ดวงจันทร์แม้ชัดเจนว่าไม่ใช่ดาวที่จะมีสิ่งมีชีวิตดำ รงอยู่ได้ แต่ยังคงเป็นที่หมายปองของหลายประเทศ ล่าสุด เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สาธารณรัฐประชาชนจีนก็เพิ่งส่งยานสำรวจ "กระต่ายหก" ไปสำรวจดวงจันทร์ ถือเป็นประเทศที่สามของโลกที่ส่งยานสำรวจไปลงบนพื้นผ ิวดวงจันทร์ต่อจากสหรัฐ และสหภาพโซเวียต เป้าหมายของจีนก็เพื่อไปสำรวจทรัพยากรธรรมชาติบนนั้น ข้อมูลทั้งหมดที่เก็บมาได้คงจะต่อยอดไปได้อีกหลายอย่ างในอนาคต
ดูเหมือนว่าการศึกษาและสำรวจดวงจันทร์ที่ผ่านๆมา ซึ่งรวมถึงการส่งมนุษย์อวกาศลงไปเหยียบดวงจันทร์ด้วย นั้น จะยังไม่เกิดผลพวงอะไรที่เป็นรูปธรรมในเรื่องทรัพยาก รธรรมชาติที่จะไปขุดมา ใช้ แต่หนึ่งในโอกาสที่มองกันก็คือการใช้ดวงจันทร์เป็นเห มือนฐานในอวกาศ หรือสถานีแวะพักเพื่อจะเดินทางต่อไปยังดาวดวงอื่นต่อ ๆ ไป?
โครงการทดลองโครงการหนึ่งของนาซาหรือองค์การอวกาศสหร ัฐ ที่ร่วมกับนักศึกษาและบริษัทอวกาศเอกชน เป็นส่วนหนึ่งของการแสวงโอกาสที่ว่านี้ นั่นก็คือโครงการ ?Lunar Plant Growth Habitat?
เป็นโครงการที่จะไปปลูกพืชบนดวงจันทร์ เริ่มจากการทดลองว่ามันงอกได้หรือเปล่าก่อน ด้วยการส่งสิ่งที่รูปร่างเหมือนกาแฟกระป๋องบรรจุสิ่ง ที่จำเป็นสำหรับพืช คือ น้ำ อากาศ สารอาหาร และเมล็ดพันธุ์ของ 10 เมล็ด เบซิลหรือโหระพาฝรั่ง 10 เมล็ด อะราบิด็อพสิส 10 เมล็ด
อย่างหลังคือพืชที่คล้ายๆ ผักกาดที่นิยมใช้ในห้องทดลอง ปลูกง่าย งอกง่าย ใช้เวลาแค่ประมาณเดือนเศษ จากเมล็ดโตจนงอกเป็นเมล็ดได้ เรียกกันอีกอย่างว่า laab-rat หรือหนูทดลองในด้านพฤกษศาสตร์
กระป๋องใส่เมล็ดพืชจะส่งไปกับยานอวกาศแล้วส่งไปลงยัง พื้นผิวของดวงจันทร์ เมื่อกระป๋องซึ่งเปรียบเสมือนถิ่นที่อยู่อาศัยขนาดจิ ๋วสำหรับสิ่งมีชีวิตไป ถึงดวงจันทร์มันก็จะปล่อยน้ำออกมาโดยอัตโนมัติลงไปยั งบนกระดาษกรองชุ่มชื่น ที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่จัดเตรียมไว้โดยเฉพาะส่วนอา กาศนั้นมีอยู่แล้วใน กระป๋องเพราะกระป๋องปิดผนึกไว้เมื่อได้รับแสงแดดธรรม ชาติบนดวงจันทร์ก็จะครบ กระบวนการของการงอก?
