ที่มา: โดดเด่นดอทคอม

นำเสนอข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม

ภาพ sanook , กรมควบคุมโรค

วัยรุ่นติดกามโรคสูงขึ้นเกือบ 5 เท่าตัว เหตุใช้ถุงยางเพียงร้อยละ 43 และเลือกไซส์ที่ใหญ่เกินขนาดของจริงเพราะกลัวจะถูกหยามว่าเล็ก โดย ผู้สื่อข่าว เว็บไซต์ โดดเด่นดอทคอม ( www.dodeden.com ) รายงานว่า….. 

ขณะนี้สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ และปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง เนื่องมาจากการใช้ถุงยางอนามัยลดลง

size

ข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ปี 2557 พบว่า อัตราการป่วยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ โรคหนองใน ซิฟิลิส หนองในเทียม แผลริมอ่อน และกามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลืองทั่วประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 35.89 ต่อประชากรแสนคน

ส่วนโรคเอดส์จากการคาดการณ์การระบาดในปี 2557 พบผู้ป่วยเอดส์ที่เป็นผู้ใหญ่สะสมประมาณ 1,194,515 คน ยังมีชีวิตอยู่ 438,629 คน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,695 คน ร้อยละ 90  เกิดจากการรับและถ่ายทอดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน

ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างเลือกซื้อถุงยางอนามัยจากร้านสะดวกซื้อมากเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 66.5 จากห้างสรรพสินค้าร้อยละ 49.7 และจากร้านขายยาร้อยละ 43.5

นอกจากนี้พบว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่ร้อยละ 43.6 รู้สึกเขินอายต่อการเลือกซื้อถุงยางอนามัยในร้านสะดวกซื้อและร้ายขายยา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีร้อยละ 41.2

168375-attachment

โดยกรมควบคุมโรคได้จัดงบประมาณ 47 ล้านบาท ซื้อถุงยางอนามัยขนาดที่เหมาะสมกับคนไทยจำนวน 43 ล้านชิ้น

ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นขนาด 52 มิลลิเมตร ซึ่งใช้มากที่สุด แจกฟรีแก่ประชาชนทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการสูงถึงเกือบ 270 ล้านชิ้นต่อปี

นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า ประเด็นที่น่าห่วงของวัยรุ่นขณะนี้คือ การเลือกถุงยางอนามัยขนาดที่ไม่เหมาะสม มักจะเลือกขนาดใหญ่กว่าตนเอง

เพราะมีทัศนคติกลัวถูกเหยียดหยามจากเพื่อนว่าขนาดอวัยวะเพศเล็ก ไม่สมศักดิ์ศรีความเป็นชาย เกิดปัญหาถุงยางอนามัยหลุด หลวมมีความเสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์หรือตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้น

เรื่องน่าสนใจ