อดีต บ.ก. Vogue แฉ นางแบบกินทิชชูเพื่อรักษาหุ่น!!


คริสตี้ คลีเมนท์ส อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Vogue ฉบับออสเตรเลีย แฉเบื้องหลังที่หลายคนคาดไม่ถึงของวงการแฟชั่นลงใน เดอะ โว้ค แฟคเตอร์ หนังสือพ็อกเกตบุ๊กที่เธอเขียนขึ้นเอง หนึ่งในความจริงที่น่าช็อกก็คือ นางแบบบางรายรักษารูปร่างด้วยการกินกระดาษทิชชูแทนข้าวเพื่อประทังความ รู้สึกหิว !

          แหล่งข่าวต่างประเทศรายงานถึงความน่าตระหนกตกใจที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้ ฉากหน้าที่สวยงามของวงการแฟชั่นของออสเตรเลีย ที่คริสตี้ได้หยิบยกขึ้นมาเล่าให้ฟังในพ็อกเกตบุ๊กของเธอ เหล่านางแบบต่างหาหนทางสารพัดวิธีเพื่อรักษาหุ่นที่ผอมบางอยู่แล้วของตัวเอง ให้ยิ่งผอมแห้งลงไปอีก ให้สามารถสวมใส่เสื้อผ้าของดีไซเนอร์ชื่อดังได้ เพื่อที่จะได้เพิ่มโอกาสให้ผ่านการแคสงานได้ไปเดินในงานแฟชั่นโชว์ใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ

คริสตี้เล่าว่า เธอเคยได้ทำงานเพื่อถ่ายแบบแฟชั่นคลุกคลีกับทีมงานและเหล่านางแบบเป็นเวลา สามวัน ซึ่งมันให้เธอได้พบว่านางแบบคนนั้นไม่กินอาหารอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยแม้แต่ มื้อเดียวตลอดสามวันที่ผ่านมา จนในวันสุดท้ายที่ร่วมงานกัน นางแบบคนนั้นดูอ่อนระโหยเหมือนไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนแล้วด้วยซ้ำ

          นางแบบชาวรัสเซียคนหนึ่งได้เล่าให้เธอฟังว่า เพื่อนนางแบบที่พักอยู่แฟลตเดียวกัน ซึ่งเป็นนางแบบเสื้อผ้าให้กับเหล่าดีไซเนอร์ ใช้ชีวิตเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาล เพราะควบคุมอาหารจนร่างกายอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงต้องไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลอยู่เนือง ๆ นอกจากนี้เธอยังได้รู้มาว่า นางแบบบางคนกินกระดาษทิชชูแทนข้าว เพื่อช่วยให้ตัวเองไม่รู้สึกหิว จะได้ไม่ต้องกินเยอะ และมาวุ่นวายกับการดูแลรูปร่างอีกในภายหลัง

ทั้งการอดข้าว กินทิชชู คลั่งควบคุมอาหารจนร่างกายอ่อนเพลียต้องนอนให้น้ำเกลือ และอีกหลายต่อหลายเรื่องที่คริสตี้นำมาเปิดเผย ทำให้เราในฐานะคนนอกได้มองวงการแฟชั่นให้ลึกลงไปกว่าเดิมว่าฉากหน้าของนาง แบบหน้าตาดี เสื้อผ้าสวย เครื่องประดับงาม มีไลฟ์สไตล์เก๋ไก๋ กลับมีเบื้องหลังที่ไม่ได้งดงามเหมือนอย่างภาพที่ปรากฏเสมอไป นับว่าเป็นหนังสืออีกเล่มที่ล้วงลึกและตีแผ่เบื้องหลังงานที่เป็นที่ใฝ่ฝัน ของเด็กสาวหลายคนได้เป็นอย่างดี แม้จะมีหลายคนติงว่า เดอะ โว้ค แฟคเตอร์ ของคริสตี้เล่มนี้ เหมือนจะเป็นการแก้แค้นที่เธอถูกเด้งฟ้าผ่าออกจากตำแหน่งของบรรณาธิการของไป เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วก็ตาม

 

ขอบคุณที่มาจาก http://health.kapook.com

ขอบคุณภาพประกอบจาก skinnyvscurvy.com

เรื่องน่าสนใจ