ที่มา: dodeden

ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอมรายงานว่า อดีตเซ็กซี่สตาร์ตัวแม่  “โยโกะ ทาคาโน่” ได้เดินทางไปเปิดใจในรายการ “ปากโป้ง” เผยป่วย “สมองอักเสบ” ความจำบางส่วนเลือนหาย ต้องรักษาต่อเนื่องทานยากันชัก ส่วนงานในวงการก็พร้อมกลับมารับ คิดว่าตัวเองพร้อมแล้ว  ปัดซุกลูก 2 คน อายุ 9 ขวบและ 6 ขวบ แจงลูกของหลานสาว

อัพเดตอาการป่วย ?

“อาการป่วยก็เหมือนเดิมแต่ต้องทานยาอยู่ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ป่วยเป็นโรคสมองอักเสบเนื่องจากภูมิคุ้มกันของตัวเองผิดปกติ ส่วนโรคก่อนหน้านี้ที่เคยรักษามาก็ดีขึ้นหมดแล้ว หายหมดแล้วค่ะ จะเรียกว่าตอนนี้ปกติแล้วก็ได้เพราะมันดูไม่ออก

ตอนนี้รักษาโรคสมองอักเสบ ไม่ใช่สมองเสื่อมนะคะ แต่ความจำบางอย่างหายไป คอนเฟิร์มว่าไม่ได้เป็นโรคสมองเสื่อม ความจำที่หายไปก็ให้หายไป จะกลับมาก็กลับมา ภาพรวมคือยังจำเรื่องหลักๆ ในชีวิต”

ผลกระทบในชีวิต ?

“ต้องทานยากันชัก ถ้าตัวเกร็ง ตะคริวกิน แต่ก็ไม่ได้หนักหนามาก”

ความจำที่หายไปมีช่วงที่สำคัญบ้างมั้ย ?

“คงจะมีบ้าง แต่ไม่พยายามจะไปนึกถึงมันด้วย ชีวิตเราอยู่กับปัจจุบัน รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ รู้ว่าเราเคยทำอะไรได้ ไม่ถึงขนาดกลับไปดูภาพเก่าๆ จำผลงานไม่ได้ทุกอัน ก็มีบ้างที่จำได้”

สาเหตุโรคนี้เกิดจากอะไร ?

“ไม่ค่อยอยากจะคุยเรื่องป่วยเนอะ ภูมิคุ้มกันตัวเองมันล้นแทนที่จะป้องกัน เหมือนป้องกันไม่ให้เราเป็นหวัด ดันไปฆ่าตัวเองซะงั้น”

จะหายขาดมั้ย ?

“หมอก็ไม่ได้บอกว่าจะหายขาดมั้ย ก็ไปเรื่อยๆ แบบนี้ เอาตอนนี้ดีกว่า ตอนนี้ดีก็ขอให้ดีไปตลอด ไม่ได้แย่ลง ดีขึ้นเยอะมากเหมือนปกติ”

เป็นมานานมั้ย ?

“เห็นชัดคือ 2 ปีที่ผ่านมา พอแล้วมั้งเรื่องป่วย เครียดมั้ยมันครียดไม่ได้ ถ้าเครียดก็ยิ่งหนัก ยิ้มสู้ค่ะ”

หลายคนเข้าใจว่าเราเป็นโรคความจำเสื่อมอยากจะชี้แจงอะไรมั้ย ?

“ขอพูดตรงนี้นะคะ ว่าเป็นสมองอักเสบ สมองอักเสบกับสมองเสื่อมไม่เหมือนกัน เนื้อเยื่อสมองอาจจะมีการติดเชื้อจากอะไรบางอย่าง โรคอัลไซเมอร์จะทำให้เราลืมว่ากินข้าวรึยัง แต่เรายังไม่ได้เป็นขั้นนั้น ยังปกติเหมือนคนปกติทั่วไป”

ตอนนั้นรู้ได้ไงว่าเป็นโรคนี้ ?

“ตอนแรกก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นโรคอะไร คิดว่าเป็นโรคที่เราเคยรักษาอยู่ก่อน เลยไปหาคุณหมอ มีอาการปวดตัว เหมือนชักแล้วคุณแม่เลยพาไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน นั่นคือจุดเริ่มต้นเลย คิดว่าเป็นโรคเดิมหรือเปล่า ก็เจาะไขสันหลังดูที่โรงพยาบาลนั้นไม่พบ รักษาผิดวิธีไปหน่อย ให้ยาเกินขนาด เลยไตวายเฉียบพลัน แม่พาออกจากโรงพยาบาลนั้นทันเลยรอดตาย ไปรักษาอีกโรงพยาบาลนึง”

ก่อนหน้านี้เคยผ่านนาทีเฉียดตายมาแล้ว ?

