ช่วงนี้มักจะเห็นคนชอบโชว์อะไรแปลก ๆ ปรากฏเป็นข่าวบ่อยๆ ซึ่งกรณีนักท่องเที่ยว ฝรั่งโชว์ก้น ถ่ายเฟลฟี่คู่กับพระปรางค์วัดอรุณราชวรราราม จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์แก่คนไทยอย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่กระทำการอย่างไม่เหมาะสม เฉกเช่นนักท่องเที่ยวนามว่า “โจเซฟ” และ “ทราวิส” สองนักท่องเที่ยวชายรักชายชาวแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย แล้วโพสต์ภาพลงในอินสตาแกรม @traveling_butts
ลักษณะถลกกางเกงเผยให้เห็นแก้มก้นกันถึงหน้าพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ทำให้ชาวเน็ตคนไทยที่พบเห็นภาพนี้เกิดความไม่พอใจจำนวนมาก แม้ว่าภาพดังกล่าวจะถูกลบทิ้งไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนบนโลกโซเชียลตามไปคอมเมนต์ด่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานดอนเมือง ตรวจพบชาวต่างชาติทั้งสองในระบบแจ้งเตือน Watch List ของระบบสารสนเทศ สตม. โดยมีการบันทึกจากฐานข้อมูลบุคคล ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของ สน.บางกอกใหญ่
โดยพบว่าเป็นชายชาวอเมริกัน 2 คน อายุประมาณ 38 ปี โดยบุคคลทั้งสองยอมรับว่าเป็นบุคคลตามภาพดังกล่าวจริง ซึ่งในกรณีดังกล่าวถือว่าชาวต่างชาติทั้งสองได้กระทำการอันไม่สมควรต่อสถานที่สำคัญ ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย จึงได้มีการดำเนินการจับกุม พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ1สายตรวจ3 บก.ทท.1มารับตัวนำส่งดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ล่าสุดพนักงานสอบ สน.บางกอกใหญ่ อยู่ระหว่างทำการปากคำบุคคลทั้งสอง
ด้าน พ.ต.อ.จารุภัทร ทองโกมล ผู้กำกับการสถานีตำรวจสน. บางกอกใหญ่ กล่าวว่า หลังจากมีการเผยแพร่ภาพทางทวิตเตอร์ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางกอกใหญ่ได้ทำการไล่ดูกล้องวงจรปิดในเขตเซฟตี้โซน ภายในวัดอรุณฯ ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. จนทราบตัวผู้กระทำผิดว่าเป็นใคร จึงได้รวบรวมหลักฐานทำหนังสือส่งไปยัง ตม. เพื่อเฝ้าระวัง จนพบตัวหลังเดินทางกลับจากประเทศกัมพูชา เข้าสู่ประเทศไทย เพื่อที่จะเดินทางต่อไปประเทศสิงคโปร จนเจ้าหน้าที่ตม.พบตัวจึงได้ทำการประสานนำส่ง สน.บางกอกใหญ่
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สน.บางกอกใหญ่ ได้แจ้งข้อหา กระทำการขายหน้า ปรับสูงสุด 5,000 พันบาท จากนั้นจะทำการส่งตัวไปกัก ที่ ตม.เพื่อรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับ ข้อหาเผยแพร่ทางคอมพิวเตอร์ อีกทั้ง ชาวต่างชาติทั้งสองอาจจะต้องถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พลับพลาไชย1 ทำการสอบสวนอีก หลังไปทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมภายในวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป
ภาพข่าว จาก brighttv