ทีนี้ ก็ติดตามเฝ้าดูการงอกที่เกิดขึ้นจากเซ็นเซอร์และกล้อ งที่ติดไว้ภายในกล้อง เพื่อจะส่งข้อมูลและภาพกลับมายังโลก แต่ทั้งหมดนี้จะมีเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 7 วัน เพราะอากาศในกระป๋องมีแค่นั้น แต่นักวิทยาศาสตร์ว่าเพียงพอแล้วสำหรับการศึกษาการงอ กบนดวงจันทร์
การทดลองนี้ตามแผนจะมีขึ้นในปี 2015 โดยนาซาจะฝากกระป๋องไปกับยานอวกาศของเอกชนที่ชนะรางว ัล Google Lunar X Prize ประหยัดเงินไปได้มหาศาล ตามที่คำนวณว่าโครงการอย่างนี้หากเป็นเมื่อ 20 ปีที่แล้วคงต้องใช้เงินราว 300 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่นี้ใช้แค่ราว 2 ล้านเหรียญเท่านั้น
ที่น่าสนใจอีกอย่างของโครงการนี้ก็คือการพ่วงเอาการศ ึกษาสำหรับเด็กนัก เรียนเข้าไปด้วยแทนที่จะให้เด็กๆคอยดูจากทีวีที่ถ่าย ทอดลงมาหรือที่นาซาเอา มาออกอากาศ ก็จะส่งกระป๋องแบบเดียวกันนี้ไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้สังเกตการณ์กระบวนการงอกแบบเ ดียวกันนี้ได้ด้วยตาตัว เองไปด้วยเลย
เป็นการกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเด็กๆได้ดีทีเด ียว
โครงการนี้ถ้าเป็นไปตามแผนก็จะถือเป็นครั้งแรกที่มีก ารปลูกพืชบนดวง จันทร์ส่วนจะงอกได้หรือไม่คงต้องติดตามหากงอกได้สำเร ็จ อนาคตดวงจันทร์คงจะเกิดเรือนกระจกสำหรับเพาะปลูกขึ้น มาแน่นอน และจะกลายเป็นสถานีแวะพักกลางทางสำหรับการท่องอวกาศ เหมือนในหนังวิทยาศาสตร์ รวมทั้งได้ความรู้สำหรับการดำรงชีวิตในดาวเคราะห์ดวง อื่นๆ ด้วยในอนาคต
ขณะที่ใครต่อใครมองอนาคตกันไปไกลขนาดนั้น บ้านเราก็ยังย่ำอยู่กับปัญหาเดิมๆ ไม่จบไม่สิ้น แถมไม่ได้ย่ำอยู่กับที่เสียอีกด้วยแต่กำลังพยายามจะย ่ำถอยหลังด้วยการเว้น วรรคประชาธิปไตย
คนดีนี่มันดีจริงๆพับเผื่อย
โดย ศิริพงษ์ วิทยวิโรจน์
ดูเหมือนว่าการศึกษาและสำรวจดวงจันทร์ที่ผ่านๆมา ซึ่งรวมถึงการส่งมนุษย์อวกาศลงไปเหยียบดวงจันทร์ด้วย นั้น จะยังไม่เกิดผลพวงอะไรที่เป็นรูปธรรมในเรื่องทรัพยาก รธรรมชาติที่จะไปขุดมา ใช้ แต่หนึ่งในโอกาสที่มองกันก็คือการใช้ดวงจันทร์เป็นเห มือนฐานในอวกาศ หรือสถานีแวะพักเพื่อจะเดินทางต่อไปยังดาวดวงอื่นต่อ ๆ ไป?
โครงการทดลองโครงการหนึ่งของนาซาหรือองค์การอวกาศสหร ัฐ ที่ร่วมกับนักศึกษาและบริษัทอวกาศเอกชน เป็นส่วนหนึ่งของการแสวงโอกาสที่ว่านี้ นั่นก็คือโครงการ ?Lunar Plant Growth Habitat?
