กลายเป็นละครที่อลหม่านอยู่ไม่น้อย สำหรับ “ทรายสีเพลิง” ทางช่อง 3 เพราะนอกจากบทละครจะขัดอกขัดใจแฟนๆ อยู่ไม่น้อย เพราะทำให้ทรายที่รับบทโดย “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” เปลี่ยนไปจากบทประพันธ์เดิม จนทำให้ชมพู่โดนกระแสตำหนิว่าตีบทไม่แตก

44

อีกทั้งยังโดนจัดหนักกรณีนักเขียนบทละครโทรทัศน์คนดัง “แดง ศัลยา สุขะนิวัตต์” ออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่าละครเรื่องดังกล่าวทำให้ตนเสียใจที่สุดในรอบ 30 ปีเพราะโดนรื้อบทเดิมที่เขียนเอาไว้ 10 เปอร์เซ็นต์ทิ้งทั้งหมดโดยไร้ซึ่งคำชี้แจง

งานนี้หลังเจอกระแสสังคมแรง “จ๋า ยศสินี ณ นคร” ถึงขั้นเซเลยทีเดียว ล่าสุดได้เจอตัว “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ในงานแถลงข่าว เปิดตัวโครงการ “Family Kidsai Thailand” ณ อาคารมาลีนนท์ เลยสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว โดยป๋อเผยว่าทุกคนยังเคารพอ.ศัลยาสุดหัวใจ พร้อมให้กำลังใจทุกฝ่าย

ทุกๆ คนในวงการก็ให้ความเคารพอาแดง ศัลยาอย่างสุดหัวใจนะครับ เพราะผมก็ทำงานกับอาแดงมาหลายเรื่องตั้งแต่ช่อง 7 แล้ว แต่พอมันเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์นี้จริงๆ ว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่นั่นมันเป็นการตัดสินใจร่วมของทุกๆ คนอยู่แล้ว ทุกคนทราบดี ตั้งแต่จ๋า ผู้จัด ป้าแจ๋ว(ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์) ผู้กำกับ รวมถึงอาแดง ศัลยา ซึ่งก็มีการคุยกันส่วนตัวในระดับผู้บริหาร ในระดับผู้จัดละคร ซึ่งอันนี้นักแสดงไม่เกี่ยว เพราะฉะนั้นในฐานะนักแสดงไม่ว่าจะเป็นใครเขียนด้วยความเคารพเราก็เคารพบทต่อเนื่องอยู่แล้ว”

“แต่ต้องบอกว่าต้องให้กำลังใจทั้งหมดนะครับ ไม่ว่าจะทางจ๋าผู้จัด ป้าแจ๋วหรือว่าอาแดง ศัลยาเอง เรื่องนี้จริงๆ มันก็เป็นแค่เหตุการณ์หนึ่งเท่านั้นเอง ผมเชื่อว่าทุกคนยังรักกันเหมือนเดิม และมันเป็นแค่ช่วงหนึ่งของละครที่แน่นอนมีคนบอกว่าทรายเป็นแบบนี้ตรงตามละครหรือเปล่าหรือไม่ตรงอะไรก็ตามแต่ คือมันเป็นเอฟเฟ็กต์จากคนดูละครที่เขามีความรู้สึกร่วมเท่านั้นเอง”

“ผมก็คงต้องมองอย่างไกลๆ และยิ้มๆ นะครับ ผมไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะไปวิจารณ์ คือสิ่งที่อาจารย์พูดเป็นสิทธิขาดอยู่แล้ว จบแล้ว แต่ในมุมของผมก็น้อมรับในสิ่งที่อาจารย์พูด ผมคงไปแสดงความรู้สึกไม่ได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย มันไม่ใช่หน้าที่ของผมแล้ว ผมว่าอารมณ์สิ่งที่อาจารย์พูดไปก็จบแล้วว่าอาจารย์รู้สึกอย่างนี้ เราก็รู้สึกเคารพอาจารย์เหมือนเดิม ผมก็รู้สึกรักและเคารพอาแดงเหมือนเดิม ฉะนั้นมันเป็นหนึ่งในการเดินทางของคนทำงานทุกคำๆ คน ทุกสาขาอาชีพ การจะเดินทางจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งย่อมต้องมีหลุม มีบ่อบ้าง”

“เมื่อวานเจอจ๋าผมก็เข้าไปกอด ก็บอกว่าทุกๆ อย่างมันก็อาจจะมีทั้งที่ถูกใจและไม่ถูกใจ หรือเหตุอะไรที่เกิดขึ้นแล้วมันจะเป็นไปอย่างที่เราคิดหรือไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ตามแต่ ก็ให้คิดซะว่าเป็นประสบการณ์และเป็นบทเรียน และเป็นเรื่องราวที่เราไม่ควรจะทุกข์ที่สุดกับมัน หรือเราก็ไม่ควรจะสุขที่สุดกับมันเหมือนกัน อย่างน้อยให้เรารู้จักและยอมรับ เรียนรู้และเข้าใจว่าสาเหตุที่จะต้องทำหรือจะเกิดอะไรขึ้น หรือสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง มันมีสาเหตุของมันอยู่ มันไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ใครจะคิดทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่ ทุกอย่างมันต้องมีมูลเหตุ”

“ผมเข้าใจนะครับ จริงๆ ผมก็ต้องขอบคุณแฟนๆ ทุกๆ คนนะ แฟนๆ ทรายสีเพลิงก็เยอะ เพราะตั้งแต่เรารับเล่นเรื่องนี้เราก็รู้ว่าเรื่องนี้มันจะต้องเป็นเรื่องที่มีฟีดแบ็กมาแน่ๆ ไม่บวกก็ลบ ก็น้อมรับ เพราะว่าการแข่งขันแบบนี้นักแสดงช่อง 3 ทุกคน นักแสดงทุกๆ คนชอบอยู่แล้วที่จะแข่งขันกับตัวเอง แข่งขันกับบทประพันธ์ที่เคยทำมาแล้ว

คือเรารู้สึกว่าการแข่งขันกับตัวเองมันทำให้งานที่ดีที่สุดไปสู่ผู้บริโภคอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่เป็นไรถ้าแข่งแล้วแพ้บ้าง ชนะบ้าง เสมอบ้างก็ไม่แปลก มนุษย์ไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้ง บางครั้งเราเสมอตัวบ้างก็ได้ บางครั้งเราอาจจะแพ้ก็ต้องยอมรับ

“อย่างน้อยผมเชื่อว่าอีกสามตอนที่เหลือคนจะเข้าใจทรายมากขึ้น เข้าใจบุรี เข้าใจฌาน คือจะบอกว่าทรายสีเพลิงเป็นบทประพันธ์ที่ค่อนข้างแหวกแนวจากละครเรื่องอื่น คือเขาปูไปทั้งหมดจนไปขมวดตรงสามตอนสุดท้าย แล้วคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอน ฉะนั้นถ้าไม่ดูสามตอนสุดท้ายตายเลย

“ผมว่าไม่น่าจะตัดนะ หรือผมคิดไปเองหรือเปล่าไม่รู้นะ ตอนนี้ทุกอย่างอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เอาเป็นว่าด้วยความสัตย์จริงมันนอกเหนือจากความควบคุมของพวกเราอยู่แล้ว หน้าที่ผมจบแล้วครับ ผมเป็นนักแสดง พอละครปิดกล้องผมก็จบหน้าที่แล้ว ตอนนี้ก็เป็นได้แค่กำลังใจให้กับทีมผู้จัดต่อไป”

ที่มา : manager

เรื่องน่าสนใจ