- เข้าร่วม
- 21 สิงหาคม 2015
- ข้อความ
- 9
สวัสดีครับ เพื่อนๆที่น่ารักทุกคน นะครับ ยังจำเธคกันได้ไหม ครับ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนได้ติดตาม ก็จะทราบว่าครั้งล่าสุดนี้เธคทำตา 2 ชั้นไป และเวลาผ่านไปเนื่องนาน ได้ไปเจอเพื่อนคนหนึ่ง นางบินไปงัดหน้าที่เกาหลี พอไปเจอ โอ้!!แม่เจ้า จมูกสวยอลังการ!! อะไรขนาดนั้น ถึงนั้น น้ำตาปริ่ม เว้าวอนอยากได้บ้าง เลยมุ่งมานะ ที่จะเก็บเงิน และตั้งเป้าฉันไปบินไปงัดดั้งที่เกาหลี พร้อมกลืนน้ำตาตัวเองเบาๆ ว่าจะไม่แก้จมูกแล้ว เพราะทำไป 3 รอบแล้ว รอบนี้จะเป็น รอบที่ 4 เหรอเนี้ย My God!!!!!!!! อันนี้ เป็นรีวิว แก้จมูกอันเก่า นะครับ http://dodeden.com/170251.html ไม่รู้ ยังจำกันได้ไหม
>>หลังจากเก็บเงินได้แล้ว เตรียมตัว หาเอเจนซี่ เตรียมบินเกาหลี เคลียร์งาน เคลียร์ตัวเองทุกสิ่ง แต่เกิดเหตุการณ์ชะงัด
ลมพัด ลมเพ เดินกลับเข้าไป ที่ DRK Beauty Clinic อีกครั้ง คราวนี้มาเจอหมอเบียร์ และเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้แกฟังว่าผ่านอะไรมาบ้าง สรุปง่ายๆ
เลยนะครับ เธคเคยฉีดสารเหลวที่จมูก มา 2 รอบ(คาดว่าน่าจะเป็นซิลิโคนเหลว) และแก้จมูกมา 3 ครั้ง รอบสุดท้าย OKHappy ธรรมชาติ สวยงาม แต่ กิเลสจากเพื่อนที่ไปงัดเกาหลี คือ Slope ปลายพุ่ง สวยแบบกราบเท้า เลยบอกหมอไปว่า ขอแบบนั้นจะได้ไหม หมอเบียร์ ถึงขั้นกับ ถอนหายใจ!! แรงๆ แล้วบอกว่า ยากนะหนู ผ่านศึกมาเยอะขนาดนี้ จะทำจริงเหรอ? ถ้าทำจริง..หมอจะถอดอันเก่าแล้วก็พยายามขูดซิลิโคนที่คงเหลือที่ทำให้ เหมือนจมูกโต แล้วก็พร้อมทั้งตอกกระดูก ฐานจมูกให้ดูแคบและเล็กลงเรียวขึ้น แล้วเหลาซิลิโคนแบบ Slope และงัดปลายพุ่งๆ แต่ไม่ต้องถึงขั้นต่อหลังหูหรอก เพราะเราเคยมีซิลิโคนเหลว หมอสามารถใช้ซิลิโคนและทำให้ปลายพุ่งได้ เลยมานั่งทบทวนและดูเงินในกระเป๋าแล้ว
เฮ้อออ!! ทำ DRK ก็ได้ ไม่ไปและ เกาหลีเอาเงินที่เหลือไป Shopping ดีกว่าเพราะราคาช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
และส่วนหนึ่งก็เชื่อว่า หมอไทยเก่งไม่แพ้หมอเกาหลี แน่นอน !!!!
