- เข้าร่วม
- 3 กรกฎาคม 2019
- ข้อความ
- 34
การดูดไขมันเป็นทางเลือกหนึ่งในการกําจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ตามบริเวณต่างๆของร่างกาย เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน และต้นขา เป็นต้น ปัจจุบันมีทางเลือกในการกําจัดไขมันส่วนเกินได้หลากหลายวิธี โดยดูดไขมันเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจาก สามารถเห็นผลได้ชัดเจน และรวดเร็ว เพราะเป็นการสลายไขมันแล้วดูดนําไขมันออกจากร่างกายเลยในทันที
การดูดไขมันเหมาะสมกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีพันธุกรรมด้านขนาดของรูปร่างที่ไม่สมส่วน เช่น ต้นแขนใหญ่กว่าปกติ หรือ สะโพกใหญ่ไม่สมส่วนกับบริเวณเอว เป็นต้น
- ผู้ที่ออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีการบริหารร่างกายเฉพาะส่วน แต่ไม่สามารถกําจัดไขมันส่วนเกินบริเวณนั้นออกไปได้ เช่น
บริเวณเอวด้านหลัง ปีกหลัง (FatBra) และ ต้นขาด้านในเป็นต้น - ไม่เหมาะกับผู้ที่มีน้ําหนักตัวและส่วนสูง (BMI) เกินเกณฑ์ เนื่องจากการดูดไขมันเฉพาะจุด ไม่สามารถช่วยให้น้ําหนักตัวลดลงได้ ในผู้ที่มีน้ําหนักตัวเกินเกณฑ์ควรควบคุมอาหาร ออกกําลังกาย ให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติเสียก่อน
ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งดับเบิลยู มีเครื่องมือที่ใช้ในการดูดไขมันอยู่กี่แบบ
- LipoVazer (Ultrasound) การสลายไขมันด้วยคลื่นอัลตร้าซาวน์ เป็นการสลายไขมันอย่างอ่อนโยน เลือกกําจัดเฉพาะไขมัน เท่านั้น โดยไม่ทําลายเนื้อเยื่อรอบข้าง บอบช้ำน้อย
- LipoTite (RF) สลายไขมันด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เป็นการสลายไขมันพร้อมกับกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวหนังกระชับขึ้นไปในเวลาเดียวกัน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน บวกกับผิวหนังเริ่มมีความหย่อนคล้อย เช่น บริเวณต้นแขน หน้าท้องล่าง ต้นขาด้านในเป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถนําการทํา LipoTite (RF) มาทําการรักษาเพื่อความกระชับของ ผิวหนัง บริเวณใบหน้า FaceTite และลําคอ NeckTite ได้อีกด้วย
- Lipotase (Fiber Optic Laser) สลายไขมันด้วยพลังงานความร้อนจากเลเซอร์ผ่านสายไฟเบอร์ออฟติค เหมาะกับบริเวณที่ มีขนาดเล็ก เช่น เหนียงใต้คาง บริเวณแก้ม เป็นต้น
การเตรียมตัวก่อนการรับการผ่าตัดดูดไขมัน
- ทํานัดเข้าปรึกษากับแพทย์ผู้ชํานาญด้านการดูดไขมันโดยเฉพาะ เพื่อประเมินปัญหา กําหนดบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน และ เลือกชนิดของเลเซอร์ที่เหมาะสมกับปัญหานั้นๆ
- ซักถามประวัติสุขภาพเบื้องต้นเช่น โรคประจําตัว การแพ้ยา หรือ แพ้อาหาร เพื่อประเมินสุขภาพว่าสามารถเข้ารับการผ่าตัด ดูดไขมันต่อไปได้หรือไม่ ทั้งนี้ การผ่าตัดดูดไขมัน สามารถเลือกทําได้ทั้งแบบดมยาสลบหรือการฉีดยาชาเฉพาะจุด ซึ่งขึ้นอยู่กับ การพิจารณาของแพทย์เป็นหลัก - งดการรับประทานวิตามิน และอาหารเสริมกลุ่มที่มีผลต่อการหยุดและแข็งตัวของเลือด ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเป็น ปกติ พร้อมที่จะเข้ารับการรักษาดูดไขมัน ซึ่งโดยปกติแล้วทางโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งดับเบิ้ลยูจะมอบคู่มือการปฏิบัติตัว ก่อนและหลังรับการรักษาให้ผู้รับบริการรับทราบข้อมูลการปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง
การปฏิบัติตัวหลังรับการผ่าตัดดูดไขมัน
- ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ําอย่างน้อย 7 วัน โดยจะทําการปิดผนึกแผลด้วยลาสเตอร์กันน้ําทิ้งไว้ เมื่อครบกําหนดตัดไหม ระยะเวลา 7 วัน จึงจะสามารถเปิดแผลสัมผัสน้ําได้ตามปกติ หลังตัดไหมควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวบริเวณรอยแผลที่เย็บโดยตรง เช่น การนวด หรือ สครับผิวบริเวณนั้น เป็นต้น - งดการออกกําลังหนักๆ การออกกําลังกายที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ แนะนําให้ดื่มน้ําสะอาดมากกว่า ปกติสักเล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายสามารถขับของเสียโดยเฉพาะเซลล์ไขมันบางส่วนที่ถูกสลายแล้วระบายออกมาทางระบบ น้ําเหลืองของร่างกาย
- การรัดผ้าหรือสวมใส่ชุดกระชับ (Compression Garment)หลังการดูดไขมันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใดก็ตาม แพทย์จะ แนะนําให้สวมใส่ผ้าหรือชุดกระชับอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการกระชับผิวหนัง เนื่องจากชั้นไขมันที่ถูกกําจัดออกไป อาจเกิดเป็น โพรงช่องว่างระหว่างชั้นผิวหนังกับกล้ามเนื้อ ดังนั้นการรัดผ้าจะช่วยการกระชับของผิวและบรรเทาความรู้สึกเจ็บ เสียวได้อีก ด้วย
การดูดไขมันแบบ Body Contouring ของทางโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งคืออะไร
- การออกแบบรูปร่างโดยละเอียด เพื่อประเมินการรักษาต่อไปว่าควรตกแต่งรูปร่างอย่างไรให้สมส่วน ไม่ใช่เพียงการนําไขมัน ออกไปเฉพาะจุด แต่หมายถึงการใช้ศิลปะในการตกแต่งรูปร่างให้ผลลัพธ์ออกมามีสัดส่วนที่สมมาตร ซึ่งถือเป็นการออกแบบ เฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง
- นอกจากการดูดไขมันออกจากบริเวณที่เป็นส่วนเกินแล้ว ยังสามารถนําไปเติมยังบริเวณที่บกพร่องได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย
บทความจาก : https://www.w-surgeryhospital.com
#ศัลยกรรมตกแต่ง #plasticsurgery
การดูดไขมันเหมาะสมกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีพันธุกรรมด้านขนาดของรูปร่างที่ไม่สมส่วน เช่น ต้นแขนใหญ่กว่าปกติ หรือ สะโพกใหญ่ไม่สมส่วนกับบริเวณเอว เป็นต้น
- ผู้ที่ออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีการบริหารร่างกายเฉพาะส่วน แต่ไม่สามารถกําจัดไขมันส่วนเกินบริเวณนั้นออกไปได้ เช่น
บริเวณเอวด้านหลัง ปีกหลัง (FatBra) และ ต้นขาด้านในเป็นต้น - ไม่เหมาะกับผู้ที่มีน้ําหนักตัวและส่วนสูง (BMI) เกินเกณฑ์ เนื่องจากการดูดไขมันเฉพาะจุด ไม่สามารถช่วยให้น้ําหนักตัวลดลงได้ ในผู้ที่มีน้ําหนักตัวเกินเกณฑ์ควรควบคุมอาหาร ออกกําลังกาย ให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติเสียก่อน
ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งดับเบิลยู มีเครื่องมือที่ใช้ในการดูดไขมันอยู่กี่แบบ
- LipoVazer (Ultrasound) การสลายไขมันด้วยคลื่นอัลตร้าซาวน์ เป็นการสลายไขมันอย่างอ่อนโยน เลือกกําจัดเฉพาะไขมัน เท่านั้น โดยไม่ทําลายเนื้อเยื่อรอบข้าง บอบช้ำน้อย
- LipoTite (RF) สลายไขมันด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เป็นการสลายไขมันพร้อมกับกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวหนังกระชับขึ้นไปในเวลาเดียวกัน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน บวกกับผิวหนังเริ่มมีความหย่อนคล้อย เช่น บริเวณต้นแขน หน้าท้องล่าง ต้นขาด้านในเป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถนําการทํา LipoTite (RF) มาทําการรักษาเพื่อความกระชับของ ผิวหนัง บริเวณใบหน้า FaceTite และลําคอ NeckTite ได้อีกด้วย
