น้ำนมแม่ถือเป็นแหล่งรวมสารอาหารที่ดีที่สุดและอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ครบถ้วน แต่คุณแม่บางท่านที่กำลังประสบปัญหามีน้ำนมไม่มากพอก็ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำสารอาหารที่ช่วยเสริมจากนมแม่ นอกจากนี้คุณแม่ที่มีน้ำนมเพียงพอต่อความต้องการของลูกก็สามารถเสริมสารอาหารสมองและร่างกาย ด้วยโอเมก้า 3,6,9 และกรดอะมิโนจำเป็น9 ชนิดให้ลูกเพิ่มได้อีกนะคะ เพื่อการเจริญเติบโตที่ดีที่สุดของลูกน้อย
คุณแม่ทุกคนล้วนอยากเห็นการเรียนรู้และพัฒนาการทางด้านต่างๆ ของลูก ทั้งด้านสมอง สติปัญญา อารมณ์ สังคม ร่างกาย สมองถือเป็นอวัยวะที่สำคัญ เพราะสมองเป็นตัวสั่งการและควบคุมพัฒนาการในทุกด้านของเด็ก ลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในท้องคุณแม่ – 6 ขวบ สมองเติบโตถึง 90% คุณแม่ยุคใหม่จึงควรใส่ใจเรื่องพัฒนาการสมองและสารอาหารของลูกน้อยเพื่อเป็นรากฐานในการเติบโตที่สมบูรณ์ตามวัย
ทุกพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูกทำให้หัวใจของแม่พองโต ไม่ว่าจะเป็น การพลิกตัวครั้งแรก หัดคลาน การพูด นั่นหมายถึงพัฒนาการด้านร่างกายและสมองทำงานสอดประสานกัน ซึ่งมีผลต่อการเรียนรู้ของลูกน้อยให้เติบโตในระดับที่มากขั้น สมอง ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ เป็นตัวกระตุ้นการเติบโต ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ และด้วยความมหัศจรรย์ของสมองที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เรียนรู้ตลอดเวลา เด็กจะมีการเรียนรู้ จดจำได้ดี ฉลาดขึ้น มีสติปัญญาดีขึ้น หากสมองได้รับสารอาหารที่เหมาะสม พร้อมกับการที่เด็กได้รับประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอด
กรดอะมิโนจำเป็น และ โอเมก้า สารสำคัญพัฒนาสมอง
สองสารอาหารพัฒนาสมองเพื่อให้แน่ใจว่าสมองพัฒนาและทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพคือ
กรดอะมิโน หรือ Amino Acid คือหน่วยเล็กๆ ของโปรตีน โดยร่างกายจะย่อยโปรตีนให้กลายเป็นกรดอะมิโนเพื่อดูดซึมสู่กระแสเลือดแล้วนำไปใช้ต่อกับทั้งร่างกายและสมอง กรดอะมิโนเป็นโครงสร้างหลักของร่างกาย ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ DNA ช่วยให้เซลล์ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ กรดอะมิโนมีความสำคัญมากต่อการทำงานของสมองที่ขาดไม่ได้ เพราะกรดอะมิโนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของสารสื่อประสาทที่ช่วยให้สมองส่งสัญญาณเพื่อสั่งการและควบคุมร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกรดอะมิโนมีทั้งที่ร่างกายสร้างเองได้และสร้างไม่ได้ กรดอะมิโนที่ร่างกายสร้างเองได้ที่รู้จักกันทั่วไปมีราว 20 ชนิด ส่วนกรดอะมิโนที่ร่างกายสร้างไม่ได้มีอยู่ 9 ชนิด ต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร ได้แก่
ขอบคุณขอบที่มาจาก :http://bit.ly/2Mn5EJ0
คุณแม่ทุกคนล้วนอยากเห็นการเรียนรู้และพัฒนาการทางด้านต่างๆ ของลูก ทั้งด้านสมอง สติปัญญา อารมณ์ สังคม ร่างกาย สมองถือเป็นอวัยวะที่สำคัญ เพราะสมองเป็นตัวสั่งการและควบคุมพัฒนาการในทุกด้านของเด็ก ลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในท้องคุณแม่ – 6 ขวบ สมองเติบโตถึง 90% คุณแม่ยุคใหม่จึงควรใส่ใจเรื่องพัฒนาการสมองและสารอาหารของลูกน้อยเพื่อเป็นรากฐานในการเติบโตที่สมบูรณ์ตามวัย
ทุกพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูกทำให้หัวใจของแม่พองโต ไม่ว่าจะเป็น การพลิกตัวครั้งแรก หัดคลาน การพูด นั่นหมายถึงพัฒนาการด้านร่างกายและสมองทำงานสอดประสานกัน ซึ่งมีผลต่อการเรียนรู้ของลูกน้อยให้เติบโตในระดับที่มากขั้น สมอง ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ เป็นตัวกระตุ้นการเติบโต ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ และด้วยความมหัศจรรย์ของสมองที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เรียนรู้ตลอดเวลา เด็กจะมีการเรียนรู้ จดจำได้ดี ฉลาดขึ้น มีสติปัญญาดีขึ้น หากสมองได้รับสารอาหารที่เหมาะสม พร้อมกับการที่เด็กได้รับประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอด
กรดอะมิโนจำเป็น และ โอเมก้า สารสำคัญพัฒนาสมอง
สองสารอาหารพัฒนาสมองเพื่อให้แน่ใจว่าสมองพัฒนาและทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพคือ
กรดอะมิโน หรือ Amino Acid คือหน่วยเล็กๆ ของโปรตีน โดยร่างกายจะย่อยโปรตีนให้กลายเป็นกรดอะมิโนเพื่อดูดซึมสู่กระแสเลือดแล้วนำไปใช้ต่อกับทั้งร่างกายและสมอง กรดอะมิโนเป็นโครงสร้างหลักของร่างกาย ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ DNA ช่วยให้เซลล์ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ กรดอะมิโนมีความสำคัญมากต่อการทำงานของสมองที่ขาดไม่ได้ เพราะกรดอะมิโนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของสารสื่อประสาทที่ช่วยให้สมองส่งสัญญาณเพื่อสั่งการและควบคุมร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกรดอะมิโนมีทั้งที่ร่างกายสร้างเองได้และสร้างไม่ได้ กรดอะมิโนที่ร่างกายสร้างเองได้ที่รู้จักกันทั่วไปมีราว 20 ชนิด ส่วนกรดอะมิโนที่ร่างกายสร้างไม่ได้มีอยู่ 9 ชนิด ต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร ได้แก่
- ทริปโตเฟน (Tryptophan) มีส่วนเสริมสร้างคุณภาพในการนอนหลับ
- ทรีโอนีน (Threonine) ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย สู้เชื้อโรคและช่วยเผาผลาญไขมัน
- ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) เพิ่มความตื่นตัว และสร้างความทรงจำในสมอง
- เมไธโอนีน (Methionine) เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยสลายไขมัน
- ลิวซีน (Leucine) ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มพลังกล้ามเนื้อ ช่วยให้เซลล์ประสาทแข็งแรง
- ไลซีน (Lysine) ช่วยเสริมสมาธิ ทำให้กระดูกแข็งแรง
- วาลีน (Valine) กระตุ้นการทำงานสมอง ทำให้กล้ามเนื้อประสานกันได้ดี
- ไอโซลิวซีน (Isoleucine) เสริมสร้างการเจริญเติบโตของระบบประสาท เตรียมพร้อมสมองต่อการเรียนรู้
- อิสติคีน (Histidine) จำเป็นต่อการเจริญเติบโตในเด็ก ช่วยการทำงานของระบบประสาท ป้องกันภาวะพัฒนาการช้า
- โอเมก้า-3 (omega-3) เป็นกรดไขมันจำเป็นแบบไม่อิ่มตัว มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมองและจอประสาทตา มีส่วนสำคัญมากทำให้เด็กมีการพัฒนาดีเยี่ยมต่อการรับรู้และการมองเห็น ช่วยให้สมองสร้างเครือข่ายใยประสาทได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้เกล็ดเลือดมีความสมดุลอยู่เสมอ ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจของลูกน้อยอีกด้วย
- โอเมก้า-6 (omega-6) เป็นกรดไขมันจำเป็น ที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่สำคัญในสร้างความสมดุลให้ร่างกายและสมองทำงานได้อย่างเต็มที่ ลดอาการปวดและลดการอักเสบได้ ที่สำคัญคือช่วยให้สมองลูกน้อยทำงานได้อย่างเต็มที่
- โอเมก้า-9 (omega-9) มีความสำคัญต่อการควบคุมระบบการแข็งตัวของเลือดซึ่งช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ทำให้ร่างกายของลูกน้อยทำงานได้อย่างสมบูรณ์
ขอบคุณขอบที่มาจาก :http://bit.ly/2Mn5EJ0
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- คุณหมอกวาง วาสิตา ศัลยแพทย์หนึ่งเดียวจากประเทศไทย ปลื้มเข้าร่วมประชุมงาน PRS KOREA 2024 กระทบไหล่หมอจากทั่วเอเชีย
- ประตูม้วนกม8 กม4 คู้บอน รามคำแหง บดินทรเดชา รามอินทรา เกษตร ประตูม้วนคลองกุ่ม คลองสามวา เลียบด่วน
- EMMA CLINIC นำเทรนด์ทรงจมูก TEARDROP อ.พญ.วาสิตาหรือคุณหมอกวาง แกะกล่องเทคนิคใหม่ Preservation Rhinoplasty ชี้ฝั่งยุโรปและเอเชียกำลังมาแรง
- หอพักหน้า ม.มหิดล ประตู6 PJ Bed Story ศาลายา พุทธมลฑล นครปฐม ห้องพักใหม่ เช่าถูก เฟอร์ใหม่ทั้งตึก
- EMMA CLINIC ไม่หยุดอัปความรู้ ส่ง “อ.พญ.วาสิตา หรือหมอกวาง ” ดีกรีศัลยแพทย์งานแก้สุดปัง บินตรงเอ็กซ์คลูซีฟเทรนนิ่งความรู้ใหม่ๆเทรนด์ศัลยกรรมจมูก ณ ป