- เข้าร่วม
- 15 มิถุนายน 2017
- ข้อความ
- 1
รีวิวนี้เขียนขึ้นมาเพื่ออยากจะแชร์ประสบการณ์ การทำศัลยกรรมจมูกที่เคยผิดพลาดจนหมดเงินไปหลายหมื่น
แต่ที่ได้กลับมาคือจมูกที่โต ปลายทู่ เอียงและผิดรูป ซึ่งเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเราที่ชะล่าใจ
ไม่ยอมไปแก้ตั้งแน่เนิ่นๆ ผลสุดท้ายก็ต้องเสียเวลามากกว่าเดิม
จึงอยากฝากไว้เป็นข้อคิดและเตือนสติทุกคนที่รักสวยรักงามว่า ถ้าจมูกมีปัญหา ควรรีบไปพบหมอทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้แบบเรานะทุกคน
เกริ่นมานานล่ะ เข้าเรื่องกันดีกว่าด้วยความที่อยากสวยและอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีก่อนเข้ามหาลัย เราก็เลยตัดสินใจไปเสริมจมูกกับคลินิกนึงที่ตอนนั้นเป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น ซึ่งตอนนั้นจำได้ว่า หลังจากที่ทำเสร็จ จมูกบวมมากกกก หน้านี่เขียวช้ำเลย แล้วกว่าจะหายก็นานเป็นเดือน พอหายปุ๊ป
แทนที่จะมีคนทักว่าสวย กลับมีแต่คนทักว่าจมูกใหญ่ ไม่เข้ากับหน้า ปลายจมูกทู่จังเหมือนโน้ตอุดมเลยพอได้ยินคนทักบ่อยๆ ก็เริ่มไม่มั่นใจ มีแอบนอยด์บ้าง แต่ก็ยังไม่ได้ไปแก้สักที เพราะว่าช่วงนั้นเราก็เรียนหนักมาก แทบไม่มีเวลาดูแลตัวเองก็เลยปล่อยเลยตามเลย จนกระทั่งเรียนจบและเข้าทำงาน
เริ่มรู้สึกว่าจมูกเริ่มมีอาการบวมแดง และก็ดูใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เราก็เลยตัดสินใจไปหาหมอ ตอนนั้นแบบแทบจะร้องไห้เลยค่ะ TT เราหาข้อมูลเรื่องแก้จมูกอยู่สักพักจนในที่สุดก็เลือกได้ว่าจะมาแก้ที่เมดเมติก เพราะดูจากรีวิวแล้วมีความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญราคาก็ไม่แพงจนเกินไปก็เลยเป็นเหตุผลที่มาแก้จมูกที่นี่ค่ะ โดยหลังจากที่ตัดสินว่าจะแก้จมูกกับที่นี่แล้ว สิ่งแรกที่เราทำก็คือโทรไปจองคิวคุณหมอ ค่าจองคิวหมอที่นี่เสีย 5,000บาทนะคะ (คิวจะช้าหรือเร็วขึ้นกับคิวคุณหมอที่เลือกทำนะคะของเราโชคดีมาก มีคนสละสิทธิก็เลยได้เข้ามาทำก่อน
พอมาถึงที่คลินิก ก็มากรอกเอกสาร ถ่ายรูป แล้วก็จะมีพยาบาลพาไปเปลี่ยนชุด ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนผ่าตัดพอทำความสะอาดผิวเสร็จเค้าก็จะก็ให้เราทานยาคลายเครียด เพื่อลดความกังวล
**อยากฝากไว้นิดสำหรับใครที่มาทำศัลยกรรม อย่าลืมงดการแต่งหน้าแล้วไม่ใส่การคอนแทคเลนส์ ด้วยนะคะ ***
รอหมอประมาณ15นาที พอคุณหมอมาถึง ก็มียิ้มทักทาย แล้วก็เข้ามองดูหน้าเราแล้วก็เอามือจับที่ตรงจมูก
คุณหมอพูดกับเราว่า
คุณหมอ: ที่จมูกเราดูโตเพราะซิลิโคนเหลาใหญ่เกินไป ทำให้ปลายจมูกมันทู่ ยิ่งปล่อยไว้นานก็ยิ่งเป็นพังผืด ทำให้แก้ได้ยาก
