ในใจก็ย้าก อยาก จะนุ่งสั้นจุ๊ดจู๋ ใส่เลกกิ้ง สกินนี่ฟิตเปรี๊ยะ แอบเซ็กซี่เล็กๆ เอ็กซ์หน่อยๆ บริหารเสน่ห์สไตล์ผู้หญิง แต่เพราะไอ้เจ้าขาหมูยวบๆ ของเรานี่แหล่ะ แถมด่างๆ ดำ ๆ เพราะรอยยุงกัด น่องแตกลายงา พาลให้อยากเก็บขาไว้มิให้ใครเห็น

BE0233

 

งั้นเราลองมาดู วิธีลดขจัดปัญหาขาใหญ่ นี้ให้หมดไปกันดีกว่าจ้า เอ้า ไปดูกันเล้ยย

วิธีแรก-> หมั่นสครับผิวขา

การขัดผิวเป็นอีกหนึ่งที่ทำให้เรามีท่อนขาที่ปราศจากควาหมองคล้ำ สลายรอยดำจากยุงกัด แมวข่วน เป็นวิธีหนึ่งที่ผู้หญิงนิยมกันเป็นอย่างมาก

การขัดผิว หรือ Exfoliating คือ การขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากผิวของเรา ซึ่งเป็นผิวชั้นนอกและเผยเซลล์ผิวรุ่นใหม่ที่แข็งแรงกว่ามาแทนที่ ทำให้ผิวของเราดูสดใสและมีชีวิตชีวา ดังนั้นการขัดผิว ก็เหมือนการเผยผิวที่กระจ่างใสของเราที่โดนเซลล์ผิวเก่าของเราปิดบังซ่อนเอาไว้อยู่นั้นเอง

การขัดผิวนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะฟองน้ำ ครีม ใยบวม หินขัด หรือแม้กระทั่งผ้าเช็ดตัวก็สามารถนำมาใช้ได้ แต่การขัดผิวที่ดีนั่นควรทำอย่างนิ่มนวล และไม่ทำบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวอ่อนไหวและไม่สามารถทนแดด และจะทำให้แห้งกร้านได้ง่าย ปกติผิวของคนเราจะมีการผลิตเซลล์ผิวทุก 2-4 สัปดาห์ หากอายุเรามากกว่า 20 ปี ขึ้นไปแล้วการผลัดเซลล์ผิวก็จะช้าลงไปเรื่อยๆ แต่การขัดผิวจะช่วยในการผลัดเซลล์ผิวทำได้ดีขึ้น ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส

การขัดผิวนั้นไม่ควรทำมากจนเกินไป เพราะนอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้ว ยังอาจจะทำลายผิวของตัวเราเองอีกด้วย การขัดผิวหน้าควรทำอยู่ที่สัปดาห์ละไม่กิน 2 ครั้ง และไม่ควรทำติดกันอาจจะเว้น 3-4 วัน หรือทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะเหมาะสมที่สุด ควรทำการขัดเป็นวงกลมเบาๆ หลังขัดควรหามอยส์เจอไรเซอร์มาเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วยจ้า แค่นี้ก็มีผิวขาที่ขาวใสนวลเนียนแล้วนิ!

 

วิธีสอง-> เซลลูไลท์จ๋าลาก่อน

 เซลลูไลท์ (Cellulite) หมายถึง เซลล์ก้อนไขมันที่มีขนาดใหญ่ อยู่ใต้ผิวหนังที่อัดกันอยู่อย่างหนาแน่นซึ่งจะนูนขึ้นมาที่บริเวณผิวหนังจะเป็นตะปุ่มตะป่ำ บริเวณนี้เรียกว่า เซลลูไลท์ หรือเรียกว่าผิวเปลือกส้ม ไขมันนี้จะพบได้ทั้งในคนผอมและคนอ้วน โดยพบในเพศหญิงมากกกว่าเพศชายซึ่งร่างกายจะสามารถสะสมได้ที่บริเวณท้องแขน หน้าท้อง ต้นขา และสะโพก

งั้น เราเรารีบมาโบกมือบ้ายบายมันกันเถอะ

เพราะการนวดก็เป็นอีกวิธีลดต้นขา ไล่เจ้าเซลลูไลท์ ไป ไป๊ ชิ้ว ชิ้ว การนวดที่ทำให้ต้นขานั้นเล็กลง โดยให้นวดเป็นวงเบาๆ ไปให้ทั่วบริเวณขาของคุณเป็นเวลา 10-20 นาทีทุกวัน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำให้ต้นขาของคุณเล็กลงได้

