ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

สองแม่ลูกมีชีวิตสุดลำบาก คนแม่เป็นอัมพฤกษ์ ไม่มีเรี่ยวแรง ส่วนลูกสาวอายุแค่ขวบ 7 ขวบ เรียนป.1 ต้องคอยดูแล ครูเวทนาให้อาหารกลับมากินที่บ้าน ส่วนเสาร์อาทิตย์ ต้องขอจากชาวบ้าน พระพยายามบอกบุญช่วย เผย เด็กมีชีวิตเหมือนวัลลี…

EyWwB5WU57MYnKOuX1763VyY7zwrivoKO5UO3TvKzmhyT6gNHxOmYS

วันที่ 14 ก.พ. 59 ผู้สื่อข่าว จ.เพชรบูรณ์ ได้รับทราบจาก พระบุญเกิด ตาหยอง ฉายา ทกุสรจิตโต พระลูกวัดโฆษาท่าช้าง หมู่ 2 ต.ห้วยไร่ อ.หล่มสัก ว่ามีครอบครัวที่ยากจน น่าเวทนาสงสาร อยู่บ้านเลขที่ 119/1 หมู่ 10 ต.ท่าอิบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปบ้านหลังดังกล่าว

พบนางประนอม ถองทอง อายุ 50 ปี หญิงขาพิการ ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง พูดจาฟังไม่ค่อยชัดเนื่องจากป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ อยู่ในบ้านไม้สภาพเก่าซอมซ่อ เล่าให้ฟังว่า ตนเองอาศัยอยู่กับ ด.ญ.นรนุช ถองทอง หรือ น้องแคท ลูกสาว อายุ 7 ขวบ เรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.1 ที่โรงเรียนบ้านบุ่ง ต.ท่าอิบุญ ก่อนหน้านี้ ตนก็มีร่างกายปกติแข็งแรงดี อยู่กินกับสามีที่บ้านหลังนี้ มีบุตรด้วยกันสองคน กระทั่งตนคลอดบุตรคนที่สามคือน้องแคท ก็เกิดความผิดปกติในร่างกาย คือร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง ขาทั้งสองข้างไม่สามารถใช้การได้ปกติ ทำให้สามีทิ้งไปมีภรรยาใหม่ แล้วย้ายไปอยู่ที่อื่นตั้งแต่น้องแคทอายุได้ไม่กี่เดือน

นางประนอม กล่าวอีกว่า ต่อมา ลูกคนโตกับคนกลาง ไปทำงานที่กรุงเทพฯ ในเวลาไล่เลี่ยกัน และไม่เคยกลับมาอีกเลย ก่อนหน้านี้เคยโทรศัพท์ติดต่อไปหาสามี ขอเงินมาเลี้ยงดูน้องแคทบ้าง ก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือแม้แต่น้อย ต้องใช้ร่างกายที่พิการเลี้ยงดูน้องแคทเพียงลำพังมาตลอด ด้วยเงินคนพิการเดือนละ 500 บาท กระทั่งปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 800 บาท ที่ผ่านมาตนเองต้องลากสังขารไปขอนมกล่องและอาหารจากชาวบ้านมาให้ลูกกิน ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง กัดฟันเลี้ยงลูกจนเติบโตและส่งเข้าเรียนหนังสือ

กระทั่งครูของลูกสาวมาเห็นและเกิดความเห็นใจสงสารตนและลูก จึงให้ข้าวและกับข้าวฝากลูกสาวมาให้ตอนเย็นหลังเลิกเรียนทุกวัน แต่ถ้าเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ลูกสาวไม่ได้ไปโรงเรียน ก็จะไม่มีอาหารกิน ต้องไปขอข้าวชาวบ้านมาประทังชีวิต ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น อาหารหลักที่ตนเองใช้เลี้ยงลูกคือข้าวเหนียวคลุกเกลือ หรือข้าวเหนียวจิ้มน้ำปลา

“ทุกวันนี้ มีชีวิตที่ยากลำบากเหลือเกิน บ้านที่อาศัยอยู่ก็เป็นบ้านของแม่สามีที่ใช้ซุกหัวนอน ไม่รู้ว่าจะต้องย้ายออกไปวันไหน อยากให้ลูกสาวเรียนหนังสือเพื่อจะได้มีความรู้สูงๆ เติบโตมาจะได้มีงานทำ ไม่ต้องมีชีวิตลำบากเหมือนกับแม่ จึงอยากขอวิงวอนผู้ใจบุญให้ความช่วยเหลือด้วย” นางประนอม กล่าว

ด้าน พระบุญเกิด ตาหยอง ฉายากุสรจิตโต พระลูกวัดโฆษาท่าช้าง กล่าวว่า รู้เรื่องความลำบากของเด็กและครอบครัวนี้จากโยมคนหนึ่ง จึงเดินทางมาดู จากนั้นพยายามหาทางช่วยเหลือ โดยนำเรื่องราวไปบอกแก่อุบาสกอุบาสิกาที่เข้ามาทำบุญในวัดและนำเรื่องราวไปเผยแพร่ผ่านโลกโซเชียลทั้งเฟซบุ๊กและไลน์ รวมถึงผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เพื่อขอให้เป็นสื่อกลางในการขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ มีชาวบ้านหลายรายตั้งชื่อน้องแคทว่าเด็กหญิงวัลลีสอง เพราะมีชะตาชีวิตคล้ายเด็กหญิงวัลลียอดกตัญญู ที่โด่งดังเมื่อหลายปีก่อน

สำหรับผู้ใจบุญสามารถบริจาคเงินให้ความช่วยเหลือได้ที่บัญชีชื่อ นางประนอม กองทอง บัญชีเงินฝากออกทรัพย์ ธ.ก.ส.สาขาบ้านติ้ว เลขที่บัญชี 020067800180 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หลวงพี่บุญเกิด 089-6448122

เรื่องน่าสนใจ