ที่มา: dodeden

หนุ่มหน้าหล่อ โชว์มังกรในที่สาธารณะ ล่าสุดเหิมเกริมช่วยตัวเองในสนามบิน

ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอมรายงานว่า ช่วงระยะหลังมานี้ มักจะมีโรคจิตทั้งผู้ชายแท้ และ เกย์ มีพฤติกรรมโชว์อวัยวะเพศ และ ช่วยตัวเองในที่สาธารณะบ่อยครั้ง โดยจะทำในลักษณะถ่ายภาพ และ คลิปไปด้วย โดยไม่ให้เห็นหน้า และไปเผยแพร่ตามโลกโซเชียล จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับมาให้ได้ เนื่องจากเป็นภัยต่อสังคม 

ทั้งนี้ จากการที่ ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของโรคจิตกลุ่มนี้ พบว่าส่วนใหญ่จะหน้าตาดี มีการงานดี หุ่นที่ดี ซึ่งคาดว่าน่าจะป่วยด้วยอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะกระทำทั้งในรถเมล์ และ สนามบิน หรือ บนเครื่องบิน ฯลฯ

ทางกรมสุขภาพจิต ได้ออกมาเผยว่าผู้ชายที่ชอบโชว์ของลับต่อคนแปลกหน้า เป็นผู้ป่วยทางจิตเวช  มักจะพบในกลุ่มอายุ 15-25 ปี  สาเหตุเกิดจากความผิดปกติในสมอง ความรู้สึกปมด้อยเรื่องเพศตัวเอง  พบผู้มีปัญหาเข้ารับการรักษาน้อยเพียงร้อยละ  25 เท่านั้น 

แนะผู้ที่เป็นให้รีบพบจิตแพทย์ ชี้โรคนี้รักษาได้ อย่าอายหมอ ระบุหากไม่รักษาจะมีพฤติกรรมติดตัวไปตลอดชีวิต  พร้อมแนะวิธีการสยบพฤติกรรมโชว์ หากประชาชนโดยเฉพาะสาวๆพบเห็น อย่ากรีดร้อง หรือแสดงอาการตกใจกลัว เพราะยิ่งเพิ่มความสุข เพิ่มความมั่นใจทางเพศ   ขอให้นิ่งเฉย จะช่วยลดพฤติกรรมโชว์ได้

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์  อธิบดีกรมสุขภาพจิต  กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาที่มีผู้ชายชอบลักขโมยชุดชั้นในผู้หญิงหรือโชว์อวัยวะเพศในที่สาธารณะ ซึ่งปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆว่า    ผู้ที่มีพฤติกรรมเหล่านี้จัดเป็นผู้ป่วยโรคทางจิตเวชประเภทหนึ่งเรียกรวมๆว่า กามวิปริต ( Sexual perversion)   มักเกิดกับเพศชาย พบได้บ่อยที่สุดในช่วงอายุ 15-25 ปี

ไม่สามารถประมาณการผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้ชัดเจน  แต่มีการศึกษาพบว่าร้อยละ 20 ของหญิงสาว จะมีประสบการณ์เจอผู้ที่มีปัญหากามวิปริตมาแล้ว ขณะที่ผู้ชายที่มีปัญหานี้ส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมกามวิปริต 3-5 อย่าง เช่น โชว์อวัยวะเพศ โทรศัพท์ลามกอนาจาร พฤติกรรมถ้ำมองคนอื่นในห้องน้ำ  เป็นต้น

สาเหตุของพฤติกรรมนี้เชื่อว่าเกิดมาจากปริมาณฮอร์โมนเพศชายมีมากกว่าปกติ และอาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติในสมอง  รวมทั้งเกิดมาจากปัจจัยทางจิตใจ ที่สำคัญคือปมด้อย( inferiority )ใน เรื่องเพศของตนเอง เช่นเรื่องขนาด  การมีเพศสัมพันธ์   ทำให้ไม่มีความมั่นใจหรือไม่มีความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์

เมื่อมีแรงขับทางเพศเกิดขึ้น จึงเลือกระบายออกโดยโชว์อวัยวะเพศต่อผู้อื่น เพื่อสร้างความมั่นใจในระดับจิตใต้สำนึก  เมื่อคนที่เห็นแสดงอาการตกใจ กรีดร้อง จะเป็นการเพิ่มความมั่นใจทางเพศให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้

