สวัสดีทุกคน
ที่เรามาตั้งกระทู้ถามเป็นเพราะเราไม่สบายใจที่โดนถามคำถามนี้ เลยอยากจะถามเพื่อนๆว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง
และนี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขอเล่าเป็นข้อๆเพื่อจะได้อ่านง่ายๆ
1.เราเสริมจมูก(แก้)จากคลีนิคหนึ่งใน เมืองหลวง ของประเทศไทย
2.หลังจากตัดไหมไม่นาน ประมาณ 2 อาทิตย์ได้ จมูกเป็นหนองจากด้านในจุดเล็กๆ
3.ได้เข้าพบหมอ และรับยาแก้อักเสบ
4.จากนั้นไม่นาน ได้พบว่ามี ซิลิโคนทะลุออกมาจากด้านใน
5.วันรุ่งขึ้นเข้าพบหมอ หมอได้ทำการยัดส่วนที่ทะลุออกมา เข้าไปที่เดิม และเย็บปิดแผล
7.ถึงวันตัดไหม แผลปิดสนิท อย่างสวยงาม ทุกอย่าง OK พร้อมกลับบ้านล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เกือบทุกวันก่อนนอน
เวลาผ่านไป น่าจะประมาณ 2-3 อาทิตย์ได้
8.เริ่มมีอาการแสบๆคัน บริเวณในจมูกส่วนปลาย ก็ไม่ได้สนใจอะไร
9.ก่อนนอนเลยให้ คนใกล้ชิด ส่องไฟดูจมูกให้ว่าโอเครไหม (ใจภาวนา ขอให้ปลอดภัย)
10.ทะลุ!! (ครั้งที่ 2)
11.ติดต่อคลีนิคและเข้าทำการ เย็บไหมละลายและตัดซิลิโคนบางส่วนออก ภายในวันที่รู้ว่าทะลุทันที
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นและลงจากเขียง
บทสนทนา
พนักงาน : ปิดประตูและถามกับเราว่า ขออนุญาติถามตรงๆ ว่า ก่อนหน้านี้เคยไป ปาร์ตี้เสพยาไม๊ พวกยา K บลาๆ
เรา : อึ้ง??? ไม่นะ ไม่เคย (คิดในใจจะบ้าหรอ เริ่มเคลียด)
พนักงาน : พอดีคุณหมอให้มาถาม เพราะว่าเนื้อเยื้อในจมูกมันเปื่อย (บลาๆ ไม่ค่อยเข้าใจศัพย์เท่าไร)
เรา : ไม่เคยนะ (ไม่แม้อยากจะลอง) ก่อนหน้านี้ก็มีแค่ไปนั้งใกล้เพื่อนที่ดูดบารากุ เท่านั้นเอง
พนักงาน : แล้วมีการสั่งน้ำมูกแรงๆไหม
เรา : ก็มีนะเพราะก่อนหน้านี้เป็นหวัด แต่ก็ไม่ได้แรงมาก (เราใช้ล้างจมูกบ่อยๆเวลาเป็นหวัด)
12.รับยาและเดินออกจากคลีนิคแบบอึ้งกับคำถาม(พร้อมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คนใกล้ชิดฟัง)
12B.วันรุ่งขึ้นก็มาฉีดยาแก้อักเสบ และมีปากเสียงกันเล็กน้อยกับพนักงานที่ถาม(โดยคนใกล้ชิดเราไปต่อว่า) เพราะบทสนทาด้านบน
คือสำหรับเรามันเป็นคำถามที่รู้สึกสะเทือนใจยังไงก็ไม่รู้ ทำเอาเคลียดเลยทีเดียว ขนาดที่เราไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดใดๆเลย คือเราอยากรู้ว่า มันไม่มีจากสาเหตุอื่นบ้างหรอ ถึงได้ถามเรื่องนี้ เราไม่เข้าใจ ถามเหมือนเราเป็นผู้ต้องสงสัย
สำหรับเพื่อนๆที่ได้อ่าน รู้สึกยังไงกันบ้าง หรือเราคิดมากไปหรือป่าว
อยากให้เพื่อนๆช่วยแสดงความคิดเห็น
ที่เรามาตั้งกระทู้ถามเป็นเพราะเราไม่สบายใจที่โดนถามคำถามนี้ เลยอยากจะถามเพื่อนๆว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง
และนี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขอเล่าเป็นข้อๆเพื่อจะได้อ่านง่ายๆ
