กระแสข่าวเรื่องการแก้ไขกฎหมายยาเสพติดยังคงเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันไม่จบไม่สิ้น ล่าสุด พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการถอดเมทแอมเฟตามีน ออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 1 มาเป็นประเภท 2 ว่า
ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาต้องปรับองค์กรที่จะมารองรับ ตั้งแต่บุคลากรของรัฐทั้งหมด และต้องมีความพร้อมในเรื่องกฎหมาย ซึ่งก็ได้ปรับไปแล้วบางส่วน
แต่ขณะนี้มีปัญหาเรื่องการสร้างการรับรู้ให้ประชาชน ต้องชี้แจงให้เข้าใจว่า ปรับไปเพื่ออะไร รวมทั้งใช้วิธีอะไรมาดำเนินการ ทั้งนี้องค์กรหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวก็เข้าใจ และเห็นด้วยมานานแล้ว หลังจากนี้ จะเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเข้าใจอีกครั้ง
ทั้งนี้ ยาบ้า และยาไอซ์ ( สารเสพติดในกลุ่มแอมเฟตามีน อนุพันธ์หนึ่งของยาบ้า ) ยังเป็นยาเสพติด และเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ผลิต หรือผู้ค้ารายใหญ่ต้องได้รับโทษไม่ว่าจะอยู่ในประเภท 1 หรือประเภท 2 ก็ตาม แต่การปรับต้องการคัดแยกผู้เสพ ผู้ป่วย และให้แพทย์มีโอกาสได้ใช้ตัวยาบางอย่างได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมาศึกษาอีก
เพราะเรื่องเหล่านี้ต่างประเทศก็ทำกันอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ต้องเน้นเรื่องการรับรู้ต่อสังคม และต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าวิธีการของรัฐนั้นถูกต้อง ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ต้องดูรายละเอียดของตนเองว่า จะมีการควบคุม หรือวิธีการปฏิบัติอย่างไร ซึ่งขณะนี้ไม่จำเป็นต้องพูดว่าดี หรือไม่ดีเพราะเป็นแนวทางที่ทำไว้
แต่ต้องมองว่าประเทศไทยจะนำมาใช้อย่างเหมาะสมได้อย่างไร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะปรับโครงสร้างของตัวเองอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องของวิธีการทำงาน
โดยจะต้องใช้ระยะเวลา เพราะที่ผ่านมามีการปลูกฝังว่า ใครเสพยาบ้า ต้องกลายเป็นอาชญากร ซึ่งจะต้องมีการทำความเข้าใจสร้างการรับรู้ต่อสังคมใหม่ และยืนยันว่า ผมเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว แต่ต้องได้รับการยอมรับจากสังคมก่อน
ภาพจาก blogspot