ขึ้นเตียงเลยจ้า………ตัดภาพมาที่เตียงผ่าตัด หมอจิ้มยาชา และให้ยาชา ออกฤทธิ์ และงัดเอาซิลิโคนอันเก่าออกมา หลังจากนั้น หมอเบียร์ ก็เริ่มเลาะๆเรานี้ ได้ยินเสียง กึกๆๆๆๆๆๆ ชัดเจน รู้ตัวเลย ว่าผังผืด และซิลิโคน มีเยอะมาก สงสารหมอ ทำยากชัวร์ๆ หมอเบียร์ก็พยายามขูด หลังจากขูดเรียบร้อยแล้วนั้น ขั้นต่อไปคือ ตอกกระดูกจ้า..แอบลืมตาขึ้นมามองนิดๆ โอ้!!แม่เจ้า ค้อนกับสิ่ว กระแทกมาที่จมูก โปก! โปก! โปก! หน้าสั่นกันไปเลยจ้า แต่ถามว่าเจ็บไหม ตอบเลยตรงๆ ว่าไม่เจ็บสักนิด แต่รู้สึกว่ามีอะไรมากระแทกเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้เจ็บปวดอะไร หลังจากตอกเพื่อปรับฐานจมูกแล้วหลักการก็มีง่ายๆคือตอกให้ร้าวแล้วบีบกดกระดูกเข้าไปเพื่อให้ฐานแคบและเล็กลง จากนั้นหมอก็หายไปประมาณ
15 นาทีได้ ไม่ได้หายไปไหน คือหายไปเหลาซิลิโคนให้เรานั้นเอง ที่นี้หมอเบียร์ใช้ซิลิโคน USA เหลาเคสต่อเคส หรือเรียกว่า “Customize design” ออกแบบเพื่อให้เหมาะและถูกต้องกับสัดส่วนใบหน้าและโครงจมูกของเราเอง รอบแรกหมอเหลา แล้วมาทาบจมูกของเรา แล้วปรากฏว่า ซิลิโคนยาวไปหน่อย หมอเลยเหลาแก้ไข ครั้งที่ 2 แล้วยัดเข้าไปในจมูก พอออกมาเท่านั้นและจ้า ทรงนี้ สะใจมากเลย พุ่งกระจุย กระจาย Slope เป็นสไลด์เดอร์เลยจ้า ขอหมอดูจมูกแล้วแบบเอิ่ม คิด 5 วิ ถามว่าสวยไหม สวยมาก แต่สำหรับตัวเราเองนั้น เราว่ามันเวอร์ไปนิด เหมือนตัวเองเป็นปลาฉลามที่มีครีบหูแหลมๆ 55555+ เลยบอกหมอครับ เธคขอลดปลายลงหน่อยให้มัน ต่ำและ มนๆ กว่านี้หน่อยและ Slope แบบจัดหนัก!! หมอบอกว่าได้..จัดให้
แล้วก็ถอดออกไปเหลาแก้อีกรอบ แล้วก็เอามาใส่รอบนี้ โห!!!!!มันเป๊ะมาก มันใช่เลย นี้และจมูกของฉัน ปลื้มๆๆๆๆๆๆ
แล้วก็เย็บแผลปิดแบบสวยๆ หมอใช้ไหมละลายในการเย็บครับ จะได้ไม่ต้องตัดไหม ไหมจะค่อยๆหลุดไปเองแต่ถ้ารำคาน
สัก 14 วันก็สามารถตัดไหมออกได้ถ้ายังละลายไม่หมด………
** สามารถติดตามในไลฟ์สดตอนเธคทำจมูกได้ที่ FanpageของDRK Beauty clinic ได้นะครับ ถ้าเพื่อนๆ จินตนาการไม่ออก แต่แอบหวาดเสียวนิดนึง นะ อิอิ ตามลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ**
https://www.facebook.com/DrkBeautyClinic/videos/1175790249165523/?pnref=story
