มีผู้ป่วยที่รู้เท่าไม่ถึงการ ต้องการขยายขนาดอวัยวะเพศชายของตน ไปรับการฉีดสารแปลกปลอมโดยหมอเถื่อนหรือฉีดกันเองในหมู่เพื่อนฝูง สารแปลกปลอมดังกล่าว ได้แก่ น้ำมันมะกอก วาสลิน ขี้ผึ้งยาชนิดต่างๆ เป็นต้น สารแปลกปลอมมักถูกฉีดเข้าใต้ผิวหนังของอวัยวะเพศชาย ดังนั้น ส่วนที่ทำให้ขนาดของอวัยวะเพศดูใหญ่ขึ้น คือ ส่วนของผิวหนังที่หุ้มอวัยวะเพศนั่นเอง ขนาดของตัวแกนอวัยวะเพศไม่ได้ใหญ่ขึ้นแต่อย่างใด ในช่วงแรกที่ฉีดจะยังไม่สังเกตเห็นความผิดปกติมากนัก แต่ในระยะเวลาต่อมา เนื่องจากร่างกายมนุษย์ไม่มีเอนไซม์ที่จะย่อยทำลายสารแปลกปลอมดังกล่าวได้ ร่างกายจึงมีการตอบสนองโดยการสร้างพังผืดขึ้นในบริเวณที่มีการฉีดสารแปลกปลอมเข้าไป และมีเซลที่ตอบสนองต่อการอักเสบต่างๆ เข้ามาในบริเวณดังกล่าว
ส่วนของอวัยวะเพศที่ได้รับการฉีดสารแปลกปลอมเข้าไป จะกลายเป็นก้อนแข็ง ผิวหนังหมดความยืดหยุ่นเกิดการดึงรั้งอวัยวะเพศในขณะแข็งตัว มีอาการเจ็บปวดไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ บางครั้งทำให้หนังหุ้มปลายไม่สามารถเปิดให้ส่วนหัวของอวัยวะเพศผ่านออกมาได้ ทำให้มีปัญหาในการปัสสาวะและการทำความสะอาด ทั้งยังมีการอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดแผลเป็นๆหายๆ ซึ่งอาจมีการติดเชื้อร่วมด้วย นอกจากนี้ การอักเสบเรื้อรังของผิวหนังโดยมีแผลเป็นๆหายๆ อาจทำให้เกิดมะเร็งของอวัยวะเพศขึ้นได้
อวัยวะเพศที่ได้รับการฉีดสารแปลกปลอมมาแล้ว ไม่สามารถรักษาให้เหมือนเดิมได้ แต่รักษาให้ดีขึ้น แก้ปัญหาก้อนแข็ง การดึงรั้งตลอดจนแผลเรื้อรังได้ โดยการตัดสารแปลกปลอมและผิวหนังของอวัยวะเพศที่ปกคลุมออก แล้วปิดแผลด้วยผิวหนังจากถุงอัณฑะหรือปลูกผิวหนัง
การฉีดสารแปลกปลอมเข้าอวัยวะเพศนอกจากจะไม่สามารถขยายขนาดได้ถาวรแล้ว ยังทำให้มีปัญหาต่างๆตามมาอีกมากมาย ในระยะแรกของการฉีด มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ เป็นหนองหรือติดเชื้อไวรัสอันตรายหลายชนิด เช่น เอดส์ ตับอักเสบจากการฉีดโดยอุปกรณ์ที่ไม่สะอาด สารที่ฉีดอาจไหลไปตามแรงโน้มถ่วงของโลกเข้าสู่บริเวณต่างๆ เช่น อัณฑะ หัวหน่าว เป็นต้น ในระยะต่อไปก็จะเกิดปัญหาเป็นก้อนดึงรั้งหรือเป็นแผลเรื้อรังดังที่กล่าวมาแล้ว และอาจกลายเป็นมะเร็งของอวัยวะเพศได้ การรักษาทำได้ยากและต้องการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นควรทราบว่าการฉีดสารแปลกปลอมเข้าอวัยวะเพศจะมีปัญหาตามมามากมาย และแก้ไขให้กลับไปเหมือนเดิมไม่ได้ จึงไม่ควรหลงเชื่อบุคคลต่างๆในการที่จะฉีดสารแปลกปลอมใดๆเพื่อขยายขนาดอวัยวะเพศ