เนื้อหาโดย Dodeden.com
เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดังอย่าง The List อัศจรรย์ความรู้ และรายการ The Poll อีกทั้งยังเคยเป็นผู้ประกาศข่าวในช่วงข่าวบันเทิงต่างประเทศในรายการโต๊ะข่าวบันเทิงของทางไทยทีวีสีช่อง 3 รวมถึงเคยเป็นผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการแฟชั่นที่หลายๆ คนรู้จักเขาในชื่อว่า “ป๊อบ ดิออร์” ที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นเซเลบริตี้ชื่อดังในประเทศไทยไปแล้วสำหรับคุณป๊อบ วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ ซึ่งเขาเป็นเซเลบริตี้ที่มีความคิดในการใช้ชีวิตและการทำงานที่คิดบวกแบบสุดๆ และเราขอบอกเลยว่ามันน่าสนใจมากๆ เลยล่ะค่ะ หากคุณได้อ่านก็จะได้อะไรดีๆ หลายอย่างไปปรับใช้ในชีวิตของตัวเองเพื่อที่จะประสบความสำเร็จแบบคุณป๊อบ วราวุธเซเลบริตี้คนนี้ได้อย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ
ซึ่งในอดีตนั้นคุณป๊อบ วราวุธเคยอยู่ในแวดวงแฟชั่น กับการทำงานที่แบรนด์สุดหรูระดับโลกอย่าง Christian Dior ที่ทำให้เขาได้รู้จักกับคนในวงการบันเทิงมากมาย และหลายๆ คนให้การยอมรับ เคารพนับถือในความสามารถและในตัวของเขา ก่อนที่เขาจะผันตัวเองมาเป็นโปรดิวเซอร์รายการทีวี หาข้อมูลเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง รวมถึงเป็นนักข่าวอ่านข่าวบันเทิงให้กับช่อง 3 โดยที่คุณป๊อบนั้นยังทำงานประจำอยู่ที่ Christian Dior อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งดาราคนดังหลายๆ คนมักจะรู้จักเขาในชื่อของคุณป๊อบ ดิออร์ ก่อนที่เขาจะโบกมือลาแบรนด์ดังออกมาทำงานด้วยตัวเอง และทำให้ทุกคนจดจำเขาได้ในชื่อว่า ป๊อบ วราวุธ อย่างเต็มภาคภูมิ วันนี้โดดเด่นดอทคอมได้รับเกียรติเป็นสื่อแรกและสื่อเดียวของประเทศไทยที่มีโอกาสได้สัมภาษณ์คุณป๊อบ วราวุธ หลังจากที่โบกมือลาวงการแฟชั่น และการเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ เราไปติดตามเรื่องราวของคุณป๊อบ และความคิดดีๆ ในการใช้ชีวิตคิดบวกของเขากันเลยดีกว่าค่ะ
ทำไมพี่ป๊อบ ถึงเปลี่ยนซิกเนเจอร์ของตัวเองจาก “ป๊อบ ดิออร์” เป็น “ป๊อบ วราวุธ” คะ?
“คือตอนที่พี่ทำงานอยู่ที่บริษัทเดิมเนี่ย ทุกคนให้เกียรติเรียกชื่อพี่ว่าป๊อบ ดิออร์ ก็เหมือนเราทำงานที่นั่น เขาก็เลยให้เกียรติเรียกพี่โดยเอาชื่อบริษัทมาเรียกเป็นเหมือนฉายา ก็เพราะไม่รู้ว่าจะเรียกป๊อบอะไร เขาเลยเรียกกันป๊อบ ดิออร์ ซึ่งมันเรียกง่ายและจดจำง่าย แต่พอถึงจุดหนึ่งเราจะไปอยู่ที่บริษัทนั้นตลอดไปไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่บริษัทพี่ พี่ก็เลยลาออกออกมา เราเลยอยากให้ทุกคนเรียกเราว่าป๊อบ วราวุธมากกว่า เพราะเป็นชื่อที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด เราจะเป็นป๊อบ ดิออร์ตลอดไปไม่ได้ แต่เราเป็นป๊อบ วราวุธมาตั้งแต่เกิด และเป็นตลอดไปได้ และตอนนี้หลายๆ คนก็จดจำพี่ในฐานะป๊อบ วราวุธกันหมดแล้ว”
ยุคนี้เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย แต่เพราะอะไรพี่ป๊อบถึงตัดสินใจไม่เล่นโซเชียลมีเดียใดๆ เลยคะ?
“พี่ต้องออกตัวก่อนว่าพี่ไม่ได้ต่อต้านหรืออะไรนะ แต่พี่ต้องบอกก่อนว่าความสุขของคนเรานั้นมันไม่เหมือนกัน บางคนเขาชอบเล่นโซเชียลเพราะชอบได้รับรู้ข่าวสารของคนอื่น แชร์ข่าวสารของตัวเองให้คนอื่นรับรู้ แต่พี่เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอยากรู้เรื่องอะไรของใครสักเท่าไร และพี่คิดว่าชีวิตของพี่ก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรมากมายที่จะมานั่งบอกให้คนอื่นรู้ อีกทั้งพี่คงมีความสุขกับการได้อยู่กับตัวเอง อยู่คนเดียวเงียบๆ มากกว่าด้วย”
ก็เหมือนกับว่าตอนนี้พี่มีความสุขกับสิ่งที่พี่มีอยู่และเป็นอยู่แล้วใช่ไหมคะ?
“ใช่ จะพูดแบบนั้นก็ได้ คือหลายๆ คนอาจจะชอบความท้าทาย ชอบอะไรใหม่ๆ แต่พี่เหมือนเป็นคนที่ชินกับอะไรเก่าๆ โบราณๆ ไปแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังใช้สมุดจดอยู่ มีความสุขที่เวลามีอะไรโทรศัพท์พูดคุยกับเพื่อนมากกว่า ใครอยากให้เรารู้อะไร เขาก็จะโทรมาหาเราเอง ที่เล่น Line หรือ Whatsapp ก็แค่ส่งข้อความคุยกันกับเพื่อนเท่านั้น เอาตรงๆ คือพี่เป็นคนโลว์เทคด้วยล่ะ แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนะ จริงๆ สุขทุกข์ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เราแค่ค้นพบตัวเองว่าเราชอบที่จะเป็นอย่างนี้นะ เลยไม่คิดอยากจะไปตามกระแสอะไร
อีกอย่างหนึ่งพี่คิดว่าทุกอย่างมันเหมือนเป็นดาบสองคม พี่ก็เห็นหลายคนที่เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คได้รับความสุขจากมัน และก็ได้รับความทุกข์จากมันเช่นเดียวกัน ดังนั้นตอนนี้พี่คิดว่าพี่มีความสุขแล้ว เลยไม่อยากจะไปตามกระแสให้มันมีความทุกข์แก่ตัวเอง เลยตัดมันทิ้งไป แต่พี่ก็เข้าใจนะว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คมันอาจจะช่วยอะไรหลายๆ อย่างในตอนนี้ ทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น แล้วพี่ก็ขอยืนยันตรงนี้เลยนะว่าพี่ไม่มีแอคเคาท์ปลอมใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อที่จะเอาไปส่องคนอื่น เพราะพี่เชื่อว่าถ้าเพื่อนๆ พี่เขาอยากให้พี่รับรู้เรื่องอะไรของเขากับบางเรื่อง เขาก็จะโทรมาหาเราเอง เพราะเวลาที่เขามีความสุขเขาไม่จำเป็นต้องคิดถึงเราหรอก แต่เวลาที่เขามีความทุกข์ให้เขาโทรมาหาเราได้ ถ้าเราช่วยได้เราก็เต็มที่อยู่แล้ว พี่คิดแบบนี้มากกว่า”
เห็นพี่ป๊อบดูเด็กกว่าวัยมากๆ จนแทบเดาอายุไม่ออกว่าอายุเท่าไร เลยอยากจะถามเคล็ดลับพี่ป๊อบหน่อยค่ะว่ามีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรให้ดูดี ดูเด็กแบบนี้คะ?
