- เข้าร่วม
- 16 กันยายน 2020
- ข้อความ
- 131
ในปัจจุบันทางการแพทย์มีการวินิจฉัยหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้นจากการตรวจเช็กสุขภาพครรภ์ตามแพทย์นัดเป็นระยะ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างคลอด ซึ่งถ้าแพทย์มีความเห็นว่าการคลอดแบบธรรมชาติอาจไม่ปลอดภัยต่อทั้งแม่และลูกน้อย เนื่องจากมีข้อบ่งชี้ทางมารดาและทารก ยกตัวอย่างเช่น คุณแม่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงเป็นโรคติดเชื้อที่อวัยวะเพศ โรคเริม โรคหูดหงอนไก่ ตั้งครรภ์แฝด มีภาวะรกเกาะต่ำ มีภาวะสายสะดือย้อย ลูกอยู่ในท่าก้น หรือ ลูกตัวใหญ่เกินกว่าที่จะคลอดปกติ แพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีการผ่าตัดทำคลอด เพื่อนำทารกออกมาได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น การคลอดลูกที่นิยมในปัจจุบันทำได้ 2 วิธี คือ การคลอดธรรมชาติ และการผ่าคลอด โดยมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันดังต่อไปนี้
ข้อดีการผ่าคลอด
#ผ่าคลอด
ข้อดีการผ่าคลอด
- เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
- กำหนดเวลาคลอดที่แน่นอนได้
- สะดวก มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า
- ไม่ต้องเผชิญกับอาการเจ็บครรภ์คลอด
- สามารถทำหมันได้ทันที
- ร่างกายฟื้นตัวช้า ไม่สามารถให้นมลูกได้ทันที
- เสียเลือดมาก เจ็บแผลนาน
- การผ่าตัดคลอดจะทำได้คุณแม่ต้องได้รับยาระงับความรู้สึกหรือยาสลบ อาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ เช่น มีความดันโลหิตลดต่ำ ลงทันทีจากการบล็อคหลัง การสำลักน้ำหรืออาหารเข้าไปในหลอดลมจากการดมยาสลบ
- อาจมีภาวะแทรกซ้อนเมื่อเจ็บครรภ์ครั้งต่อไป เช่น แผลมดลูกปริแตก รกเกาะลึกผิดปกติ เป็นต้น
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดคลอด
- ลูกน้อยมีโอกาสเกิดปัญหาการหายใจ เช่น ภาวะหายใจเร็วชั่วคราว
- ลูกน้อยไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานตั้งต้นผ่านช่องคลอด อาจเสี่ยงต่อการเป็นภูมิแพ้ หรือป่วยง่าย
- มีค่าใช้จ่ายสูง
#ผ่าคลอด