 “อาการของกามวิปริตนี้ รักษาให้หายขาดได้   ผู้ที่มีญาติป่วยหรือมีเพื่อนฝูงคนรู้จักป่วยเป็นโรคนี้ สามารถพาไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชทุกแห่ง   อย่าอายหมอ เพราะหากไม่ได้รับรักษา ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมนี้ไปตลอดชีวิต  ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าผู้ที่เป็นโรคกามวิปริตเข้ารับการรักษาน้อยมาก เพียง 1 ใน 4 หรือประมาณร้อยละ 25 ของผู้ป่วย แสดงว่าในสังคมยังมีผู้ป่วยโรคนี้อีกร้อยละ 75 ที่ยังไม่รับการรักษา

ดังนั้นจึงขอแนะนำประชาชน หากพบเห็นผู้ที่มีพฤติกรรมโชว์อวัยวะเพศในที่สาธารณะ  ขอให้ตั้งสติ  ให้นิ่งเฉย ไม่ควรแสดงอาการตกใจ หวาดกลัว กรีดร้อง

โดยปฏิกิริยาของการนิ่งเช่นนี้ จะมีผลให้ผู้ป่วยไม่สามารถสร้างความสุขทางเพศหรือเพิ่มความมั่นใจทางเพศของตนเองได้ และหากผู้ป่วยขาดแรงเสริมจูงใจบ่อยๆ จะมีผลให้พฤติกรรมชอบโชว์ลดลงได้    ” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว

ทางด้าน นายแพทย์ธิติพันธ์ ธานีรัตน์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์ จ.นครสวรรค์กล่าวว่า  โรคกามวิปริตที่พบได้บ่อยๆในสังคมไทย เช่น  โรคเอ็กซ์ฮิบิชั่นลิซึม   ( Exhibitionism)  ชอบอวดอวัยวะเพศกับคนแปลกหน้า , โรคเฟติสชิซึม ( Fetishism)  คือโรคสำเร็จความใคร่ด้วยสิ่งของของเพศตรงข้าม

เช่น ชุดชั้นใน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว  รองเท้าส้นสูง เป็นต้น  , โรคฟรอตตัวริซึม ( Frotteurism)   เป็นโรคที่มีความสุขกับการถูไถอวัยวะเพศกับบุคคลแปลกหน้า  ,โรคโวเยียวริซึม ( Voyeurism) เป็นโรคมีความสุขกับการถ้ำมองคนอื่นเปลือยกายหรือเปลี่ยนเสื้อผ้า , โรคโทรศัพท์ลามกอนาจารหรือที่เรียกว่า เทเลโฟน สแก็ตโตโลเจีย ( Telephone Scatologia)  เป็นต้น

“โดยเฉพาะผู้ที่ชอบโชว์อวัยวะเพศในที่สาธารณะ เมื่อมีคนเห็นและแสดงอาการตกใจ หวาดกลัว กรีดร้อง  จะทำให้ผู้ป่วยประเภทนี้  เกิดความรู้สึกตื่นเต้น พึงพอใจทางเพศอย่างมาก และจะทำพฤติกรรมเช่นนี้บ่อยขึ้น   โดยโรคนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเองได้  จึงควรพาผู้ป่วยไปปรึกษากับจิตแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม  ผู้ป่วยก็จะสามารถลดพฤติกรรมและใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไป ” นายแพทย์ธิติพันธ์กล่าว

การรักษาผู้ป่วยกามวิปริต หลักๆ จะมี 3 ด้าน ได้แก่ 1. การรักษาทางด้านจิตใจ เน้นการปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดและพฤติกรรม ให้ผู้ป่วยมองเห็นด้านบวกและชีวิตทางเพศของตนเองมากขึ้น

โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนความเชื่อผิดๆ ที่มักพบในกลุ่มผู้ชายไทย  เช่น อวัยวะเพศใหญ่ ให้ความสุขมากกว่าของเล็ก  ต้องเป็นจอมลีลาเวลามีเพศสัมพันธ์  ต้องไม่ล่มปากอ่าว เป็นต้น  2.การรักษาทางด้านร่างกาย   โดยเฉพาะการใช้ยารักษาฮอร์โมนเพศชายคือเทสโตสเตอโรน ( Testosterone ) ที่มีส่วนทำให้เกิดพฤติกรรมทางเพศ

และ 3. การรักษาทางด้านสังคม ซึ่งกรอบ กฎระเบียบทางสังคม สามารถใช้ควบคุมพฤติกรรมชอบโชว์ทางอ้อมได้  เช่น เพื่อนฝูง  คนในครอบครัว  ช่วยกันลดโอกาสเกิดพฤติกรรม  หากิจกรรมให้ทำแทนการคิดหมกมุ่นเรื่องเพศลดสิ่งกระตุ้นทางเพศ

เช่น การดูสื่อลามกต่างๆ หรือการพูดคุยที่หมิ่นเหม่ต่อการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศในที่สาธารณะ

เรื่องน่าสนใจ