- Lipotase (Fiber Optic Laser) สลายไขมันด้วยพลังงานความร้อนจากเลเซอร์ผ่านสายไฟเบอร์ออฟติค เหมาะกับบริเวณที่ มีขนาดเล็ก เช่น เหนียงใต้คาง บริเวณแก้ม เป็นต้น
การเตรียมตัวก่อนการรับการผ่าตัดดูดไขมัน
- ทํานัดเข้าปรึกษากับแพทย์ผู้ชํานาญด้านการดูดไขมันโดยเฉพาะ เพื่อประเมินปัญหา กําหนดบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน และ เลือกชนิดของเลเซอร์ที่เหมาะสมกับปัญหานั้นๆ
- ซักถามประวัติสุขภาพเบื้องต้นเช่น โรคประจําตัว การแพ้ยา หรือ แพ้อาหาร เพื่อประเมินสุขภาพว่าสามารถเข้ารับการผ่าตัด ดูดไขมันต่อไปได้หรือไม่ ทั้งนี้ การผ่าตัดดูดไขมัน สามารถเลือกทําได้ทั้งแบบดมยาสลบหรือการฉีดยาชาเฉพาะจุด ซึ่งขึ้นอยู่กับ การพิจารณาของแพทย์เป็นหลัก - งดการรับประทานวิตามิน และอาหารเสริมกลุ่มที่มีผลต่อการหยุดและแข็งตัวของเลือด ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเป็น ปกติ พร้อมที่จะเข้ารับการรักษาดูดไขมัน ซึ่งโดยปกติแล้วทางโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งดับเบิ้ลยูจะมอบคู่มือการปฏิบัติตัว ก่อนและหลังรับการรักษาให้ผู้รับบริการรับทราบข้อมูลการปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง
การปฏิบัติตัวหลังรับการผ่าตัดดูดไขมัน
- ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ําอย่างน้อย 7 วัน โดยจะทําการปิดผนึกแผลด้วยลาสเตอร์กันน้ําทิ้งไว้ เมื่อครบกําหนดตัดไหม ระยะเวลา 7 วัน จึงจะสามารถเปิดแผลสัมผัสน้ําได้ตามปกติ หลังตัดไหมควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวบริเวณรอยแผลที่เย็บโดยตรง เช่น การนวด หรือ สครับผิวบริเวณนั้น เป็นต้น - งดการออกกําลังหนักๆ การออกกําลังกายที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ แนะนําให้ดื่มน้ําสะอาดมากกว่า ปกติสักเล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายสามารถขับของเสียโดยเฉพาะเซลล์ไขมันบางส่วนที่ถูกสลายแล้วระบายออกมาทางระบบ น้ําเหลืองของร่างกาย
- การรัดผ้าหรือสวมใส่ชุดกระชับ (Compression Garment)หลังการดูดไขมันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใดก็ตาม แพทย์จะ แนะนําให้สวมใส่ผ้าหรือชุดกระชับอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการกระชับผิวหนัง เนื่องจากชั้นไขมันที่ถูกกําจัดออกไป อาจเกิดเป็น โพรงช่องว่างระหว่างชั้นผิวหนังกับกล้ามเนื้อ ดังนั้นการรัดผ้าจะช่วยการกระชับของผิวและบรรเทาความรู้สึกเจ็บ เสียวได้อีก ด้วย
การดูดไขมันแบบ Body Contouring ของทางโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งคืออะไร
- การออกแบบรูปร่างโดยละเอียด เพื่อประเมินการรักษาต่อไปว่าควรตกแต่งรูปร่างอย่างไรให้สมส่วน ไม่ใช่เพียงการนําไขมัน ออกไปเฉพาะจุด แต่หมายถึงการใช้ศิลปะในการตกแต่งรูปร่างให้ผลลัพธ์ออกมามีสัดส่วนที่สมมาตร ซึ่งถือเป็นการออกแบบ เฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง
- นอกจากการดูดไขมันออกจากบริเวณที่เป็นส่วนเกินแล้ว ยังสามารถนําไปเติมยังบริเวณที่บกพร่องได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย
บทความจาก : https://www.w-surgeryhospital.com
#ศัลยกรรมตกแต่ง #plasticsurgery
แก้ไขล่าสุด:
