- เข้าร่วม
- 4 สิงหาคม 2017
- ข้อความ
- 185
“ดึงหน้า” ลดอายุจริงหรือ!!!!
เมื่อบริบทแห่งความงามเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิต รวมถึง ทัศนคติทางความคิดของผู้หญิงที่มีในเรื่องของความสวยงามยังปรับเปลี่ยน และเปิดกว้าง โดยเฉพาะในเรื่องของการศัลยกรรมตกแต่ง ที่ในวันนี้ไม่ได้ถูกมองเป็นเพียงแค่การรักษาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง แต่เป็นการเสริมจุดเด่นลดจุดด้อย ช่วยสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น...
ศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด (Bangmod Aesthetic Center) นับเป็นผู้นำทางด้านศัลยกรรมความงามของประเทศ ที่เปิดให้บริการมากว่า 34 ปี ภายใต้หลักการทำงานที่ยึดถือนั่นคือ “ปลอดภัย เจ็บน้อย หายเร็ว เป็นธรรมชาติ” ซึ่ง นายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ได้มาบอกเล่าถึงเทรนด์การศัลยกรรมความงามที่น่าจับตา อย่าง “ศัลยกรรมดึงหน้า และลำคอ” ที่ทางโรงพยาบาลบางมดได้คิดค้นวิทยาการผ่าตัด “ดึงหน้า” ด้วยเทคนิคใหม่ เรียกว่า “เทคนิคบางมด” ที่ลดอายุได้หลายสิบปี มอบผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ซึ่งในทางการแพทย์ถือได้ว่าเป็นวิธีที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุน้อยลงได้มากที่สุด โดยมีผู้สนใจเข้ารับการผ่าตัดแล้วกว่า 1,200 ราย
“ศัลยกรรมความงามในประเทศไทยขณะนี้ กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะการศัลยกรรมลดอายุ หรือการผ่าตัดดึงหน้า (Full Facelift) ซึ่งได้มีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดกันมาเรื่อย ๆ แต่ในอดีตนั้นการผ่าตัดยังประสบปัญหาอยู่หลายประการ เช่น การผ่าตัดใช้เวลายาวนาน ต้องดมยาสลบ บวมช้ำนานหลายเดือน และผลที่ได้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ต่อมาจึงได้มีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดมาเรื่อยๆ ตามยุคสมัย เช่น มีการผ่าตัดดึงหน้าในชั้นกล้ามเนื้อ และชั้นลึกมากขึ้น (SMAS technique) เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และได้ผลถาวรกว่าการดึงเฉพาะชั้นผิวหนัง (Subcutaneous facelift) มีการส่องกล้องช่วยในการดึงหน้าผาก เป็นต้น จนปัจจุบันนี้จากประสบการณ์แพทย์ที่มากขึ้น และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไปมาก การผ่าตัดดึงหน้า และดึงคอ (Full facelift) ไม่ใช่การผ่าตัดที่ยากลำบาก และน่ากลัวเหมือนแต่ก่อนแล้ว”
ในวันนี้โรงพยาบาลบางมดได้คิดค้น การผ่าตัด Full-facelift ทั้งดึงหน้า และลำคอ โดยอาศัยเทคนิคเฉพาะในการดึงกล้ามเนื้อชั้นลึกร่วมด้วย (Bangmod SMAS technique) โดยการฉีดยาชา ใช้เวลาผ่าตัดเพียง 2-3 ชั่วโมง ทั้งนี้หลังผ่าตัดพบว่าการบวมช้ำน้อยลง โดยเฉลี่ยเพียง 2-3 วัน เข้าที่ใน 1-2 สัปดาห์ ด้วยเทคนิคนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และใบหน้าดูมีอายุน้อยลง โดยเฉลี่ย 10-20 ปี