แม้เราจะเห็นความแตกต่างของต้นขาที่ลดลงได้ไม่เท่าการออกกำลังกายเฉพาะส่วน แต่การนวดลดต้นขาก็เป็นวิธีการช่วยเสริมวิธีการออกกำลังกายในเบื้องต้นนั่นเอง และข้อดีนอกเหนือจากการได้ลดลงของต้นขาแล้ว การนวดต้นขายังสามารถทำให้เซลลูไลท์บริเวณต้นขานั้นน้อยลงด้วย เนื่องจากการนวดนั้นเป็นการขับไล่สารพิษออกจากร่างกาย จึงส่งผลให้เซลลูไลท์นั้นมีขนาดเล็กลงไปได้นะฮะ

อ๊ะ! ยังไม่หมด หรืออีกสารพัดวิธีในการลดเซลลูไลท์ คือ ลดการบริโภคไขมันและน้ำตาล ดื่มน้ำให้เพียงพอกับร่างกายต้องการประมาณวันละ 8 แก้ว หรือการใช้วิธีดีท็อกซ์ ทั้งอบไอน้ำ ซาวน่า

หรือวิธีสุดท้าย หันมากินอาหาร Raw Food หรือใช้วิธี Detox Liquid Diet คือ ดื่มแต่น้ำผักน้ำผลไม้ ซุปใส ชาสมุนไพร โดยไม่กินอะไรเลย เพื่อให้ร่างกายขับถ่ายของเสีย ทำให้ไขมันลดลงแล้วเซลลูไลต์จะน้อยลงไปด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากกลับมากินตามปกติเซลลูไลต์ก็จะกลับมาเหมือนเดิมด้วยเช่นกัน

 

วิธีสาม->กระโดดเชือก

 หูยย ว่ากันว่า… การกระโดดเชือกติดต่อกัน 15 นาที เทียบเท่าได้กับการวิ่งจ๊อกกิ้งนานถึง 30 นาทีเลยทีเดียวนะ นอกจากนี้เหล่าเทรนเนอร์ของดาราฮอลลีวูดทั้งหลาย ก็แนะนำให้ดาราสาวที่อวบอั๋นเกินไป รีบฟิตหุ่นให้ทันเปิดกล้องหนังเรื่องต่อไป ด้วยการกระโดดเชือกทุกเช้าและเย็น เพื่อเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันและกระชับสัดส่วนแขนขาให้แน่นสวยไม่หย่อนยานอีกด้วย

วิธีลดน่องโดยการกระโดดเชือกด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง จะช่วยลดแรงกระแทกลงได้มาก ไม่เกิดอันตรายต่อเข่า หรือทำให้เข่าเสื่อม เข่าพัง อย่างที่หลายคนเคยได้ยินกันมา วิธีลดน่องโดยการกระโดดเชือกที่ถูกวิธี จะกระโดดเพียงแค่ต่ำๆ สูงจากพื้นไม่เกิน 1-2 นิ้ว โดยที่จะใช้ข้อเท้า กล้ามเนื้อน่อง รวมถึงการงอเข่าเล็กน้อย ช่วยในการดูดซับแรงกระแทกลงได้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งแรงกระแทกที่เกิดขึ้นยังน้อยกว่าการวิ่งอีกด้วย การกระโดดแบบผิดๆ ด้วยการกระโดดสูงเกินไปต่างหาก ที่มีโอกาสทำให้เข่าพังได้ จากแรงกระแทกที่สูงเกินไป

วิธีลดน่องโดยการกระโดดเชือกให้ถูกวิธี เริ่มต้นด้วยการเลือกเชือกที่นำมาใช้กระโดด ควรซื้อเชือกแบบ Speed Rope คือ เชือกกระโดดที่ทำจากพลาสติก PVC เส้นเล็กๆ ควรหลีกเลี่ยงเชือกที่เป็นผ้าและเชือกที่มีการถ่วงน้ำหนัก ทั้งแบบที่เป็นท่อยางใหญ่ๆ หนักๆ และแบบที่ถ่วงน้ำหนักที่ด้ามจับ ต่อมาให้ปรับความยาวเชือกให้พอดีกับส่วนสูงของเรา โดยการยืนเหยียบกึ่งกลางเชือก ดึงเชือกขึ้นมาจนตึง ความยาวของเชือกที่เหมาะสม ปลายด้ามจับจะต้องเสมอกับรักแร้พอดี

