เคยเป็นคนที่ถูกจับตามองในวงการบันเทิงเมื่อหลายปีก่อน สำหรับ “ไฮโซแพรว ภูษณิศา พงศาโภคิน” เพราะเคยมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับ “นิกกี้ 9 นิ้ว” สุระ ธีระกล อยู่พักหนึ่ง

แล้วก็เคยมีเรื่องมีราวกับทั้งดีเจชื่อดัง “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” ถึงขั้นแจ้งความขึ้นโรงพัก และที่ฮือฮาที่สุดคงหนีไม่พ้นกรณีที่เคยมีข่าวความสัมพันธ์กับพระเอกหนุ่ม “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์”

หลังจากนั้นไฮโซแพรวก็หายเงียบจากวงการบันเทิง แล้วก็หันไปเปิดธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ไฮสกิน ไฮลิม ซึ่งก็กลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้ง เพราะเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข

20140624052631_0

พร้อมตำรวจและทหารบุกเข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าภายในหมู่บ้านไพโรจน์ โครงการ 5 ซอยบางนา-ตราด 27 แขวงและเขตบางนา ก่อนทำการตรวจยึดสินค้าหลายชนิดมาตรวจสอบ พร้อมแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้บริหารของบริษัท ฐานทำให้ลูกค้าและประชาชนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน

23063871367562212

 ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2557 ไฮโซแพรวพร้อมด้วยทนายความได้ทำการแถลงข่าวชี้แจงถึงเรื่องนี้ ณ โรงแรม MAX พระราม 9 โดยไฮโซแพรวเปิดเผยว่าบริษัทของตนทำถูกต้องตามกฎหมาย และตาม อย. ทุกอย่าง และครั้งนี้คิดว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ สร้างความเสื่อมเสียระดับประเทศเลยทีเดียว

hqdefault

“อย่างแรกขอชี้แจงต่อประชาชนในสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนนะคะ โดยสิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ยึดไปตรวจสอบในวันดังกล่าวนั้น ประกอบด้วย 2 ส่วน คือหนึ่งวัตถุดิบที่ยังไม่ได้นำมาผลิตเป็นสินค้าเพื่อออกจำหน่ายให้ผู้บริโภค ซึ่งรอการส่งต่อให้โรงงานไปทำการวิจัยตรวจสอบ และขออนุญาตจากทาง อย. อยู่ตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายนะคะ

และสองสินค้าที่มีการขออนุญาตจากทาง อย. แล้ว ซึ่งก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่ยึดไปด้วยเหตุอันใด ทั้งที่มีการขออนุญาตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

“การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในวันนั้นทั้งหมดเป็นการข้ามขั้นตอนตามหลักกฎหมายนะคะ ซึ่งส่งผลให้กระทบต่อความมั่นคงของนักธุรกิจด้านนี้ทั้งวงการเลยทีเดียว โดยเฉพาะเรากำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในระยะเวลาอันใกล้ด้วย

ภาพสินค้าเพื่อสุขภาพของคนไทยจะสั่นคลอนในสายตาต่างชาติ ซึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่นั้นหมิ่นเหม่ต่อความผิด เพราะมีการยึดทรัพย์สินจากโกดัง แล้วนำไปแถลงข่าวสร้างความเสื่อมเสียให้องค์กรเอกชน”

14559

“ซึ่งหลังจากจบการแถลงข่าววันนั้น เจ้าหน้าที่ก็กินเลี้ยงสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน ก็ไม่ทราบว่าท่านคิดอย่างไรในขณะที่ท่านกำลังสนุกกับงานเลี้ยงเทศกาลปีใหม่ แต่พนักงานกว่าร้อยชีวิตของบริษัท ไฮสกิน (ประเทศไทย) จำกัด ยังตื่นตระหนกกับเรื่องเลวร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้น และต้องก้าวข้ามเข้าสู่ศักราชด้วยความหวาดผวาว่าชีวิตครอบครัวหลังจากนี้จะอยู่กันอย่างไร”

ด้าน “นายฐปณวัชร์ สระสม” ทนายความเผยว่า ถ้าหากผลิตภัณฑ์มีข้อบกพร่องจริง คงโดนเรียกเก็บไปตั้งนานแล้ว พร้อมบอกอาจดำเนินการทางกฎหมายจากเจ้าหน้าที่ที่ตรวจค้นวันดังกล่าว เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของบริษัทฯ

 “ตามที่มีการแถลงข่าวจากเจ้าหน้าที่คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ถือว่าข้อมูลยังคลาดเคลื่อนนะครับ เพราะการแจ้งข้อหาว่ามีวัตถุดิบหรือสินค้าต้องสงสัยมีสารปนเปื้อน ในทางปฏิบัติทาง อย.ต้องเรียกผู้ประกอบการเข้าชี้แจงและตรวจสอบตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก่อน

เมื่อวินิจฉัยแล้วพบว่าผิดจริงจะตักเตือนหรือปรับก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ที่สำคัญก่อนที่จะตั้งข้อสงสัยต้องมีการร้องทุกข์ร้องเรียนจากผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้าที่มีการอนุญาตจาก อย.แล้วนั้นต้องผ่านการใช้จากผู้บริโภคมาแล้ว ดังนั้นถ้าไม่มีความปลอดภัยจริงจะต้องมีการร้องทุกข์เข้ามาเป็นหลักฐานเสียก่อนที่จะดำเนินการตามกระบวนการทั้งหมด”

“ส่วนกรณีที่ระบุว่าฉลากสินค้าระบุข้อความอันเป็นเท็จนั้น หากระบุข้อความเท็จขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องมีการร้องเรียนร้องทุกข์กันมาก่อนหน้านี้ และทาง อย.ก็ต้องเรียกเจ้าของสินค้าเข้าไปชี้แจงตามกระบวนการ แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นคือเรื่องทั้งหมดกลายเป็นปัญหาตอนสินค้าติดตลาด พิสูจน์คุณภาพให้ผู้บริโภคได้กล่าวขานกันไปแล้ว

การที่มีการแถลงข่าวระบุว่าสินค้าแสดงฉลากเป็นเท็จเสมือนเป็นคำพูดเลื่อนลอย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ข้ามขั้นตอนไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่กฎหมายระบุไว้ ทั้งที่จริงๆ แล้วหากสินค้าไม่ถูกต้อง ไม่ได้มาตรฐาน อย.ก็ไม่ควรอนุญาตให้จำหน่ายตั้งแต่แรก”

“แต่ด้วยวิธีการเข้าตรวจค้นโดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าใช้กฎอัยการศึก ไม่มีหมายค้น ไม่มีหมายจับ ไม่มีการร้องทุกข์มาก่อน เราก็อยากชี้แจงดังนี้ว่ากฎอัยการศึกระบุไว้ชัดเจน ซึ่งจะใช้กับกรณีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและยาเสพติดเท่านั้น

อำนาจการดำเนินการตาม พรบ.เครื่องสำอางไม่มีแนบท้าย ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องความมั่นคงและยาเสพติด ดังนั้นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานยังมีความคลาดเคลื่อน ซึ่งหลังจากนี้กำลังหารือกันว่าเจ้าหน้าที่ใช้สิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมายหรือ ไม่ และจะใช้สิทธิ์ของผู้ประกอบการดำเนินการอย่างไรต่อไปเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของทางบริษัทฯ และพนักงานทุกส่วนด้วยเช่นกัน”

ที่มา ผู้จัดการ 

เรื่องน่าสนใจ