- เข้าร่วม
- 16 กันยายน 2020
- ข้อความ
- 131
ถ้าคุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากจะมีลูกมากแต่ร่างกายไม่เอื้อต่อการมีลูกด้วยวิธีแบบธรรมชาติ จนคุณจำเป็นที่จะต้องหันไปพึ่งเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถมีลูกได้ ไม่ว่าจะเป็น การทำเด็กหลอดแก้ว , เทคโนโลยีคัดเลือกเชื้ออสุจิ และผสมเทียม , การทำกิ๊ฟท์ , การทำอิ๊กซี่ , เลเซอร์เจาะเปลือกตัวอ่อน ซึ่งวิธีต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนช่วยให้ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ยากสามารถตั้งครรภ์ได้ โดยวิธีที่เลือกใช้มากที่สุดคือการทำเด็กหลอดแก้ว เพราะวิธีนี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาภาวะมีบุตรยากได้เกือบทุกด้าน ไม่ว่าเป็นปัจจัยจากเชื้อไม่สมบูรณ์ของฝ่ายชาย การเจริญเติบโตและตอบสนองของฟองไข่ของฝ่ายหญิง แพทย์ก็สามารถปรับให้เหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละบุคคลได้ รวมถึงการช่วยปฏิสนธิและเพาะเลี้ยงตัวอ่อน โดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีประสบการณ์ตั้งแต่เริ่มแรกเกิด ทำให้ทราบคุณภาพ ศักยภาพเบื้องต้นของตัวอ่อนได้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้มีโอกาสสูงในการวางแผนละกำหนดช่วงตั้งครรภ์ได้เหมาะสมและง่ายขึ้น โดยในการทำเด็กหลอดแก้วนั้นจะมีขั้นตอนดังนี้
1. การกระตุ้นไข่ เริ่มจากการพบแพทย์ ตรวจเลือดดูระดับฮอร์โมน และทำอัลตร้าซาวด์ พร้อมกับฉีดฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่ในวันที่ 2 หรือ 3 ของรอบเดือน จากนั้นแพทย์จะนัดอัลตร้าซาวด์เพื่อดูการเจริญเติบโตของไข่ และตรวจเลือดดูระดับฮอร์โมนเป็นระยะ โดยจะใช้เวลาในขั้นตอนนี้ประมาน 8-10วัน
2. การเก็บไข่ หลังจากมีการกระตุ้นไข่ด้วยฮอร์โมนจนไข่เจริญเติบโตจนได้ขนาดตามต้องการ แพทย์จะทำการเจาะเก็บไข่จากรังไข่ โดยใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอด และใช้อัลตร้าซาวด์ช่วยบอกทิศทาง แพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึกระยะสั้นทางหลอดเลือด หรือวางยาสลบ เพื่อป้องกันความรู้สึกเจ็บปวดระหว่างทำใช้เวลาเก็บไข่ ไม่เกิน 20-30 นาที ในขณะเดียวกัน ฝ่ายชายจะต้องเก็บอสุจิใส่ภาชนะที่แพทย์เตรียมให้ เพื่อนำมาคัดแยกเฉพาะอสุจิที่สมบูรณ์นำมาผสมกับไข่ในห้องทดลอง และตรวจดูการปฏิสนธิต่อไป กรณีที่ฝ่ายชายมีน้ำเชื้อน้อย หรือคุณภาพของอสุจิน้อยกว่ามาตรฐานมาก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่ไข่จะไม่ได้รับการผสม ควรใช้วิธีการคัดเลือกอสุจิเพียงตัวเดียวฉีดเข้าไปในไข่ โดยไม่ต้องรอให้ปฏิสนธิกันเองเรียกวิธีนี้ว่า อิ๊กซี่ (ICSI, Intracytoplasmic Sperm injection)
3. การเพาะเลี้ยงตัวอ่อน เมื่อเกิดการปฎิสนธิไข่กับอสุจิจนเป็นตัวอ่อนแล้ว จะเลี้ยงตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการต่อจนเจริญเติบโต แบ่งเซลล์เป็น 6 – 8 เซลล์ ใช้เวลาประมาณ 3 วันหลังปฏิสนธิ และเจริญเติบโตเข้าสู่ระยะบลาสโตซีสต์ ใช้เวลาประมาณ 5 วันหลังปฏิสนธิ
4. การย้ายตัวอ่อน คือการนำตัวอ่อนย้ายเข้าโพรงมดลูกด้วยการใส่เครื่องมือทางช่องคลอด เหมือนกับการตรวจภายใน ขั้นตอนนี้ไม่ต้องให้ยาระงับปวด หรือยานอนหลับ การใส่ตัวอ่อนเข้าโพรงมดลูก อาศัยเครื่องอัลตร้าซาวด์ในการบอกตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะว่างตัวอ่อนในโพรงมดลูก ปกติแล้วเราย้ายตัวอ่อนได้ 2 ระยะคือตัวอ่อนอายุ 3 หรือ 5 วัน ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
ทั้งนี้สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก่อนคิดทำเด็กหลอดแก้ว คือ หากไม่สำเร็จในการทำครั้งแรก สามารถทำเด็กหลอดแก้วได้อีกครั้ง ภายในระยะเวลา 1-2 เดือน โดยปรึกษาแพทย์เพื่อดูอาการอย่างต่อเนื่องทั้งนี้การรักษาภาวะการมีบุตรยากนั้นมีหลายวิธี ซึ่งคุณสามารถปรึกษากับคุณหมอเพื่อเลือกวิธีอื่น ๆ ที่จะทำให้ตั้งครรภ์ได้ โดยการเปรียบเทียบ ข้อดี – ข้อเสีย ให้รอบครอบเพื่อหาทางออกและวิธีที่จะนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เหมาะสมกับคู่ของคุณให้ได้มากที่สุด
#เด็กหลอดแก้ว