“พี่ก็ต้องขอบคุณทุกคนมาก ที่ให้เกียรติและบอกว่าพี่ดูเด็กกว่าวัย แต่เอาจริงๆ พี่ก็อายุเยอะแล้วนะ ก็อายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มันก็เป็นไปตามวัฏจักรของมัน สังขารมันก็คือสังขาร แต่ที่พี่ดูแลตัวเองดีเนี่ย หนึ่งเลยเพราะพี่ชอบความสวยความงาม สองพี่ต้องใช้รูปร่างหน้าตาในการทำงาน ทำมาหากิน พี่เลยมองว่ามันเป็นการลงทุน
เคล็ดลับเลยเนี่ยก็ไม่มีอะไรมาก คือคนเรามันจะดูดีมันก็ต้องดูดีจากข้างในออกมาข้างนอก ต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงแอลกฮอลล์ พยายามนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เยอะๆ เลี่ยงการโดนแสงแดดเหมือนที่หลายๆ คนบอกกันนั่นล่ะนั่นมันคือปัจจัยภายนอก แต่ปัจจัยภายในเนี่ยพี่คิดว่าเราควรต้องปล่อยวาง พยายามไม่เครียด เพราะเมื่อเราปล่อยวางเราก็มีความสุข เพราะมีความสุขจากภายในมันก็ส่งผลออกมาภายนอกให้มันออกมาดีเอง คนเราไม่มีวันที่จะมีความสุข หรือความทุกข์ได้ตลอดไป ถ้าเราไม่รู้จักทุกข์เราก็จะไม่รู้จักสุข มองทุกอย่างให้เป็นประสบการณ์ ถ้าเราคิดอะไรแบบนี้ได้มันก็จะทำให้เราไม่เครียด”
ตอนนี้เห็นพี่ป๊อบประสบความสำเร็จทางด้านหน้าที่การงาน เลยอยากให้พี่ป๊อบบอกเคล็ดลับ ความคิดในการทำงานของตัวเองหน่อยค่ะ เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางให้กับคนอื่นที่อยากจะเก่งแบบพี่ป๊อบบ้างค่ะ
“พี่ต้องขอออกตัวก่อนนะว่าจริงๆ แล้วพี่ไม่ได้มองว่าตัวเองประสบความสำเร็จนะ มันยังมีหลายคนที่ประสบความสำเร็จกว่าพี่มาก อันนี้พี่ก็ต้องขอบคุณที่ให้เกียรติ คือพี่มีความคิดแบบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างคือเราต้องรู้เท่าทันตัวเอง เพราะที่พี่ทำงานมาตลอดทั้งชีวิตเนี่ย พี่แข่งกับตัวเอง พี่แทบไม่รู้เลยว่าโลกข้างนอกเป็นอย่างไร พี่ไม่เคยคิดไปแข่งขันอะไรกับคนอื่น นอกจากตัวเองเท่านั้น วางเป้าหมายที่ตัวเองจะต้องทำได้ เอาเท่าที่เราสบายใจ พี่ไม่ยึดติดกับอะไร แค่ตั้งใจทำให้ดีที่สุดให้คุ้มค่าเงินที่เขาจ้างเรา เช่นเดียวกับตอนที่พี่ทำโทรทัศน์พี่ก็คิดเสมอว่าพี่ต้องทำให้เต็มที่ที่สปอนเซอร์ไว้ใจเรา ช่องให้โอกาสเรา และมีคนดูดูเรา เราต้องตอบแทนพระคุณของทุกคน สปอนเซอร์ต้องได้รับในสิ่งที่เขาอยากได้ ช่องต้องมีรายการดีๆ และคนดูต้องได้รับสิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์จากเรา ฉะนั้นถ้าเราจริงใจ และจริงจังกับทุกงาน เราก็จะประสบความสำเร็จ
คนอาจจะคิดว่าพี่ประสบความสำเร็จเรื่องงาน เรื่องชีวิต คิดว่าทุกอย่างพี่ได้มาโดยง่าย แต่จริงๆ แล้วมันไม่จริงเลย เบื้องหน้ามันอาจจะดูเป็นแบบนั้น แต่เบื้องหลังพี่ทำงานหนักมากจริงๆ เพราะพี่ทำทุกอย่างด้วยใจรักจริงๆ ทุกรายการที่พี่ทำ พี่ทำทุกอย่างเอง หาข่าว เขียนข่าวเอง คุมสคริปท์ ตัดต่อเอง พี่ทำทุกอย่างหมด ที่พี่ตัดสินใจลาออกมา พี่แค่คิดว่าพี่อยากจะก้าวลง พี่คิดว่าพี่พอแล้ว เรามีความสุขแล้ว เราเลยก้าวลงมา แล้วมารับหน้าที่ที่ปรึกษา เพราะพี่มองว่าความรู้ของเรามันอาจจะเป็นประโยชน์ให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป นั่นคือสิ่งที่พี่อยากตอนนี้คือพี่อยากมอบความรู้ของพี่ให้กับเด็กรุ่นใหม่ต่อๆ ไป”
และนี่ก็เป็นเรื่องราวดีๆ จากเซเลบริตี้ชื่อดังมากความสามารถของประเทศไทยอย่างคุณป๊อบ วราวุธค่ะ โดดเด่นดอทคอมเชื่อเลยว่า เรื่องราวของคุณป๊อบที่เราได้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ต้องเป็นเรื่องราวดีๆ ที่คุณจะได้รับประโยชน์จากความคิด และประสบการณ์ของคุณป๊อบแน่นอนค่ะ สามารถติดตามชมผลงานของคุณป๊อบได้ทางช่อง 3 กับรายการ The List อัศจรรย์ความรู้ และรายการ The Poll กันได้นะคะ โดดเด่นดอทคอมต้องขอขอบคุณคุณป๊อบ วราวุธที่ให้เกียรติเราในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ด้วยนะคะ!