“ใช่ค่ะ เคยผ่านนาทีเฉียดตายมาแล้ว ไม่คิดว่าจะต้องใช้ชีวิตแบบนั้นอีก ทุกวันนี้เราอยู่กับความไม่แน่นอน เหมือนจะดีทุกอย่าง แต่กลายเป็นว่าวินาทีนึงเราอาจจะโดนรถชนก็ได้ เพราะฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุด”

ค่ารักษาหมดเยอะมั้ย ?

“ค่าหมอไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ เป็นรัฐบาลเนอะ ค่ายาก็มีบ้าง ก็ยังโอเคตราบใดที่ยังทำงานหมอดูไพ่ได้อยู่ ตราบใดที่ยังกลับไปรับงานแสดงได้ก็โอเค”

ตอนนี้ยึดอาชีพหมอดูเป็นหลักมั้ย ?

“ใช่ค่ะ หมอดูเป็นอาชีพหลักก็โอเคนะคะ คนเคยดูกับเราเค้าก็มาดูกับเราอีก เพราะไพ่ก็โกหกไม่ได้ เราอาจจะไปเรียนเพิ่มเติมให้อาจารย์ชี้แนะ อาจจะทำอาชีพเสริมอย่างอื่นด้วย”

สร้างรายได้ขนาดไหน ?

“ไม่เท่ากับในวงการหรอกค่ะ การเป็นนักแสดงถ่ายละครย่อมได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่หมอดูก็เป็นอาชีพที่สุจริต ทุกคนต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าเน็ต เราไม่เป็นต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ เรายังจ่ายค่าเน็ตได้อยู่ แสดงว่าเราไม่ได้ตกอับ”

อาชีพหมอดูรายได้เพียงพอมั้ย?

“อันนี้แล้วแต่ว่าคนจะมองว่าเท่าไหร่ถึงจะพอมากกว่านะ ตอนนี้เรามีที่ซุกหัวนอน มีบ้านให้นอน มีรถให้ขับออกไปทำงาน พี่ว่ามันไม่ได้ตกอับนะ”

เป็นหมอดูมากี่ปีแล้ว?

“ปีกว่า จะสองปีแล้ว ดูไพ่ออราเคิล คนอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นยิปซี แต่ไม่ใช่ยิปซี มันคนละอันกัน”

ทำไมถึงเลือกเป็นหมอดู ?

“ตอนที่ออกมาใหม่ๆ จำอะไรไม่ค่อยได้จริงๆ ไม่รู้จะเริ่มยังไงไปทางไหน นึกอะไรไม่ค่อยออก มีแต่คนทักให้ไปดูหมอสิ พอลองไปดูหมอ เค้าก็บอกว่าเป็นหมอดูได้นี่มาเรียนมั้ย ประจวบเหมาะกับคุณแม่และพระหลายรูปทักมาแบบนี้ อายุ 40 จะต้องเป็นหมอดู

แต่เราเคยเถียงพระว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็มีเหตุการณ์ทำให้เราต้องมาทางนี้ ก็เหมือนกับไปโรงพยาบาลล้างไต ความจำมีบ้างไม่มีบ้าง ลบเรื่องที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิตไปเริ่มต้นใหม่ เหมือนอย่างนั้นเลย ทุกวันนี้เลิกบุหรี่เลิกเหล้าทุกอย่าง

อาการป่วยมีผลกระทบกับอาชีพมั้ย ?

“มันไม่ได้มีผลกระทบกับชีวิตประจำวันขนาดนั้น”

นอกจากดูหมอแล้วทำอย่างอื่นอีกมั้ย ?

ก็รักษาความสวยความงามให้คงที่ เช้าตื่นขึ้นมา อับดับแรกที่จะต้องเห็นคนไม่มีคู่ก็คือตัวเองในกระจก เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการดูแลตัวเองและสู้ เราเห็นตัวเองโอเคสู้ ไม่ใช่เห็นตัวเองป่วยแล้วต้องป่วยตาม เห็นตัวเองดูดีแล้วสู้ต่อ ต้องให้กำลังใจตัวเอง อาจจะไปขอจากเพื่อนๆ และอาจารย์บ้าง

อยากกลับมาทำงานในวงการมั้ย ?

“ยังอยากกลับเข้าวงการ แต่ยังไม่ได้มีทางไหนติดต่อ ตอนนี้คิดว่าตัวเองน่าจะพร้อมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา”

อยากกลับมาถ่ายเซ็กซี่อีกมั้ย ?

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้ามีบทที่คิดว่าน่าจะเล่นได้ ถ้าติดต่อมาก็ไม่เกี่ยงงาน”

ถ้ามีงานเซ็กซี่ติดต่อมา?

“พอไหวมั้ยคะ จะมีคนดูเรามั้ย ก็ไม่มีติดต่อมา ส่วนใหญ่มาขอดูหมอ เปลี่ยนแนวไปเลยค่ะ ก็ต้องอยู่ในศีลธรรมพอสมควร เค้ากลัวผิดศีลมั้งคะ”

ลูกค้าเยอะมั้ย?

