8943601_s

หากใครยังจำกันได้ กับข่าวใหญ่ที่ลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ และสื่อโทรทัศน์อีกหลายช่อง กรณีอุทาหรณ์ที่เป็นข่าวการเสียชีวิตสาเหตุมาจากการศัลยกรรม กรณีพริตตี้สาว ฉีดสารคอลลาเจนเสริมสะโพกจนช็อก และกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา สุดท้ายปาฏิหาริย์ก็ไม่เกิดขึ้น เพราะแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ กลายเป็นข่าวเตือนสติคนที่กำลังตกเป็นเหยื่อค่านิยมความสวยได้เป็นอย่างดี

และเมื่อเร็วนี้ก็เป็น พริตตี้เสียชีวิตขณะผ่าตัดศัลยกรรมทำหน้า วีไลน์ คาคลินิกย่านปากน้ำ ยังต่อเนื่องมาด้วยข่าวการเสียชีวิตของสาวอังกฤษคาคลินิกย่านลาดพร้าวขณะศัลยกรรมสะโพก อีกกรณีที่สาวคนหนึ่งผูกคอตายเพราะทนผลกระทบจากการศัลยกรรมเถื่อนไม่ไหว และยังมีกรณีเสียโฉมจากการศัลยกรรมจนเป็นเรื่องราวขึ้นโรงขึ้นศาล

นอกจากเหตุการณ์ที่ยกมานี้ เชื่อว่ายังมีอีกหลายรายที่อาการไม่รุนแรงนัก ซึ่งศัลยกรรมหลากหลายรูปแบบก็ล้วนนำไปสู่ความเสี่ยงได้ทั้งนั้น ดังที่ รศ.นพ.อาทิ เครือวิทย์ อดีตหัวหน้าหน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่ง ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และอดีตนายกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยแห่งประเทศไทยได้เคยกล่าวว่า เหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดความเสี่ยงได้ทั้งสิ้นไม่ว่ากับใคร เพศใด และอายุเท่าไรก็ตาม

เช่นเดียวกับที่ ร้อยตำรวจเอก มนัส ฉายาวิจิตรศิลป์ หรือ “หมอมนัส” แห่งเมโกะ คลินิก ก็ได้เคยให้ข้อคิดเตือนใจสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจจะพึ่งมีดหมอว่า ทุกสิ่งนั้นอาจไม่ได้สมบูรณ์ครบถ้วนตามใจหวัง 100 เปอร์เซ็นต์ ก่อนตัดสินใจทำ ควรหาข้อมูลแพทย์ และสถานบริการอย่างละเอียด

“ทางการแพทย์ไม่ได้รับรองผลว่าทำทุกครั้งแล้วจะสวยเหมือนที่คนไข้คาดหวัง แต่ผมคอนเฟิร์มว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ทั้งนี้คนไข้ต้องค้นคว้าหาข้อมูลคุณหมอและสถานบริการโดยละเอียด ทั้งจากเพื่อนๆ หรือผู้ที่เคยทำ หรือตั้งกระทู้ไว้ในเน็ตเลย เมื่อได้ข้อมูลแล้วก็ค่อยเข้าไปคุยและปรึกษากับคุณหมอให้ครบทุกที่ที่เราค้นพบว่าเขาดีจริงๆ แล้วจึงนำผลลัพธ์ที่ได้มาเปรียบเทียบกัน

ทางที่ดี ผมว่าอย่างมากสุดควรหาข้อมูลซัก 3 ปี ติดตามดูคนไข้จากคลินิกนั้นๆ เลย ขอเบอร์และติดตามในโซเชียลเน็ตเวิร์กว่าหน้าตาเขาเปลี่ยนไปยังไงบ้าง วิธีนี้ดีที่สุดครับ เพราะการที่เราตัดสินใจจะเปลี่ยนโฉมด้วยการทำศัลยกรรมนั้น รูปร่างหน้าตาของเราก็จะเปลี่ยนไปตลอดกาล” หมอมนัสเผย

จากข่าว “ศัลยกรรมทำพิษ” ที่เกิดขึ้น คือสิ่งที่ย้ำเตือนได้เป็นอย่างดีว่า หากคิดจะทำอะไรกับร่างกาย สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังก็คือ อย่าให้อารมณ์พาไป ควรใช้สมองคิดให้เยอะๆ เนื่องจาก “ความซวย” เพราะ “ความอยากสวย” สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน อยู่ที่ว่าใครจะเป็นผู้โชคร้ายรายต่อไป

แม้หลายคนจะมองว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่งดงามเป็นดัชนีชี้วัดการยอมรับ และการชื่นชมจากผู้อื่น แต่สิ่งที่ควรตระหนักก็คือคุณค่าในตัวเอง ดังที่ อ.กมลกานต์ จีนช้าง สาขาจิตวิทยาสังคม คณะจิตวิทยา จุฬาฯ ได้เคยเสนอแนะเอาไว้จากการทำงานวิจัยเรื่อง “อิทธิพลของความนิยมความสมบูรณ์แบบต่อเจตคติในการทำศัลยกรรมเสริมความงาม โดยมีการนำเสนอตนเองด้วยความสมบูรณ์แบบและการซึมซับจากวัฒนธรรมสังคมเป็นตัวแปรส่งผ่าน” ว่า

“คุณค่าของคนเราไม่ได้อยู่ที่ความสวยความงาม หรือรูปลักษณ์หน้าตาภายนอกเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าภายใน เช่น ความสามารถของบุคคลซึ่งมีความสำคัญมากกว่า” พร้อมทั้งเน้นย้ำด้วยว่า ไม่มีศัลยกรรมประเภทไหนที่สามารถสร้างคนให้สวยงามได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

อ่านถึงบรรทัดนี้ คงต้องยอมรับว่า ทุกอย่างล้วนมี ‘ความเสี่ยง’ แต่ไม่ใช่ว่าการศัลยกรรมจะทำลายชีวิตไปเสียทุกคน หากมีการศึกษา และเลือกทำในโรงพยาบาลที่ไว้ใจได้ ความเสี่ยงก็ลดน้อยลง ทว่าบางคนเลือกที่จะไม่พึ่งมีดหมอ เพราะสวยธรรมชาติชัวร์ที่สุดแล้วสำหรับพวกเขา

 

เรียบเรียงโดย เว็บโดดเด่นดอทคอม

เครดิตขอบคุณ เว็บผู้จัดการออนไลน์

เรื่องน่าสนใจ