่ยวกับมีดารานักแสดงเปิดร้านรับฟอกสีฟันในย่านสยามสแควร์ ซอย 5 ซึ่งเป็นที่นิยมของวัยรุ่น โดยได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่และนักกฎหมายลงไปดำเนินการตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว 

โดยมีโทษ 2 สถาน ได้แก่ ทำฟันโดยไม่ใช่ทันตแพทย์ ไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเปิดร้านทำฟันโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้ทั่วประเทศมีสถานพยาบาลทันตกรรมที่ได้รับอนุญาตจำนวน 4,272 แห่ง ในจำนวนนี้อยู่ในกทม. 1,496 แห่ง

“ขอเรียนว่าในการขออนุญาตเปิดสถานพยาบาลด้านทันตกรรมนั้น ประชาชนทุกคนรวมถึงดารานักแสดงสามารถขออนุญาตเป็นเจ้าของกิจการได้ แต่ต้องมีผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ซึ่งจะต้องเป็นทันตแพทย์ และมีใบประกอบโรคศิลปะเท่านั้น

เนื่องจากเป็นเรื่องของการรักษาพยาบาล ดำเนินการกับชีวิตของผู้ป่วย ต้องควบคุมมาตรฐานทุกด้านทั้งการรักษา การใช้เครื่องมือต่างๆในการให้บริการอย่างปลอดภัย เป็นไปตามกฎหมายคือพระราชบัญญัติสถานพยาบาลพ.ศ. 2541 หากไม่มีการขออนุญาต และเปิดให้บริการโดยใช้ผู้ที่ไม่ใช่ทันตแพทย์ จะเข้าข่ายเป็นสถานพยาบาลเถื่อน ทันตแพทย์เถื่อนทันทีและมีโทษตามที่กล่าวมา” อธิบดีกรม สบส.กล่าว

ด้าน ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ  ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า  ขณะนี้การฟอกสีฟันกำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่น ดารานักแสดง เพราะเชื่อว่าทำให้ฟันขาวสวย เสริมบุคลิกใบหน้าโดดเด่นขึ้น   โดยสารฟอกสีฟันจะแทรกซึมผ่านเคลือบฟัน เพื่อขจัดเม็ดสีในชั้นเนื้อฟัน  สีจะค่อยๆจางลง ฟันขาวขึ้น

หลังฟอกจะอยู่ได้ประมาณ 2-3 ปี จากนั้นสีของฟันก็จะเกิดขึ้นใหม่อีก น้ำยาที่นิยมใช้มี 2 ชนิด คือไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) และ คาร์บาไมด์ เพอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) ไปทำปฏิกิริยากับสารที่มีภายในฟัน ทำให้สีที่สะสมอยู่ในเนื้อฟันหลุดออกมา จึงทำให้สีอ่อนลงโดยไม่มีผลต่อโครงสร้างของฟัน โดยการฟอกต้องอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ผู้ที่จะฟอกสีฟันควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 13 ปี ซึ่งฟันแท้ขึ้นครบแล้ว

ทั้งนี้ในการฟอกสี จะมีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่นการใช้แสงยูวี (Ultra Violet :UV)  แสงสีม่วง ซึ่งมีความยาวคลื่น 320 นาโนเมตรมาใช้ระหว่างดำเนินการฟอกด้วย   เพื่อช่วยให้สารเคมีทำปฏิกิริยากับเนื้อฟันดีขึ้น โดยต้องควบคุมการใช้โดยทันตแพทย์เช่นกัน

ในการฟอกสีฟันนั้นมีข้อระมัดระวัง โดยสารเคมีที่ใช้ฟอกจะต้องมีความเข้มข้นประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ หากทำไม่ถูกวิธีสารเคมีอาจทำลายเนื้อเยื่อรอบฟัน เหงือกอักเสบ น้ำยาจะกัดผิวเคลือบฟัน ทำให้เกิดอาการเสียวฟัน เนื้อฟันถูกทำลาย  ทำให้ฟันสึกกร่อน ฟันบางลง แตกหักง่าย  ทันตแพทย์อาคมกล่าว

ขอความร่วมมือประชาชน หากจะเข้าใช้บริการที่คลินิกทันตกรรม  ขอให้ดูหลักฐานสำคัญ หากถูกต้องกฎหมายจะต้องติดใบขออนุญาตเปิดคลินิกจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ  และติดหลักฐานทันตแพทย์ที่เป็นผู้ดำเนินการ มีใบประกอบวิชาชีพ พร้อมรูปถ่ายที่ตรงกับตัวจริงที่ให้บริการ

หากไม่มีขอให้สงสัยว่าอาจเป็นคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน  ขอให้แจ้งที่สายด่วนคุ้มครองผู้บริโภคด้านบริการสุขภาพ หมายเลข 02-193-7999  และที่สารวัตรออนไลน์ เฟซบุคสถานพยาบาลเถื่อน  เพื่อร่วมกันเป็นหูเป็นตาสร้างความปลอดภัยแก่สังคมไทยทุกพื้นที่

เรื่องน่าสนใจ