“ลูกค้าแล้วแต่บางวัน บางวันก็ไม่รับต้องไปทำบุญเลย รายได้ส่วนนึงที่ได้มาอาจารย์กำชับมากว่าต้องไปทำบุญ และต้องรับค่าครูเพื่อไปทำบุญ”

ถ้ามีติดต่องานเซ็กซี่มาจะรับมั้ย ?

“ถ้ายังมีคนดูนะ”

ดูแลตัวเองยังไงให้ยังสวยอยู่ ?

“ก็ออกกำลังกาย อาจจะไม่ได้หนักเหมือนช่วงต้นที่ตอนนั้นพยายามลดทุกอย่างลง แต่ก่อนจะออกหนักๆ โดดเชือกทำอะไรหนักๆ ตอนนี้ก็ยืดเส้นยืดสายทั่วไปที่ทุกคนทำกัน”

ข่าวออกมาว่าแอบมีลูกอยู่ ?

“จริงๆ แล้วเป็นยายของเด็ก แต่เด็กเรียกม่ามี๊ เรียกมาตั้งแต่เล็กๆ แล้ว คนก็เลยเข้าใจผิด จริงๆ เป็นลูกของหลานสาว เค้าอยู่กับปู่ย่าที่อายุมากแล้วก็ลำบากมาก ก็เลยไม่ไหวเพราะพ่อแม่เด็กหายไป เราเลยต้องเอามาดูแล เราน่าจะมีกำลังเพื่อทำงานดูแลให้การศึกษาเค้ามากกว่า หลานผู้หญิงคนโตอายุ 9 ขวบ คนเล็ก 6 ขวบเป็นผู้ชาย เคยเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่เอากลับไปบ้านนอกแล้ว แต่ทางนู่นเค้าติดต่อมาว่าไม่ไหว เราเลยโอเค ทางเราน่าจะทำงานหารายได้เพื่อเลี้ยงเค้า รอให้น้องสอบเสร็จก่อน น่าจะประมานมีนาเหมือนเด็กทั่วไปที่สอบปิดเทอมเดือนมีนา-เมษา”

ตกใจมั้ยมีข่าวว่าเราซุกลูก?

“ก็หน้าตาเป็นแบบนี้ไง ถึงไม่มีใครจีบ”

วางแพลนเลี้ยงน้องยังไง ?

“คงจะไม่ได้เรียนหรูหราขนาดนั้น โรงเรียนธรรมดา อาจเป็นโรงเรียนวัดไปเลยก็ได้ ตอนนี้ต้องรักษาสภาพจิตใจของน้องก่อน เด็กเค้าโดนย้ายไปนู่นนี่บ่อย สภาพจิตใจคงบอบช้ำอยู่ ให้เค้าปรับตัวอ่านหนังสืออะไรได้ ยืนยันว่าไม่ใช่ลูกเรา ยังโสดค่ะ ตอนนี้ยังโสด หนุ่มๆ ไม่เห็นมีจีบเลย หรือจีบแล้วเราไม่รู้ แต่ตอนนี้ไม่มีใครจีบค่ะ หรือใครอาสาดูแลก็ยินดีค่ะ ตอนนี้ 40 กว่าแล้วค่ะ”

มีช่วงหายไปแล้วมาดูหมอก็เลยมีข่าวตกอับ?

“การที่พี่มีบ้าน มีรถขับโดยไม่ต้องผ่อน คำว่าตกอับเค้ามองจากสมัยก่อนหรือเปล่า ที่อยู่ในวงการเล่นละคร มีนู่นนี่นั่นอยู่ในสมัยนั้น คนเราเปลี่ยนแปลงทุกวันอยู่แล้ว เราต้องไปลองทำหลายสิ่งหลายอย่าง อาชีพอื่นบ้าง พอยิ่งป่วยมา เคยผ่านความเป็นความตายมา เราต้องหาว่าอะไรเหมาะกับเราที่สุด

เราจะพลาดอีกไม่ได้ เราใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทแล้ว ไม่คิดว่านี่เป็นการตกอับ ไม่ได้มีหนี้สินจะให้บอกว่าตกอับก็ไม่ใช่ ขณะนี้เรายังเดินออกไปข้างนอกได้ เปิดไพ่ช่วยเหลือคนได้อยู่ ไม่ได้ตกอับค่ะ แต่ของานมั้ย ขอค่ะ ทุกคนต้องมีเงิน ต้องกิน ต้องจ่ายค่าเน็ตเพื่อดูทางเฟสไทม์ ฝากเลยค่ะ โยคิดว่าโยพร้อมแล้วค่ะ” 

เรื่องน่าสนใจ