หลังจากนั้นการแก้จมูกแล้วตอกกระดูกนั้น ที่เคยได้ยินและเห็นของเพื่อนมา คือพวกทุบกระดูก หักกระดูก จะบวม เขียว ช้ำเยอะมาก เป็นเดือนๆเราไม่รอช้าเลยจ้า……อัดน้ำแข็งพันหน้าตลอดทั้งคืนเลยจ้า กลัวบวมสุดๆ ประคบสู้ตายมาก อะไรที่ช่วยลดบวมทำหมดทุกวิถีทาง แต่ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้น เห้ย!!!!ตกใจ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่เขียว ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเราบวมน้อย หรือหมอทำดี มือเบากันแน่ มาชมรูปกันนะครับ
วันที่ 2 ของการทำจมูก
แต่เพื่อนๆก็บอกว่าอย่าชะล่าใจไป เพราะมันจะบวมวันที่ 2-3 หลังทำวันแรกยังไม่ทันบวมหรอก เรานี้กลัวเลย กลับไปอัดน้ำแข็งรัดหน้าตลอดเลยจ้า กลัวสุดๆ แต่ผลสุดท้ายตื่นเช้ามา ก็บวมนิดหน่อยตรงตาตุ่ยๆๆๆ แล้วฉันจะทำไงดี?? คืนนี้มีนัดสวดมนต์ข้ามปีกับเดอะแก็งค์เพื่อนด้วย เลยอัดประคบต่อ ต้องหายเท่านั้น เหมือนปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริง มันพอยุบลงบ้าง หลังจากนั้นก็ลอกแกะพลาสเตอร์ติดจมูกออกเลยจ้า ไม่สนใจอะไรทั้งสิน เพราะฉันต้องไปสวดมนต์แบบสวยๆเท่านั้น
ก็ถือว่าใช้ได้ บวมนิดหน่อย ไม่มากมาย ไม่สวยเป๊ะ แต่ก็ไม่โป๊ะว่าไปทำอะไรมา อารมณ์แบบว่า
แพ้กุ้งจมูกเลยบวม 55555เกี่ยวปะเนี้ย
วันที่ 3 ของการทำจมูก
หลังจากนั้น เราก็ยังประคบเย็นต่อเรื่อยๆ เพราะกลัวว่าวันที่ 3 มันจะบวมอีก แต่ผลสุดท้ายก็ไม่บวมอะไรเลย
แถมดูยุบลงด้วย เลยเอาเงินที่เหลือจากการทำจมูกไปเดิน Shopping เก๋ๆที่ Siam paragon ชีวิตมันช่างมี
ความสุขอะไรอย่างนี้
วันที่ 4 ของการทำจมูก
เราไม่ได้ประคบอะไรแล้ว เพราะบางทฤษฎีก็บอกต้องประคบอุ่น แต่เรา ไม่เขียว ไม่ช้ำ จะประคบทำไม แถมเคยได้ยินว่าการประคบอุ่นเนี้ย บางคนทำให้บวมหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำไปอีก เราเลยไม่ทำอะไรเลยจ้าแล้วกลับบ้านไปโชว์จมูกสวยๆให้คุณพ่อ คุณแม่ ดูว่าลูกชาย (เอ๊ะ!!!!หรือลูกสาว) จมูก เลิศเลอ แค่นั้น ขอแอบโปรโมทธุรกิจที่บ้านนิดนึง นะจ้า เป็นร้านอาหารตามสั่ง เพื่อนๆแวะมาทานได้นะ พิกัดอยู่ตรง เลยวัดสวนแก้วมาหน่อย ชื่อร้าน 7 ย่านน้ำร้านตามสั่งบ้านๆธรรมดาๆ นะ