1.เราเสริมจมูก(แก้)จากคลีนิคหนึ่งใน เมืองหลวง ของประเทศไทย
2.หลังจากตัดไหมไม่นาน ประมาณ 2 อาทิตย์ได้ จมูกเป็นหนองจากด้านในจุดเล็กๆ
3.ได้เข้าพบหมอ และรับยาแก้อักเสบ
4.จากนั้นไม่นาน ได้พบว่ามี ซิลิโคนทะลุออกมาจากด้านใน
5.วันรุ่งขึ้นเข้าพบหมอ หมอได้ทำการยัดส่วนที่ทะลุออกมา เข้าไปที่เดิม และเย็บปิดแผล
- สาเหตุคุณหมอบอกเกิดจากการดื่ม L
7.ถึงวันตัดไหม แผลปิดสนิท อย่างสวยงาม ทุกอย่าง OK พร้อมกลับบ้านล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เกือบทุกวันก่อนนอน
เวลาผ่านไป น่าจะประมาณ 2-3 อาทิตย์ได้
8.เริ่มมีอาการแสบๆคัน บริเวณในจมูกส่วนปลาย ก็ไม่ได้สนใจอะไร
9.ก่อนนอนเลยให้ คนใกล้ชิด ส่องไฟดูจมูกให้ว่าโอเครไหม (ใจภาวนา ขอให้ปลอดภัย)
10.ทะลุ!! (ครั้งที่ 2)
11.ติดต่อคลีนิคและเข้าทำการ เย็บไหมละลายและตัดซิลิโคนบางส่วนออก ภายในวันที่รู้ว่าทะลุทันที
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นและลงจากเขียง
บทสนทนา
พนักงาน : ปิดประตูและถามกับเราว่า ขออนุญาติถามตรงๆ ว่า ก่อนหน้านี้เคยไป ปาร์ตี้เสพยาไม๊ พวกยา K บลาๆ
เรา : อึ้ง??? ไม่นะ ไม่เคย (คิดในใจจะบ้าหรอ เริ่มเคลียด)
พนักงาน : พอดีคุณหมอให้มาถาม เพราะว่าเนื้อเยื้อในจมูกมันเปื่อย (บลาๆ ไม่ค่อยเข้าใจศัพย์เท่าไร)
เรา : ไม่เคยนะ (ไม่แม้อยากจะลอง) ก่อนหน้านี้ก็มีแค่ไปนั้งใกล้เพื่อนที่ดูดบารากุ เท่านั้นเอง
พนักงาน : แล้วมีการสั่งน้ำมูกแรงๆไหม
เรา : ก็มีนะเพราะก่อนหน้านี้เป็นหวัด แต่ก็ไม่ได้แรงมาก (เราใช้ล้างจมูกบ่อยๆเวลาเป็นหวัด)
12.รับยาและเดินออกจากคลีนิคแบบอึ้งกับคำถาม(พร้อมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คนใกล้ชิดฟัง)
12B.วันรุ่งขึ้นก็มาฉีดยาแก้อักเสบ และมีปากเสียงกันเล็กน้อยกับพนักงานที่ถาม(โดยคนใกล้ชิดเราไปต่อว่า) เพราะบทสนทาด้านบน
คือสำหรับเรามันเป็นคำถามที่รู้สึกสะเทือนใจยังไงก็ไม่รู้ ทำเอาเคลียดเลยทีเดียว ขนาดที่เราไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดใดๆเลย คือเราอยากรู้ว่า มันไม่มีจากสาเหตุอื่นบ้างหรอ ถึงได้ถามเรื่องนี้ เราไม่เข้าใจ ถามเหมือนเราเป็นผู้ต้องสงสัย
สำหรับเพื่อนๆที่ได้อ่าน รู้สึกยังไงกันบ้าง หรือเราคิดมากไปหรือป่าว
อยากให้เพื่อนๆช่วยแสดงความคิดเห็น
ปล.ขอเก็บชื่อคลีนิคไว้เป็นความลับ ไม่เปิดเผยใดๆทั้งสิ้น
ปล.2.ถ้าพนักงานคนใดคนนึงในคลีนิคได้อ่าน กระทู้นี้ คงรู้ว่าเราเป็นใคร ไม่รู้ว่ากลับไปครั้งนี้จะได้รับการบริการแบบไหน
ปล.3.ตอนนี้กำลังหาสถานที่ตรวจหาสารเสพติด แบบย้อนหลังได้เยอะๆ เพื่อเป็นหลักฐาน
ปล.2.ถ้าพนักงานคนใดคนนึงในคลีนิคได้อ่าน กระทู้นี้ คงรู้ว่าเราเป็นใคร ไม่รู้ว่ากลับไปครั้งนี้จะได้รับการบริการแบบไหน
ปล.3.ตอนนี้กำลังหาสถานที่ตรวจหาสารเสพติด แบบย้อนหลังได้เยอะๆ เพื่อเป็นหลักฐาน