ดังนั้นจึงต้องเลือกเชือกที่ยาวๆ ไว้ก่อน เพราะสามารถปรับให้สั้นลงได้ โดยเฉพาะแบบที่ด้ามจับเป็นพลาสติก มักจะปรับความยาวเชือกจากด้ามได้ แต่ถ้าด้ามเป็นไม้ถึงจะปรับไม่ได้ ก็ยังสามารถผูกปมด้านที่ใกล้กับด้ามจับให้เชือกสั้นลงได้ แต่ถ้าเชือกที่ซื้อมาสั้นเกินไป จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย นอกจากซื้อเส้นใหม่ที่ยาวกว่าเดิม

 

วิธีสี่->ออกกำลังกายย่อเข่า

การออกกำลังกายโดยการย่อเข่าไปข้างหน้า วิธีนี้สามารถช่วยในการกำจัดไขมันและช่วยกระชับกล้ามเนื้อต้นขาและลดต้นขาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากคล้ายๆ กับการออกกำลังกายลุกนั่ง

วิธีการคือ ยืนแยกขาออก ให้ระหว่างขากว้างระยะประมาณหัวไหล่ทั้งสองข้างของเรา แล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยเท้าหนึ่งข้างแล้วโยกตัวย่อเข่าลงไปข้างหน้าประมาณ 90 องศา ย่อตัวลงให้หัวเข่าขาหลังอยู่ห่างจากพื้นประมาณ 1 นิ้ว

พยายามให้หลังและคอเหยียดตรงตลอดเวลา ทิ้งน้ำหนักไปข้างหน้าไปที่ส้นเท้าและหัวเข่า อาจใช้วิธียกลูกเหล็กขนาด 5-10 ปอนด์ตรงด้านข้างลำตัว ระหว่างออกกำลังกายในท่านี้ไปด้วยก็ได้ บริหารต้นขาทั้งสองข้างด้วยท่านี้ประมาณข้างละ 30 ครั้ง พักแล้วเริ่มทำใหม่

อ้อ!สำหรับสาวๆ ที่ชอบเดิน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดต้นขาที่ดีอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากการทำงานของกล้ามเนื้อจากการเดินนั้นทำให้กล้ามเนื้อแข็งแกร่งขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นจึงทำให้ไขมันบริเวณนั้นถูกเผาผลาญได้อย่างดี จึงทำให้ต้นขาของเราเล็กลง และดูสวยงามยิ่งขึ้น

 

วิธีสุดท้าย-> ขึ้น-ลงบันได

ลองสวมรองเท้าส้นสูงแล้วเดินขึ้นลงบันไดดูซิ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดน่องโต ทำขาเรียวสวยเซ็กซี่ได้นะ!

แม่เจ้า! การขึ้นบันไดสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 8-11 กิโลแคลอรี่ต่อนาทีซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายทั่วไป ส่วนการลงบันไดจะใช้พลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของการขึ้นบันได การเดินขึ้นบันได เป็นการออกกำลังกายขณะทำงานรูปแบบหนึ่ง เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศถึงขนาดมีการแข่งขันการเดินขึ้นบันไดเป็นประจำทุกปี เป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน ทำได้ง่าย สะดวกทุกที่ ทุกเวลา

ทว่าการเดินขึ้นบันไดเป็นการออกกำลังแบบ aerobic หัวใจจะแข็งแรง ทำให้กล้ามเนื้อต้นขา น่อง และก้นแข็งแรง กระชับ แถมอาการปวดข้อน้อยกว่าการวิ่ง

ว้าว! ยังมีรายงานอีกด้วยว่า การขึ้นบันไดเฉลี่ยวันละ 2 ชั้นสามารถลดน้ำหนักได้ 2.7 กิโลกรัมในเวลา 1 ปี และมีหลักฐานยืนยันว่าการเดินขึ้นลงบันไดสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน อีกทั้งสามารถลดปริมาณไขมันในร่างกาย และเพิ่มปริมาณ High-density lipoprotein (HDL) ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีได้

สำหรับคุณผู้หญิงที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ควรเริ่มขึ้นบันไดเพียง 1 ชั้นก่อน สลับกับเดินพื้นราบ ขณะเดินควรเริ่มด้วยการเกาะราวบันได เมื่อท่านเดินได้คล่องจึงปล่อยมือจากราวได้ ถ้าไม่มีอาการผิดปกติ จึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนชั้นอย่างช้าๆ คือ 1-2 ชั้นต่อสัปดาห์

ลองดู! เพียงขึ้นลงบันไดอย่างน้อยวันละ 2-3 ชั้น เรียวขาและก้นของคุณจะกระชับ เฟิร์ม ดึ๋งดั๋ง อย่างคาดไม่ถึงเลยเชียว อิอิ

 

ที่มา www.jikgo.com   

 

 

เรื่องน่าสนใจ