วันที่ 5 ของทำจมูก
ชีวิตนี้มันหยุดหยั้งไม่ได้จริงๆ ในเมื่อไรจมูกสวยแล้ว ก็ต้องโชว์ เลยไปเดินเล่นเก๋ๆ ดูหนัง ทานข้าว และ Shopping เพราะมีผู้ใหญ่ใจดีให้ Gift Voucher มา บวกกับมัน Sale หนักอะไรกันขนาดนี้ เลยไปเดินโชว์จมูกและ Shopping ให้กระจาย ตาม Lifestyle ของคนเมืองเก๋ๆ 555555 แต่กระเป๋าแห้งที่ EmQuartier
วันที่ 6 ของทำจมูก
หมดมุขและ……มันว่างอะไรขนาดนี้ ไม่รู้จะไปไหน ทำไร เลยขอนั่งสวดมนต์ ภาวนาขอให้รัดแกนไวๆ ยุบเข้าที่ไวๆ เป๊ะไวๆ แต่ผลสุดท้ายก็สติแตก แล้วออกไปปาร์ตี้ นั่งชิว ทานอาหารค่ำ และ จิบ Cocktail เบาๆ จริงๆหมอห้ามของ หมัก ดอง แอลกอฮอล์ และอาหารทะเล แต่บอกเลยว่ามันไม่สามารถ จะหยุด น้องเธคคนนี้ได้ ดื่มไปเลย เชิด!!! จะสนใจทำไม แต่ก็ดื่มนิดหน่อย นะ กลัวอักเสบ 555555+
>>หลังจากเก็บเงินได้แล้ว เตรียมตัว หาเอเจนซี่ เตรียมบินเกาหลี เคลียร์งาน เคลียร์ตัวเองทุกสิ่ง แต่เกิดเหตุการณ์ชะงัด
ลมพัด ลมเพ เดินกลับเข้าไป ที่ DRK Beauty Clinic อีกครั้ง คราวนี้มาเจอหมอเบียร์ และเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้แกฟังว่าผ่านอะไรมาบ้าง สรุปง่ายๆ
เลยนะครับ เธคเคยฉีดสารเหลวที่จมูก มา 2 รอบ(คาดว่าน่าจะเป็นซิลิโคนเหลว) และแก้จมูกมา 3 ครั้ง รอบสุดท้าย OKHappy ธรรมชาติ สวยงาม แต่ กิเลสจากเพื่อนที่ไปงัดเกาหลี คือ Slope ปลายพุ่ง สวยแบบกราบเท้า เลยบอกหมอไปว่า ขอแบบนั้นจะได้ไหม หมอเบียร์ ถึงขั้นกับ ถอนหายใจ!! แรงๆ แล้วบอกว่า ยากนะหนู ผ่านศึกมาเยอะขนาดนี้ จะทำจริงเหรอ? ถ้าทำจริง..หมอจะถอดอันเก่าแล้วก็พยายามขูดซิลิโคนที่คงเหลือที่ทำให้ เหมือนจมูกโต แล้วก็พร้อมทั้งตอกกระดูก ฐานจมูกให้ดูแคบและเล็กลงเรียวขึ้น แล้วเหลาซิลิโคนแบบ Slope และงัดปลายพุ่งๆ แต่ไม่ต้องถึงขั้นต่อหลังหูหรอก เพราะเราเคยมีซิลิโคนเหลว หมอสามารถใช้ซิลิโคนและทำให้ปลายพุ่งได้ เลยมานั่งทบทวนและดูเงินในกระเป๋าแล้ว
เฮ้อออ!! ทำ DRK ก็ได้ ไม่ไปและ เกาหลีเอาเงินที่เหลือไป Shopping ดีกว่าเพราะราคาช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
และส่วนหนึ่งก็เชื่อว่า หมอไทยเก่งไม่แพ้หมอเกาหลี แน่นอน !!!!