“การทำศัลยกรรมดึงหน้าหลักๆ จะแบ่งเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกคือหน้าผาก ที่มีริ้วรอย ร่องคิ้ว เวลาขมวดคิ้วจะมีร่องลึกตรงกลาง ส่วนที่สองจะเป็นใบหน้าส่วนบน บริเวณหางตา ที่มีรอยตีนกา หางตาที่ตก รวมถึงโหนกแก้มที่หย่อนคล้อย การดึงหน้าส่วนบนจะช่วยให้รอยตีนกาน้อยลง หางตา หางคิ้ว โหนกแก้มยกขึ้น ส่วนที่สามคือใบหน้าส่วนล่าง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะมีร่องแก้ม มีความหย่อนคล้อยตรงกรอบหน้า ปลายคาง สามส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ดูมีอายุ ซึ่งการผ่าตัดสามารถแก้ไขได้
ส่วนสุดท้ายคือบริเวณลำคอ ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม แต่เมื่อเทียบกับใบหน้าแล้วผิวส่วนนี้กลับบอบบาง และมีรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายไม่ต่างกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เมื่อคนไข้มาปรึกษาเราคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นอันดับแรก ผู้ที่สนใจจึงควรเข้ามารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางก่อน เพื่อตรวจประเมินทั้งร่างกาย และจิตใจตามหลักการแพทย์โดยละเอียด ว่าสมควรเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่”
นอกจากนี้ นายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงสิ่งสำคัญที่สุดในการทำศัลยกรรมว่า “สิ่งที่จะทำให้ศัลยกรรมได้ผลดี คือการวิเคราะห์ก่อนผ่าตัด ว่าแต่ละคนควรทำในส่วนไหน เพราะบางคนอยากทำทุกอย่าง จริงๆ แล้วอยากให้ปรับทัศนคติเสียใหม่ว่า ยิ่งทำเยอะโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนยิ่งตามมา ยิ่งหลายส่วนยิ่งดูแลยาก ดีที่สุดเราต้องวิเคราะห์ก่อนว่าอันไหนจำเป็นจริงๆ ซึ่งการทำน้อยๆ ทำแล้วดี เป็นเรื่องที่ถูกต้องครับ”
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
เมื่อบริบทแห่งความงามเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิต รวมถึง ทัศนคติทางความคิดของผู้หญิงที่มีในเรื่องของความสวยงามยังปรับเปลี่ยน และเปิดกว้าง โดยเฉพาะในเรื่องของการศัลยกรรมตกแต่ง ที่ในวันนี้ไม่ได้ถูกมองเป็นเพียงแค่การรักษาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง แต่เป็นการเสริมจุดเด่นลดจุดด้อย ช่วยสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น...
ศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด (Bangmod Aesthetic Center) นับเป็นผู้นำทางด้านศัลยกรรมความงามของประเทศ ที่เปิดให้บริการมากว่า 34 ปี ภายใต้หลักการทำงานที่ยึดถือนั่นคือ “ปลอดภัย เจ็บน้อย หายเร็ว เป็นธรรมชาติ” ซึ่ง นายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ได้มาบอกเล่าถึงเทรนด์การศัลยกรรมความงามที่น่าจับตา อย่าง “ศัลยกรรมดึงหน้า และลำคอ” ที่ทางโรงพยาบาลบางมดได้คิดค้นวิทยาการผ่าตัด “ดึงหน้า” ด้วยเทคนิคใหม่ เรียกว่า “เทคนิคบางมด” ที่ลดอายุได้หลายสิบปี มอบผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ซึ่งในทางการแพทย์ถือได้ว่าเป็นวิธีที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุน้อยลงได้มากที่สุด โดยมีผู้สนใจเข้ารับการผ่าตัดแล้วกว่า 1,200 ราย