เป็นโครงการที่จะไปปลูกพืชบนดวงจันทร์ เริ่มจากการทดลองว่ามันงอกได้หรือเปล่าก่อน ด้วยการส่งสิ่งที่รูปร่างเหมือนกาแฟกระป๋องบรรจุสิ่ง ที่จำเป็นสำหรับพืช คือ น้ำ อากาศ สารอาหาร และเมล็ดพันธุ์ของ 10 เมล็ด เบซิลหรือโหระพาฝรั่ง 10 เมล็ด อะราบิด็อพสิส 10 เมล็ด
อย่างหลังคือพืชที่คล้ายๆ ผักกาดที่นิยมใช้ในห้องทดลอง ปลูกง่าย งอกง่าย ใช้เวลาแค่ประมาณเดือนเศษ จากเมล็ดโตจนงอกเป็นเมล็ดได้ เรียกกันอีกอย่างว่า laab-rat หรือหนูทดลองในด้านพฤกษศาสตร์
กระป๋องใส่เมล็ดพืชจะส่งไปกับยานอวกาศแล้วส่งไปลงยัง พื้นผิวของดวงจันทร์ เมื่อกระป๋องซึ่งเปรียบเสมือนถิ่นที่อยู่อาศัยขนาดจิ ๋วสำหรับสิ่งมีชีวิตไป ถึงดวงจันทร์มันก็จะปล่อยน้ำออกมาโดยอัตโนมัติลงไปยั งบนกระดาษกรองชุ่มชื่น ที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่จัดเตรียมไว้โดยเฉพาะส่วนอา กาศนั้นมีอยู่แล้วใน กระป๋องเพราะกระป๋องปิดผนึกไว้เมื่อได้รับแสงแดดธรรม ชาติบนดวงจันทร์ก็จะครบ กระบวนการของการงอก?
ทีนี้ ก็ติดตามเฝ้าดูการงอกที่เกิดขึ้นจากเซ็นเซอร์และกล้อ งที่ติดไว้ภายในกล้อง เพื่อจะส่งข้อมูลและภาพกลับมายังโลก แต่ทั้งหมดนี้จะมีเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 7 วัน เพราะอากาศในกระป๋องมีแค่นั้น แต่นักวิทยาศาสตร์ว่าเพียงพอแล้วสำหรับการศึกษาการงอ กบนดวงจันทร์
การทดลองนี้ตามแผนจะมีขึ้นในปี 2015 โดยนาซาจะฝากกระป๋องไปกับยานอวกาศของเอกชนที่ชนะรางว ัล Google Lunar X Prize ประหยัดเงินไปได้มหาศาล ตามที่คำนวณว่าโครงการอย่างนี้หากเป็นเมื่อ 20 ปีที่แล้วคงต้องใช้เงินราว 300 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่นี้ใช้แค่ราว 2 ล้านเหรียญเท่านั้น
ที่น่าสนใจอีกอย่างของโครงการนี้ก็คือการพ่วงเอาการศ ึกษาสำหรับเด็กนัก เรียนเข้าไปด้วยแทนที่จะให้เด็กๆคอยดูจากทีวีที่ถ่าย ทอดลงมาหรือที่นาซาเอา มาออกอากาศ ก็จะส่งกระป๋องแบบเดียวกันนี้ไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้สังเกตการณ์กระบวนการงอกแบบเ ดียวกันนี้ได้ด้วยตาตัว เองไปด้วยเลย
เป็นการกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเด็กๆได้ดีทีเด ียว
โครงการนี้ถ้าเป็นไปตามแผนก็จะถือเป็นครั้งแรกที่มีก ารปลูกพืชบนดวง จันทร์ส่วนจะงอกได้หรือไม่คงต้องติดตามหากงอกได้สำเร ็จ อนาคตดวงจันทร์คงจะเกิดเรือนกระจกสำหรับเพาะปลูกขึ้น มาแน่นอน และจะกลายเป็นสถานีแวะพักกลางทางสำหรับการท่องอวกาศ เหมือนในหนังวิทยาศาสตร์ รวมทั้งได้ความรู้สำหรับการดำรงชีวิตในดาวเคราะห์ดวง อื่นๆ ด้วยในอนาคต
ขณะที่ใครต่อใครมองอนาคตกันไปไกลขนาดนั้น บ้านเราก็ยังย่ำอยู่กับปัญหาเดิมๆ ไม่จบไม่สิ้น แถมไม่ได้ย่ำอยู่กับที่เสียอีกด้วยแต่กำลังพยายามจะย ่ำถอยหลังด้วยการเว้น วรรคประชาธิปไตย
คนดีนี่มันดีจริงๆพับเผื่อย
โดย ศิริพงษ์ วิทยวิโรจน์