ขึ้นเตียงเลยจ้า………ตัดภาพมาที่เตียงผ่าตัด หมอจิ้มยาชา และให้ยาชา ออกฤทธิ์ และงัดเอาซิลิโคนอันเก่าออกมา หลังจากนั้น หมอเบียร์ ก็เริ่มเลาะๆเรานี้ ได้ยินเสียง กึกๆๆๆๆๆๆ ชัดเจน รู้ตัวเลย ว่าผังผืด และซิลิโคน มีเยอะมาก สงสารหมอ ทำยากชัวร์ๆ หมอเบียร์ก็พยายามขูด หลังจากขูดเรียบร้อยแล้วนั้น ขั้นต่อไปคือ ตอกกระดูกจ้า..แอบลืมตาขึ้นมามองนิดๆ โอ้!!แม่เจ้า ค้อนกับสิ่ว กระแทกมาที่จมูก โปก! โปก! โปก! หน้าสั่นกันไปเลยจ้า แต่ถามว่าเจ็บไหม ตอบเลยตรงๆ ว่าไม่เจ็บสักนิด แต่รู้สึกว่ามีอะไรมากระแทกเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้เจ็บปวดอะไร หลังจากตอกเพื่อปรับฐานจมูกแล้วหลักการก็มีง่ายๆคือตอกให้ร้าวแล้วบีบกดกระดูกเข้าไปเพื่อให้ฐานแคบและเล็กลง จากนั้นหมอก็หายไปประมาณ
15 นาทีได้ ไม่ได้หายไปไหน คือหายไปเหลาซิลิโคนให้เรานั้นเอง ที่นี้หมอเบียร์ใช้ซิลิโคน USA เหลาเคสต่อเคส หรือเรียกว่า “Customize design” ออกแบบเพื่อให้เหมาะและถูกต้องกับสัดส่วนใบหน้าและโครงจมูกของเราเอง รอบแรกหมอเหลา แล้วมาทาบจมูกของเรา แล้วปรากฏว่า ซิลิโคนยาวไปหน่อย หมอเลยเหลาแก้ไข ครั้งที่ 2 แล้วยัดเข้าไปในจมูก พอออกมาเท่านั้นและจ้า ทรงนี้ สะใจมากเลย พุ่งกระจุย กระจาย Slope เป็นสไลด์เดอร์เลยจ้า ขอหมอดูจมูกแล้วแบบเอิ่ม คิด 5 วิ ถามว่าสวยไหม สวยมาก แต่สำหรับตัวเราเองนั้น เราว่ามันเวอร์ไปนิด เหมือนตัวเองเป็นปลาฉลามที่มีครีบหูแหลมๆ 55555+ เลยบอกหมอครับ เธคขอลดปลายลงหน่อยให้มัน ต่ำและ มนๆ กว่านี้หน่อยและ Slope แบบจัดหนัก!! หมอบอกว่าได้..จัดให้
แล้วก็ถอดออกไปเหลาแก้อีกรอบ แล้วก็เอามาใส่รอบนี้ โห!!!!!มันเป๊ะมาก มันใช่เลย นี้และจมูกของฉัน ปลื้มๆๆๆๆๆๆ
แล้วก็เย็บแผลปิดแบบสวยๆ หมอใช้ไหมละลายในการเย็บครับ จะได้ไม่ต้องตัดไหม ไหมจะค่อยๆหลุดไปเองแต่ถ้ารำคาน
สัก 14 วันก็สามารถตัดไหมออกได้ถ้ายังละลายไม่หมด………
** สามารถติดตามในไลฟ์สดตอนเธคทำจมูกได้ที่ FanpageของDRK Beauty clinic ได้นะครับ ถ้าเพื่อนๆ จินตนาการไม่ออก แต่แอบหวาดเสียวนิดนึง นะ อิอิ ตามลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ**
https://www.facebook.com/DrkBeautyClinic/videos/1175790249165523/?pnref=story
หลังจากนั้นการแก้จมูกแล้วตอกกระดูกนั้น ที่เคยได้ยินและเห็นของเพื่อนมา คือพวกทุบกระดูก หักกระดูก จะบวม เขียว ช้ำเยอะมาก เป็นเดือนๆเราไม่รอช้าเลยจ้า……อัดน้ำแข็งพันหน้าตลอดทั้งคืนเลยจ้า กลัวบวมสุดๆ ประคบสู้ตายมาก อะไรที่ช่วยลดบวมทำหมดทุกวิถีทาง แต่ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้น เห้ย!!!!ตกใจ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่เขียว ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเราบวมน้อย หรือหมอทำดี มือเบากันแน่ มาชมรูปกันนะครับ
