อย.เล็งออกกฎห้ามใช้”สีย้อมผม” หลังยุโรปพบมีผลอาจก่อเนื้อร้าย

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

สำนัก งานคณะกรรมการอาหารและยา เตรียมออกประกาศห้ามใช้สีย้อมผมในผลิตภัณฑ์ 126 รายการ หลังพบสหภาพยุโรปออกกฎหมายห้าม เหตุมีงานวิจัยชี้ชัดอาจก่อเนื้อร้ายในกระเพาะปัสสาวะ รองเลขาฯ อย. ปรามเวชสำอาง อย่าโฆษณาเกินจริง
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า

การคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพถือเป็นเรื่อง สำคัญ โดย อย.ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการผลิตเครื่องสำอางได้คุณภาพ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนอย่างรอบด้าน ทั้งการพัฒนากฎหมาย ยกระดับสถานประกอบการ เช่น การประกาศห้ามใช้สีย้อมผมในผลิตภัณฑ์ย้อมผม ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากล ยกตัวอย่าง สหภาพยุโรปได้ออกประกาศห้าม ใช้สีย้อมผมเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหลายรายการ เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดเนื้อร้ายในกระเพาะปัสสาวะ อย.จึงมีการทบทวนการใช้สารใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องกันทั้งการนำเข้าและการขออนุญาตผลิต และเตรียมออกประกาศห้ามใช้สีย้อมผมในผลิตภัณฑ์ย้อมผมเพิ่มเติมอีกจำนวน 126 รายการ โดยจัดทำร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง (ฉบับที่ 7) เพื่อนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการมาตรฐานเครื่องสำอางและผ่านความเห็นชอบแล้ว โดยจะได้นำเสนอคณะกรรมการเครื่องสำอางเพื่อออกประกาศคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ภายในปีนี้

นพ.ไพศาลกล่าวว่า มาตรการที่ อย.ดำเนินการถือว่าสอดคล้องกับการปรับกฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง

และ การจัดทำบทบัญญัติเครื่องสำอางอาเซียน ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องควบคุมกำกับดูแลให้ผลิตภัณฑ์เครื่อง สำอางที่วางจำหน่ายในท้องตลาดต้องเป็นไปตามข้อตกลง ทั้งในเรื่องรายการสารที่ใช้เป็นส่วนผสม ฉลากผลิตภัณฑ์ การจัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์ และการประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเมื่อวางจำหน่ายในประเทศ ส่งออก และการนำเข้าจากต่างประเทศด้วย

นพ.ไพศาลกล่าวอีกว่า อย.ยังให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์เวชสำอาง

ซึ่ง กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยในแง่ของกฎหมายทั้งไทยหรือต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ฯลฯ ล้วนไม่มีข้อกำหนดหรือกฎหมายเกี่ยวกับเวชสำอางออกมารองรับ เพราะเวชสำอางเป็นนิยามศัพท์ที่ผู้ประกอบการเรียกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ แสดงคุณสมบัติหรือสรรพคุณในด้านบำบัด บรรเทา และรักษา ส่วนมากจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินกว่าเรื่องความสะอาดและ ความสวยงาม อย่างไรก็ตาม ในการรับจดแจ้งเครื่องสำอางจะต้องมีการกลั่นกรองว่าต้องใช้รายการสารตามที่ กฎหมายกำหนด เพราะเครื่องสำอางมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะอาดและความสวยงาม หากมีส่วนผสมของยาจะต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาเท่านั้น

 

(ที่มา:มติชนรายวัน 17 เมษายน 2556)

เรื่องน่าสนใจ