กรดอะมิโนจำเป็น สำคัญกับลูกน้อยหรือไม่?

sandee

สมาชิกโดดเด่น
Registered
เข้าร่วม
13 พฤศจิกายน 2018
ข้อความ
118
กรดอะมิโนจำเป็น” ถือเป็นคำที่พบเจอบ่อยมากโดยเฉพาะในกลุ่มของคุณแม่ที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับนมเพื่อให้ลูกรักของคุณได้ดื่ม เพราะในวัยที่ต้องการการเจริญเติบโตรวมถึงการพัฒนาของสมองที่ถือเป็นเรื่องสำคัญในเด็กช่วงวัย 1 – 3 ขวบ ดังนั้นวันนี้เราจึงมีสาระสำคัญเกี่ยวกับกรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิด และโอเมก้า 3,6,9 มาให้ทราบกัน เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคุณแม่หลาย ๆ ท่าน ไปดูกันเลย



คุณแม่ทุกคนล้วนอยากเห็นการเรียนรู้และพัฒนาการทางด้านต่างๆ ของลูก ทั้งด้านสมอง สติปัญญา อารมณ์ สังคม ร่างกาย สมองถือเป็นอวัยวะที่สำคัญ เพราะสมองเป็นตัวสั่งการและควบคุมพัฒนาการในทุกด้านของเด็ก ลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในท้องคุณแม่ – 6 ขวบ สมองเติบโตถึง 90% คุณแม่ยุคใหม่จึงควรใส่ใจเรื่องพัฒนาการสมองและสารอาหารของลูกน้อยเพื่อเป็นรากฐานในการเติบโตที่สมบูรณ์ตามวัย

ทุกพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูกทำให้หัวใจของแม่พองโต ไม่ว่าจะเป็น การพลิกตัวครั้งแรก หัดคลาน การพูด นั่นหมายถึงพัฒนาการด้านร่างกายและสมองทำงานสอดประสานกัน ซึ่งมีผลต่อการเรียนรู้ของลูกน้อยให้เติบโตในระดับที่มากขั้น สมอง ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ เป็นตัวกระตุ้นการเติบโต ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ และด้วยความมหัศจรรย์ของสมองที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เรียนรู้ตลอดเวลา เด็กจะมีการเรียนรู้ จดจำได้ดี ฉลาดขึ้น มีสติปัญญาดีขึ้น หากสมองได้รับสารอาหารที่เหมาะสม พร้อมกับการที่เด็กได้รับประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอด

กรดอะมิโนจำเป็น และ โอเมก้า สารสำคัญพัฒนาสมอง
สองสารอาหารพัฒนาสมองเพื่อให้แน่ใจว่าสมองพัฒนาและทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพคือ

กรดอะมิโน หรือ Amino Acid คือหน่วยเล็กๆ ของโปรตีน โดยร่างกายจะย่อยโปรตีนให้กลายเป็นกรดอะมิโนเพื่อดูดซึมสู่กระแสเลือดแล้วนำไปใช้ต่อกับทั้งร่างกายและสมอง กรดอะมิโนเป็นโครงสร้างหลักของร่างกาย ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ DNA ช่วยให้เซลล์ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ กรดอะมิโนมีความสำคัญมากต่อการทำงานของสมองที่ขาดไม่ได้ เพราะกรดอะมิโนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของสารสื่อประสาทที่ช่วยให้สมองส่งสัญญาณเพื่อสั่งการและควบคุมร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกรดอะมิโนมีทั้งที่ร่างกายสร้างเองได้และสร้างไม่ได้ กรดอะมิโนที่ร่างกายสร้างเองได้ที่รู้จักกันทั่วไปมีราว 20 ชนิด ส่วนกรดอะมิโนที่ร่างกายสร้างไม่ได้มีอยู่ 9 ชนิด ต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร ได้แก่

1.ทริปโตเฟน (Tryptophan) มีส่วนเสริมสร้างคุณภาพในการนอนหลับ
2.ทรีโอนีน (Threonine) ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย สู้เชื้อโรคและช่วยเผาผลาญไขมัน
3.ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) เพิ่มความตื่นตัว และสร้างความทรงจำในสมอง
4.เมไธโอนีน (Methionine) เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยสลายไขมัน
5.ลิวซีน (Leucine) ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มพลังกล้ามเนื้อ ช่วยให้เซลล์ประสาทแข็งแรง
6.ไลซีน (Lysine) ช่วยเสริมสมาธิ ทำให้กระดูกแข็งแรง
7.วาลีน (Valine) กระตุ้นการทำงานสมอง ทำให้กล้ามเนื้อประสานกันได้ดี
8.ไอโซลิวซีน (Isoleucine) เสริมสร้างการเจริญเติบโตของระบบประสาท เตรียมพร้อมสมองต่อการเรียนรู้
9.อิสติคีน (Histidine) จำเป็นต่อการเจริญเติบโตในเด็ก ช่วยการทำงานของระบบประสาท ป้องกันภาวะพัฒนาการช้า

โอเมก้าหรือกรดไขมันแบบไม่อิ่มตัว กระตุ้นให้สมองพัฒนาระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยเรื่องของการมองเห็นให้สมบูรณ์และทำให้ลูกน้อยเกิดความจำที่แม่นยำ อีกทั้งมีส่วนให้ร่างกายปรับสมดุลของสารเคมีที่มีผลให้รู้สึกสบาย ไม่เครียด มีอารมณ์คงที่อีกด้วย โอเมก้านั้นแบ่งได้หลายประเภท แต่กลุ่มที่มีประโยชน์โดยตรงต่อลูกน้อยคือ กรดไขมันโอเมก้า 369

10.โอเมก้า-3 (omega-3) เป็นกรดไขมันจำเป็นแบบไม่อิ่มตัว มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมองและจอประสาทตา มีส่วนสำคัญมากทำให้เด็กมีการพัฒนาดีเยี่ยมต่อการรับรู้และการมองเห็น ช่วยให้สมองสร้างเครือข่ายใยประสาทได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้เกล็ดเลือดมีความสมดุลอยู่เสมอ ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจของลูกน้อยอีกด้วย
11.โอเมก้า-6 (omega-6) เป็นกรดไขมันจำเป็น ที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่สำคัญในสร้างความสมดุลให้ร่างกายและสมองทำงานได้อย่างเต็มที่ ลดอาการปวดและลดการอักเสบได้ ที่สำคัญคือช่วยให้สมองลูกน้อยทำงานได้อย่างเต็มที่
12.โอเมก้า-9 (omega-9) มีความสำคัญต่อการควบคุมระบบการแข็งตัวของเลือดซึ่งช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ทำให้ร่างกายของลูกน้อยทำงานได้อย่างสมบูรณ์

บทความนี้คงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยเลยนะคะ เพียงเลือกนมที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนจำเป็นทั้ง 9 ชนิดและยังมีโอเมก้า 3,6,9 เพื่อเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมองให้เด็กเรียนรู้เร็วและพัฒนาได้อย่างเต็มที่ เพียงเท่านี้มั่นใจได้เลยว่าลูกน้อยของคุณจะมีพัฒนาการที่ดีและไม่มีอะไรให้คุณแม่ต้องกังวลค่ะ

ขอบคุณขอบที่มาจาก :
http://bit.ly/2Mn5EJ0
 

กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน

กระทู้ที่คล้ายกัน

กลับ
บน ล่าง