ที่มา: Matichon Online

นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวภายหลังเข้าร่วมชี้แจงความเหมาะสมภาพยนตร์ เรื่อง “อาบัติ” ว่า ในฐานะผู้แทนจากพศ.ได้รับเชิญจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนต์และวีดิทัศน์ กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ให้เข้าร่วมชี้แจงในแง่มุมด้านศาสนาในการพิจารณาภาพยนตร์เรื่องอาบัติ 

ภายหลังได้ชมภาพยนตร์ทั้งเรื่องแล้ว พบว่าภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงออกถึงภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อศาสนาพุทธ หากมีการเผยแพร่ออกไปประชาชนต้องเข้าใจในวัตรของพระสงฆ์ที่ผิด ทั้งนี้ยังมีหลายฉากที่ดูแล้วล่อแหลม เช่น เณรโอบเอวสีกาเข้ากุฏิ เณรจูบปากสีกา เป็นต้น และบทพูดของสีกาบางตอนที่แสดงออกถึงความไม่เกรงกลัวต่อบาป เช่น ความรักไม่จำเป็นว่าต้องเป็นพระสงฆ์หรือฆราวาส เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายๆฉากที่ผู้เป็นพระสงฆ์แสดงออกถึงความไม่เคารพต่อศาสนา เช่น เณรเดินใส่รองเท้าขึ้นอาสนะสงฆ์ เณรหิ้วเศียรพระพุทธรูปวางลงบนพื้น เป็นต้น 

ดังนั้นตนจึงไม่เห็นด้วยหากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับอนุญาตให้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ เพราะหากมีการเข้าฉายชาวพุทธอาจรับไม่ได้และทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคมตามมา 

138

ด้านนายปรัชญา ปิ่นแก้ว โปรดิวเซอร์ของเรื่อง”อาบัติ” กล่าวว่า ตนจะปรึกษาพระมหาวีรพล วีรญาโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวา เพื่อขอแนวคิดมาประกอบการแก้ไขภาพยนตร์ ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะแก้ไขหรือยื่นอุทธรณ์ แต่จะต้องหาวิธีที่ดีที่สุดและต้องรีบดำเนินการ

หากมีการแก้ไขคงต้องตัดบางฉากหรืออธิบายเนื้อหาบางอย่างให้ชัดเจนขึ้น หรืออาจใส่เนื้อหาบทสรุปสุดท้ายเข้าไปด้วย เหมือนกรณีภาพยนตร์เรื่องนาคปรก มีการอธิบายขึ้นตัวหนังสือตอนจบ ถึงชะตากรรมของคนทำไม่ดีว่าสุดท้ายก็ได้ผลกรรมตอบแทนกลับไป หากการผลิตภาพยนตร์ต้องเสนอแต่มุมมองของพระสงฆ์แค่ในแง่บวกนั้น ตนไม่เห็นด้วย 100 % เพราะภาพยนตร์มีบริบทของตัวเอง ทั้งนี้ตนมองว่าทุกวงการสามารถมีทั้งคนดีและคนไม่ดีอยู่ในสังคม ซึ่งภาพยนตร์เรื่องอาบัติ ได้เสนอมุมของคนเลวที่สุดท้ายได้รับผลกรรมกลับไป และไม่มีเนื้อหาส่วนใดที่โจมตีศาสนาพุทธ เพียงแต่นำเสนอพระสงฆ์ที่ประพฤติไม่ดีแล้วได้รับผลกรรมเช่นกัน

เรื่องน่าสนใจ