- เข้าร่วม
- 16 กันยายน 2020
- ข้อความ
- 131
ปัจจุบัน โรคนิ่วเป็นปัญหาสาธารณสุขที่พบมากทั่วโลก และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่ง นิ่ว มีลักษณะเป็นก้อนแข็งคล้ายก้อนกรวดเกิดจากการตกตะกอนหรือตกผลึกของหินปูน หรือเกลือแร่ในร่างกายซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด อาทิ แคลเซียม ออกซาเลต, แคลเซียม ฟอสเฟต, กรดยูริค และซีสเตอีน นิ่วเกิดขึ้นที่อวัยวะใดก็จะมีชื่อเรียกตามตามอวัยวะนั้น เช่น นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในต่อมน้ำลาย และนิ่วทางเดินปัสสาวะ ซึ่งประกอบไปด้วยนิ่วในไต นิ่วในท่อไต นิ่วในท่อปัสสาวะ และนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งมันก็มีวิธีในการรักษา และวิธีในการป้องกันมากมายที่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะได้หลายวิธีดังนี้
การป้องกันโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะ
1.รับประทานอาหารประเภทโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่วต่าง ๆ ฯลฯ ซึ่งอาหารเหล่านี้จะมีปริมาณของสารฟอสเฟตสูง
2.ลดการรับประทานผักที่มีสารออกซาเลตสูง (Oxalate) หรือสูงปานกลางอย่างต่อเนื่อง เช่น ชะพลู แคร์รอต ผักกระโดน ผักกระเฉด ผักกะหล่ำ ผักโขม ผักแพว ผักเสม็ด บรอกโคลี บีตรูต ใบมันสำปะหลัง มะเขือ มะเขือเทศ มะเดื่อ หน่อไม้ หน่อไม้ฝรั่ง หัวหอม ยอดผักทั้งหลาย โยเกิร์ต ถั่วเหลือง ถั่วรูปไต งา ลูกนัต ผลเบอร์รี่ต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
3.ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือไม่ต่ำกว่าวันละ 10 แก้ว
4.รับประทานแคลเซียมเสริมเฉพาะตามคำแนะนำของแพทย์
5.เมื่อมีอาการผิดปกติทางการถ่ายปัสสาวะ ควรไปพบแพทย์เสมอหลังจากดูตนเองแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน เพื่อป้องกันการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง
เมื่อเราได้รู้ถึงวิธีป้องกันโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะเบื้องต้นแล้วก็ลองเอาวิธีต่าง ๆ เหล่านี้ไปปรับใช้กับตนเองในชีวิตประจำวันดูเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะได้ดีในระดับหนึ่งเลยค่ะ
#นิ่วทางเดินปัสสาวะ