“ศัลยกรรมความงามในประเทศไทยขณะนี้ กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะการศัลยกรรมลดอายุ หรือการผ่าตัดดึงหน้า (Full Facelift) ซึ่งได้มีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดกันมาเรื่อย ๆ แต่ในอดีตนั้นการผ่าตัดยังประสบปัญหาอยู่หลายประการ เช่น การผ่าตัดใช้เวลายาวนาน ต้องดมยาสลบ บวมช้ำนานหลายเดือน และผลที่ได้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ต่อมาจึงได้มีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดมาเรื่อยๆ ตามยุคสมัย เช่น มีการผ่าตัดดึงหน้าในชั้นกล้ามเนื้อ และชั้นลึกมากขึ้น (SMAS technique) เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และได้ผลถาวรกว่าการดึงเฉพาะชั้นผิวหนัง (Subcutaneous facelift) มีการส่องกล้องช่วยในการดึงหน้าผาก เป็นต้น จนปัจจุบันนี้จากประสบการณ์แพทย์ที่มากขึ้น และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไปมาก การผ่าตัดดึงหน้า และดึงคอ (Full facelift) ไม่ใช่การผ่าตัดที่ยากลำบาก และน่ากลัวเหมือนแต่ก่อนแล้ว”
ในวันนี้โรงพยาบาลบางมดได้คิดค้น การผ่าตัด Full-facelift ทั้งดึงหน้า และลำคอ โดยอาศัยเทคนิคเฉพาะในการดึงกล้ามเนื้อชั้นลึกร่วมด้วย (Bangmod SMAS technique) โดยการฉีดยาชา ใช้เวลาผ่าตัดเพียง 2-3 ชั่วโมง ทั้งนี้หลังผ่าตัดพบว่าการบวมช้ำน้อยลง โดยเฉลี่ยเพียง 2-3 วัน เข้าที่ใน 1-2 สัปดาห์ ด้วยเทคนิคนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และใบหน้าดูมีอายุน้อยลง โดยเฉลี่ย 10-20 ปี
“การทำศัลยกรรมดึงหน้าหลักๆ จะแบ่งเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกคือหน้าผาก ที่มีริ้วรอย ร่องคิ้ว เวลาขมวดคิ้วจะมีร่องลึกตรงกลาง ส่วนที่สองจะเป็นใบหน้าส่วนบน บริเวณหางตา ที่มีรอยตีนกา หางตาที่ตก รวมถึงโหนกแก้มที่หย่อนคล้อย การดึงหน้าส่วนบนจะช่วยให้รอยตีนกาน้อยลง หางตา หางคิ้ว โหนกแก้มยกขึ้น ส่วนที่สามคือใบหน้าส่วนล่าง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะมีร่องแก้ม มีความหย่อนคล้อยตรงกรอบหน้า ปลายคาง สามส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ดูมีอายุ ซึ่งการผ่าตัดสามารถแก้ไขได้
ส่วนสุดท้ายคือบริเวณลำคอ ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม แต่เมื่อเทียบกับใบหน้าแล้วผิวส่วนนี้กลับบอบบาง และมีรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายไม่ต่างกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เมื่อคนไข้มาปรึกษาเราคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นอันดับแรก ผู้ที่สนใจจึงควรเข้ามารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางก่อน เพื่อตรวจประเมินทั้งร่างกาย และจิตใจตามหลักการแพทย์โดยละเอียด ว่าสมควรเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่”
นอกจากนี้ นายแพทย์ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลบางมด ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงสิ่งสำคัญที่สุดในการทำศัลยกรรมว่า “สิ่งที่จะทำให้ศัลยกรรมได้ผลดี คือการวิเคราะห์ก่อนผ่าตัด ว่าแต่ละคนควรทำในส่วนไหน เพราะบางคนอยากทำทุกอย่าง จริงๆ แล้วอยากให้ปรับทัศนคติเสียใหม่ว่า ยิ่งทำเยอะโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนยิ่งตามมา ยิ่งหลายส่วนยิ่งดูแลยาก ดีที่สุดเราต้องวิเคราะห์ก่อนว่าอันไหนจำเป็นจริงๆ ซึ่งการทำน้อยๆ ทำแล้วดี เป็นเรื่องที่ถูกต้องครับ”
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”