รัฐบาลขอความร่วมมือทูตต่างประเทศติดตามความเคลื่อนไหวผู้กระทำความผิด ม.112 ด้าน“อั้ม เนโกะ” ซึ่งถูกตัดขาดจากครอบครัวซึ่งมีความจงรักภักดี เผยกฎหมายฝรั่งเศสให้ความคุ้มครอง แต่ยอมรับต้องหลบหนี
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เผยขอความร่วมมือทูตต่างประเทศติดตามผู้กระทำความผิด ม.112 ยอมรับกฎหมายไทยมีข้อติดขัดที่จะดำเนินคดีโดยเร็ว ด้าน “อั้ม เนโกะ” เผยกฎหมายฝรั่งเศสให้ความคุ้มครอง แต่ต้องเปลี่ยนที่อยู่เพราะถูกข่มขู่คุกคามหลังโพสต์วิดีโอเข้าข่ายหมิ่นสถาบัน
เว็บไซต์ไทยพีบีเอสรายงานอ้างคำพูด พล.อ.ไพบูลย์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ได้เตรียมส่งข้อมูลไปยังเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เพื่อขอความร่วมมือติดตามบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ซึ่งเคลื่อนไหวเข้าข่ายบิดเบือนข้อมูลและหมิ่นสถาบัน
สำหรับรายชื่อผู้กระทำผิดมาตรา 112 นั้น พล.อ.ไพบูลย์ ระบุว่าเป็นกลุ่มเก่ามีประมาณ 6-7 กลุ่ม ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศ ติดตามการเคลื่อนไหวผู้กระทำผิด และทราบว่าเคลื่อนไหวในประเทศใดแล้ว
ไทยพีบีเอสรายงานอีกว่า พล.อ.ไพบูลย์ ระบุว่ากฎหมายไทยยังติดขัดที่จะดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะต้องใช้ความสัมพันธ์ในเชิงการทำงานร่วมกันที่จะพิจารณาดำเนินการ ซึ่งไทยก็ต้องเคารพอธิปไตยของประเทศอื่นด้วย สอดคล้องกับ พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ที่ยืนยันว่าจะใช้ทุกช่องทางในการดำเนินคดี และยุติการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคล ที่บิดเบือนข้อมูลในโซเชียลมีเดีย
ด้านอั้ม เนโกะ ซึ่งเป็นผู้โพสต์วิดีโอทางเฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาที่ถูกระบุว่าเข้าข่ายหมิ่นสถาบัน เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า ขณะนี้ได้รับการข่มขู่และต้องเปลี่ยนที่พัก เนื่องจากมีผู้เผยแพร่สถานที่พัก และสถาบันที่ศึกษาอยู่ในฝรั่งเศส นอกจากนี้ ตนยังได้ไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อเอาผิดในทางอาญาว่ามีผู้ข่มขู่คุกคามถึงชีวิต แม้กฎหมายฝรั่งเศสจะให้การคุ้มครองการกระทำของตนก็ตาม
อั้ม เนโกะ เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ครอบครัวทางเมืองไทยซึ่งตัดขาดจากตนได้ถูกข่มขู่เช่นกัน และบิดาได้ถูกเจ้าหน้าที่ให้ติดต่อตนเพื่อให้ยุติการกระทำ อย่างไรก็ดี ตนได้ตัดสินใจดีแล้วก่อนเผยแพร่วิดีโอทางเฟซบุ๊ก เพราะเชื่อมั่นในอุดมการณ์และถือเป็นความชอบธรรมที่กระทำได้
ด้านสำนักข่าวไทยรายงานว่า พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ขอให้ประชาชนระมัดระวังการเขียนและใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย และว่าข้อมูลที่ดีที่สุดและถูกต้องคือข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐ พล.อ.ทวีป กล่าวด้วยว่า หากเว็บไซต์ใดเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่สมควร จะดำเนินการปิดเว็บไซต์ดังกล่าว ทั้งนี้หากใครมีข้อมูล ให้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ได้