ทำความรู้จักกับเนื้อวัว หลากประโยชน์ต่อร่างกาย หรือเต็มไปด้วยโทษกันแน่นะ? บทความนี้ เรามาทําความรู้จักกับประโยชน์และโทษของเนื้อวัวกัน คนหลายกลุ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน บางกลุ่มอาจจะมองว่าการกินเนื้อสัตว์นั้นไม่ว่าจะสัตว์ชนิดไหนก็ตามให้โทษอย่างเดียว คนบางกลุ่มก็มองว่ามนุษย์เราพัฒนามาถึงจุดๆ นี้ได้ก็เพราะเราเปลี่ยนจากการกินพืชมากินเนื้อสัตว์ ข้อสรุปที่ว่า เนื้อวัวดีหรือไม่ดีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคุณเองค่ะ
เนื้อวัวถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของเนื้อสีแดง (red meat) มีความแตกต่างจากเนื้อไก่และเนื้อหมู เนื่องจากปริมาณของไมโยโกลบิน (Myoglobin) ที่เป็นลักษณะของสีแดง ถ้าเนื้อยิ่งมีสีแดงมากขึ้นเท่าไหร่ แสดงว่าปริมาณไม่โยโกลบินก็มีมากขึ้นเท่านั้น ไมโยโกลินทําหน้าที่ดึงออกซิเจนเข้าเซลล์กล้ามเนื้อ เพื่อเก็บไว้ใช้เป็นพลังงาน
ในส่วนของเนื้อไก่และเนื้อหมูนั้น เรียกว่า เนื้อสีขาว (White meat) ซึ่งไม่ได้หมายความว่าสัตว์พวกนี้ไม่มีออกซิเจนในกล้ามเนื้อ แต่รูปแบบการใช้พลังงานไม่เหมือนกัน วัวเป็นสัตว์ที่ใช้พลังงานอย่างสม่ำเสมอแต่ สุกรนั้นเป็นสัตว์ที่ได้พลังงานจาก ไกลโคเจน (glycogen) ผู้อ่านบางคน ยิ่งอ่านแล้วยิ่งงงใช่มั้ยคะ? เอาเป็นว่า ธรรมชาติสร้างมาแบบนี้ จากวิวัฒนาการของสัตว์แต่ละจําพวก ตอนนี้เรามาเจาะลึกถึงประโยชน์ของเนื้อวัวกันดีกว่า
ในวิวัฒนาการของมนุษย์ ถ้าดูจากลักษณะของฟัน เราเป็นสัตว์ที่เรียกว่า Omnivore หรือสัตว์ที่วิวัฒนาการให้กินได้ทั้งพืชและเนื้อสัตว์ นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มกล่าวว่า การที่มนุษย์หันมากินเนื้อสัตว์นั้น เป็นปัจจัยในด้านการพัฒนา ทําให้มนุษย์มีร่างกายที่แข็งแรงขึ้น มีกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ สมองก็พัฒนาตามไปด้วย
เนื้อวัวให้ประโยชน์ในเรื่องของแหล่งโปรตีน ธาตุเหล็ก และวิตามิน B12 แต่ก็ต้องหันมามองว่า แหล่งเนื้อวัวนั้นมาจาก ที่ไหน ถ้าเป็นวัวเลี้ยงที่ถูกเลี้ยงแบบ grain-fed คุณภาพของเนื้อก็อาจจะ ไม่ดีเท่า grass-fed กรรมวิธีการทําก็มีส่วนด้วยเช่น การปิ้งย่างเนื้อวัวจนสุกเกินไป อาจจะทําให้เกิดสารก่อมะเร็ง
ประโยชน์ของเนื้อวัว
ให้พลังงาน และสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยให้ออกกําลังกายได้นานขึ้น สารชื่อ carnosine จัดเป็น dipeptide สําคัญต่อฟังก์ชั่นของกล้ามเนื้อ ร่างกายผลิตสารนี้จากสาร beta-alanine ที่พบได้ในเนื้อสัตว์ เช่น วัว และปลา ในร่างกายของมนุษย์นั้น สาร cannosine ช่วยลดความเหนื่อยล้า และสร้างความคงทนในเวลาออกกําลังกายได้
กลุ่มคนที่ทานมังสวิรัติจึงมีสาร carnosine ในร่างกายน้อย และทําให้เห็นว่ากล้ามเนื้อจะมีน้อยกว่ากลุ่มคนที่ทานเนื้อสัตว์ เพราะฉะนั้น คนที่เป็นมังสวิรัตินั้น ควรเลือกทานโปรตีนที่มีความหลากหลายเพื่อให้ร่างกายได้รับในปริมาณที่พอเหมาะ
นอกจากนี้ เนื้อวัวก็ยังช่วยป้องกันโรคเลือดจาง ภาวะโลหิตจางเกิดขึ้นจากที่เม็ดเลือดแดงขาดออกซิเจน อาการของโรคคือรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา เนื้อวัวเป็นแหล่งของธาตุเหล็กที่มีปริมาณสูงในฟอร์มของ heme-iron ซึ่งเจอในเฉพาะเนื้อสัตว์เท่านั้น home iron เป็นฟอร์มที่ร่างกายมนุษย์ดูดซึมได้ง่ายกว่า non hemeiron ที่ได้จากพืชนั่นเอง
………………………………………………….
ข้อสรุปที่ได้คือการทานอาหารให้ครบหมวดหมู่ ถ้าทานเยอะไป หรือน้อยไป ก็อาจจะเป็นโทษต่อร่างกายได้ เลือกแหล่งที่มาของอาหาร พร้อมไปกับไลฟ์สไตล์เฮลตี้ เช่น การออกกําลังกาย ดูแลสุขภาพด้วยการทานผักผลไม้ให้หลากหลาย
เนื้อหาโดย Dodeden.com