วันที่ 2 ของการทำจมูก
แต่เพื่อนๆก็บอกว่าอย่าชะล่าใจไป เพราะมันจะบวมวันที่ 2-3 หลังทำวันแรกยังไม่ทันบวมหรอก เรานี้กลัวเลย กลับไปอัดน้ำแข็งรัดหน้าตลอดเลยจ้า กลัวสุดๆ แต่ผลสุดท้ายตื่นเช้ามา ก็บวมนิดหน่อยตรงตาตุ่ยๆๆๆ แล้วฉันจะทำไงดี?? คืนนี้มีนัดสวดมนต์ข้ามปีกับเดอะแก็งค์เพื่อนด้วย เลยอัดประคบต่อ ต้องหายเท่านั้น เหมือนปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริง มันพอยุบลงบ้าง หลังจากนั้นก็ลอกแกะพลาสเตอร์ติดจมูกออกเลยจ้า ไม่สนใจอะไรทั้งสิน เพราะฉันต้องไปสวดมนต์แบบสวยๆเท่านั้น
ก็ถือว่าใช้ได้ บวมนิดหน่อย ไม่มากมาย ไม่สวยเป๊ะ แต่ก็ไม่โป๊ะว่าไปทำอะไรมา อารมณ์แบบว่า
แพ้กุ้งจมูกเลยบวม 55555เกี่ยวปะเนี้ย
วันที่ 3 ของการทำจมูก
หลังจากนั้น เราก็ยังประคบเย็นต่อเรื่อยๆ เพราะกลัวว่าวันที่ 3 มันจะบวมอีก แต่ผลสุดท้ายก็ไม่บวมอะไรเลย
แถมดูยุบลงด้วย เลยเอาเงินที่เหลือจากการทำจมูกไปเดิน Shopping เก๋ๆที่ Siam paragon ชีวิตมันช่างมี
ความสุขอะไรอย่างนี้
วันที่ 4 ของการทำจมูก
เราไม่ได้ประคบอะไรแล้ว เพราะบางทฤษฎีก็บอกต้องประคบอุ่น แต่เรา ไม่เขียว ไม่ช้ำ จะประคบทำไม แถมเคยได้ยินว่าการประคบอุ่นเนี้ย บางคนทำให้บวมหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำไปอีก เราเลยไม่ทำอะไรเลยจ้าแล้วกลับบ้านไปโชว์จมูกสวยๆให้คุณพ่อ คุณแม่ ดูว่าลูกชาย (เอ๊ะ!!!!หรือลูกสาว) จมูก เลิศเลอ แค่นั้น ขอแอบโปรโมทธุรกิจที่บ้านนิดนึง นะจ้า เป็นร้านอาหารตามสั่ง เพื่อนๆแวะมาทานได้นะ พิกัดอยู่ตรง เลยวัดสวนแก้วมาหน่อย ชื่อร้าน 7 ย่านน้ำร้านตามสั่งบ้านๆธรรมดาๆ นะ
วันที่ 5 ของทำจมูก
ชีวิตนี้มันหยุดหยั้งไม่ได้จริงๆ ในเมื่อไรจมูกสวยแล้ว ก็ต้องโชว์ เลยไปเดินเล่นเก๋ๆ ดูหนัง ทานข้าว และ Shopping เพราะมีผู้ใหญ่ใจดีให้ Gift Voucher มา บวกกับมัน Sale หนักอะไรกันขนาดนี้ เลยไปเดินโชว์จมูกและ Shopping ให้กระจาย ตาม Lifestyle ของคนเมืองเก๋ๆ 555555 แต่กระเป๋าแห้งที่ EmQuartier
วันที่ 6 ของทำจมูก
หมดมุขและ……มันว่างอะไรขนาดนี้ ไม่รู้จะไปไหน ทำไร เลยขอนั่งสวดมนต์ ภาวนาขอให้รัดแกนไวๆ ยุบเข้าที่ไวๆ เป๊ะไวๆ แต่ผลสุดท้ายก็สติแตก แล้วออกไปปาร์ตี้ นั่งชิว ทานอาหารค่ำ และ จิบ Cocktail เบาๆ จริงๆหมอห้ามของ หมัก ดอง แอลกอฮอล์ และอาหารทะเล แต่บอกเลยว่ามันไม่สามารถ จะหยุด น้องเธคคนนี้ได้ ดื่มไปเลย เชิด!!! จะสนใจทำไม แต่ก็ดื่มนิดหน่อย นะ กลัวอักเสบ 555555+
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก