ที่มา: dodeden

ยังมีอีกมุมหนึ่งที่เราต้องทำความรู้จักกับ “โทมัส เนเลแมนส์” หรือ “โทมัส ไจแอนท์” ให้มากขึ้นมากกว่าภาพหลุด และข่าวฉาวที่จำจนติดตา คือเขาคนนี้ทำหน้าที่ “ลูก” อย่างเต็มที่ หาเงินรักษา “คุณแม่” ที่นอนป่วย อาทิตย์ละแสน !!

ทั้งนี้ เขาได้นอนวันละ 3 ชั่วโมงเพียงเพื่อให้ร่างกายได้มีแรงทำงานต่อ…. วันนี้ “หนุ่มโทมัส” เปิดใจผ่านรายการ “ตัวจริง เสียงจริง” ต้อนรับเดือนของวันแม่ ด้วยเรื่องเล่าสุดเศร้า

“ถ้ามันมีแค่เปอร์เซ็นเดียว เราก็จะทำร้อยเปอร์เซ็นเพื่อให้เปอร์เซ็นเดียวมันสำเร็จ” ประโยคจากปากที่กำลังยิ้มในวันนี้ แต่หากย้อนกลับไปในวันที่คุณแม่ยังอยู่และกำลังต่อสู้กับ “มะเร็ง” คำพูดนี้คงมาจากใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา  

4s

แฟนๆ ก็ยังจำได้ และแชร์ภาพในโซเชี่ยลเยอะมาก ?

“เป็นรูปที่มาจากไอจีผม ถามว่ารู้สึกยังไงที่ยังมีแฟนๆ จำได้ก็รู้สึกดีครับ เวลาไปงานก็มีคนร้องเพลงตามได้ทุกที”

ทั้ง 3 คนในวงยังติดต่อกันอยู่ไหม ?

“สำหรับฮาเวิร์ดตอนนี้เขาก็อยู่เมืองนอกก็จะติดต่อกันทางโซเชี่ยล ส่วนโจนานๆ จะโทรหากันที ถ้าว่างๆ ก็ไปนั่งชิวเอ้าท์กัน ยังสบายดีกันครับก็ยังคุยกันอยู่ว่าอีกประมาณ 2 ปี ฮาเวิร์ดกลับมาก็คงได้มานั่งคุยรวมตัวกันมีโปรเจคต์โน้นนี่นั่น”

8

ตั้งแต่เป็นไจแอนท์ จนตอนนี้ผ่านมากี่ปีแล้ว ?

“จากอัลบั้มแรก 19 ปี แต่ถ้านับการหายจากวงการก็ประมาณ 16 ปีครับ(ยิ้ม)”

ตอนนั้นโทมัสหล่อมาก ?

“ไม่คิดว่าโตขึ้นมาจะเป็นสาวแล้ว (หัวเราะ)”

ตอนนั้นรู้ตัวเองหรือยังว่าเป็น ?

“ตอนที่ออกเทปอยู่ยังไม่รู้ครับ มารู้จริงๆ ตอนประมาณ ม.2 ว่าเรามีรสนิยมชอบผู้ชาย (ยิ้ม) ก็แอบมีความรู้สึกดีๆ กับผู้บ่าว(ยิ้ม)”

ผู้ชายคนแรกที่เราแอบชอบคือใคร ?

“โอ้ยตายแล้ว(ยิ้ม) ไม่ใช่คนในวงการ เป็นคนที่โรงเรียน ตอนเรียนมัธยม ตอนนั้นก็ยังไม่ทันได้เปิดเผยจะมีแต่เพื่อนสนิทเท่านั้นที่รู้”

ตอนนั้นแอ๊บ ?

“ตอนเป็นนักร้องไม่ได้แอ๊บ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็น(ยิ้ม) เรายังไม่รู้ยังไม่เข้าใจตัวเองว่าสิ่งที่เราเป็นเรียกว่าอะไร”

ตอนนี้เห็นว่าเป็นนักร้องกลางคืนอยู่ ?

“ครับผมทำงานอยู่ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาแจ้งวัฒนะครับ เป็นทั้งนักร้อง เป็นทั้งนักประสานงาน คอยทำท่าเต้นให้เด็กๆ ในร้าน ร้องเพลงที่โรงเบียร์นี้ประมาณ 3 ปี เพิ่งย้ายไปอยู่แจ้งวัฒนะได้ 1 ปี เดือนนี้ก็ครบ 1 ปีครับ สาขานี้เพิ่งเปิดใหม่”

ร้องเพลงทุกแนว ?

“ผมไม่ได้ร้องเพลงลูกทุ่งครับ แต่ที่ร้านก็จะมีเพลงหลายๆ แนว ศิลปินรุ่นเก่า รุ่นใหม่ก็มี”

ทำไมมาร้องเพลงกลางคืนได้ ?

“จริงๆ แล้วเราชอบในด้านนี้ด้วยแหละ แต่ว่าเราก็ไม่ได้ทำงานด้านนี้ด้านเดียว ก็มีทำงานหลายๆ แบบพิธีกร เอ็มซี ทางช่องต่างๆ อีเว้นท์ ออกแบบท่าเต้นท์ให้อีเว้นท์ต่างๆ บางโชว์ก็เต้นเอง อย่างพวกงานมอเตอร์โชว์ แล้วก็ร้องเพลง”

เหตุผลเลือกที่จะร้องเพลงกลางคืน ?

“ถ้ากลางวันมันมีให้ร้องเราก็คงไปร้องกลางวันเนอะ(ยิ้ม) ความรู้สึกแรกที่เราอยากมาร้องเพลงที่โรงเบียร์ ครั้งแรกเราแค่ไปนั่งทานข้าวแล้วก็รู้สึกว่าฉันสามารถทำให้เวทีนี้ดีกว่านี้ได้ เราก็มีหัวในด้านออกแบบโชว์เราก็คุยกับคนออกแบบโชว์ของร้านว่าเราอยากได้โชว์ประมาณนี้ ทำแบบนี้ดีมั้ย มาแชร์ไอเดียกันแล้วมันก็จุดเป็นโชว์ขึ้นมา มันก็เลยสนุกกับการทำงาน”

รายได้เป็นไง ?

“เหยียบๆ แสนต่อเดือน”

อายไหมเป็นนักร้องกลางคืน ?

“ผมว่าว่าชีวิตมันป๊อบจะตาย วันไหนที่ไม่ได้ไปที่ร้าน ทุกคนจะเข้ามาเหมือนบ่นๆ ว่ามาแล้วไม่เจอเรา ความสนุกลดลงไปเยอะเลย เราก็รู้สึกดีใจที่ทุกคนมาที่นี่เพื่ออยากมาดูเรา”

คนที่มาดูจำได้ว่าเราคือโทมัส ไจแอนท์ ?

“ใช่ครับ แต่เวอร์ชั่นโตเป็นสาวจริงๆ (หัวเราะ)”

ขอย้อนกลับไป มีช่วงหนึ่งที่ทำงานอย่างหนักเพราะคุณแม่ป่วย ?

“เมื่อประมาณ ปีที่แล้วครับ จริงๆ คุณแม่เป็นมะเร็งมาระยะหนึ่งแล้ว เราทราบแล้วเพราะหมอทางเยอรมันเขาคุยกับเราแล้วว่าคุณแม่จะอยู่ได้ไม่เกิน 2 เดือน เขาก็เลยส่งกลับมาที่นี่เพื่อที่จะได้รักษาตัวต่อ เพื่อที่จะได้ให้อยู่กับเราแหละ แต่ว่าตัวแม่เองเขาไม่รู้ว่าเขามีเวลาอยู่แค่ 2 เดือน ซึ่งจริงๆ แล้วเราไม่ได้โฟกัสอยู่ที่ 2 เดือน แต่เราแค่อยากทำเต็มที่ อยากรักษาเขาหาย

ถ้ามันมีแค่เปอร์เซ็นเดียว เราก็จะทำร้อยเปอร์เซ็นเพื่อให้มันสำเร็จ ต่อให้เขาจะหายหรือไม่หาย ก็ไม่เป็นไร เราทำใจไว้แล้ว”

ลำบากที่สุดมั้ยช่วงนั้น ?

“ผมไม่คิดว่ามันเป็นความลำบาก มันเหนื่อยมากกว่า แต่จริงๆ แล้วก็ค่อนข้างที่จะชินอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะว่าตอนที่เราอายุยังวัยรุ่นอยู่ เราทั้งกิน เที่ยว ทำงาน บางวันก็นอนน้อย แต่ว่าช่วงนั้นพีคมากเลยครับนอนประมาณวันละ 3 ชั่วโมงแล้วก็ออกไปลุยงาน ต้องปั้มเงินอาทิตย์ละแสน 4 เท่าของตอนนี้”

1s

ค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลคุณแม่ ?

“เข้าโรงพยาบาลทีก็ 5 หมื่น 6 หมื่น เราต้องปั่นเงินไว้เรื่อยๆ แล้วเราไม่สามารถทราบได้ว่าวันนี้เราไปโรงพยาบาลแม่ต้องเจออะไรบ้าง ทุกอย่างมันคือค่าใช้จ่ายหมดเลย”

ณ วันนี้คุณแม่ไม่อยู่ด้วยแล้ว ?

“เสียแล้วครับ วินาทีสุดท้ายไม่ได้อยู่กับคุณแม่ครับ จำได้ว่าตอนนั้นเป็นวันสงกรานต์วันแรก แล้วเราก็ไปเป็นพิธีกรที่สยาม คือเราก็อยู่ตรงนั้นทุกปี วันแรกก็นั่งแต่งหน้าทำผม อ่านสคริปเสร็จโทรศัพท์เข้าว่าแม่ไปแล้วนะ เราก็อึ้ง ทุกคนก็ถามว่าเป็นอะไร เพราะปกติจะเป็นคนที่ค่อนข้างร่าเริงมากวันนั้นก็นิ่ง เงียบไปเลย

พอบอกแม่เสีย เขาก็ถามว่าไหวไหม หาคนมาแทนไหม เราก็บอกไม่เป็นไรก็ทำงาน พยายามบอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้ กลัวว่าตัวเองจะสติแตกแล้วจะทำงานไม่ได้ ทำงานจบก็มีพี่เข้ามาช่วยบอกว่ามึงไปเลย เสร็จเราก็ไปรดน้ำศพแม่ พอขึ้นรถเท่านั้นแหละร้องไห้เลย (หัวเราะ)”

เต็มที่ในหน้าที่ของความเป็นลูก ?

“เต็มที่ครับ ตั้งแต่อยู่กับเขามาไม่เคยทำอะไรให้เขารู้สึกว่าเราดูแลตัวเอง หรือดูแลเขาไม้ได้ เราเป็นแม่ลูกที่คุยกัน กินไวน์ด้วยกัน ก็ค่อนข้างสนิทกัน (ยิ้ม)”

5s

เรื่องน่าสนใจ