เรา:คุณหมอช่วยหนูด้วยนะคะ ช่วยแก้ให้มันสวยกว่าเดิม
คุณหมอ:ยิ้มแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากคุยเรื่องจมูกเสร็จ ก็เตรียมตัวได้เวลาขึ้นเขียงสักที
ตื่นเต้นอ่า มาลุ้นกันว่าจะออกมาเป็นไง >,<
ขั้นตอนแรก คุณหมอก็จะฉีดยาชาที่จมูก ระหว่างนั้นคุณหมอก็จะเหลาซิลิโคน
ระหว่างเหลาคุณหมอก็จะชวนคุยเรื่องโน่นนั่นนี่ คุณหมอใจดีมากค่ะ เป็นกันเองกับคนไข้ทำให้เราไม่รู้สึกเกร็งเลยคุยไปคุยมาจนยาชาเริ่มออกฤทธิ์ เราเองก็เริ่มรู้สึกเบลอๆ หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ
ตื่นขึ้นมาอีกทีก็มีดั้งใหม่แล้ว
คุณหมอบอกกับว่า เคสเราจมูกมีพังผืดเยอะมากๆ ทำให้ใช้เวลาเลาะนานกว่าทุกเคส เพราะไม่งั้นใส่ซิลิโคนเข้าไปไม่ได้ พอคุณหมอพูดจบ พยาบาลก็พาเราไปนอนประคบเย็น พอเลือดหยุดไหลก็กลับบ้านได้
ภาพนี้เป็นก่อนและหลังแก้จมูก
ก่อนทำปลายจมูกจะทู่ๆ ตรงสันจมูกก็ดูบวมเหมือนคนฉีดฟิลเลอร์
หลังทำปลายจมูกดูพุ่งขึ้น สันจมูกก็สโลปสวยขึ้น
ความรู้สึกหลังทำ
รู้สึกว่าตัวเองสวยขึ้น5555 แต่งหน้าง่ายขึ้น ใครเห็นใครก็ชมว่าจมูกสวยกว่าแต่ก่อนเยอะ จมูกดูเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา ทำแล้วโหงวเฮ้งดีขึ้นด้วยนะ
ป.ล ใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมถามเราได้เลยน้า
แต่ที่ได้กลับมาคือจมูกที่โต ปลายทู่ เอียงและผิดรูป ซึ่งเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเราที่ชะล่าใจ
ไม่ยอมไปแก้ตั้งแน่เนิ่นๆ ผลสุดท้ายก็ต้องเสียเวลามากกว่าเดิม
จึงอยากฝากไว้เป็นข้อคิดและเตือนสติทุกคนที่รักสวยรักงามว่า ถ้าจมูกมีปัญหา ควรรีบไปพบหมอทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้แบบเรานะทุกคน
เกริ่นมานานล่ะ เข้าเรื่องกันดีกว่าด้วยความที่อยากสวยและอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีก่อนเข้ามหาลัย เราก็เลยตัดสินใจไปเสริมจมูกกับคลินิกนึงที่ตอนนั้นเป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น ซึ่งตอนนั้นจำได้ว่า หลังจากที่ทำเสร็จ จมูกบวมมากกกก หน้านี่เขียวช้ำเลย แล้วกว่าจะหายก็นานเป็นเดือน พอหายปุ๊ป
แทนที่จะมีคนทักว่าสวย กลับมีแต่คนทักว่าจมูกใหญ่ ไม่เข้ากับหน้า ปลายจมูกทู่จังเหมือนโน้ตอุดมเลยพอได้ยินคนทักบ่อยๆ ก็เริ่มไม่มั่นใจ มีแอบนอยด์บ้าง แต่ก็ยังไม่ได้ไปแก้สักที เพราะว่าช่วงนั้นเราก็เรียนหนักมาก แทบไม่มีเวลาดูแลตัวเองก็เลยปล่อยเลยตามเลย จนกระทั่งเรียนจบและเข้าทำงาน
เริ่มรู้สึกว่าจมูกเริ่มมีอาการบวมแดง และก็ดูใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เราก็เลยตัดสินใจไปหาหมอ ตอนนั้นแบบแทบจะร้องไห้เลยค่ะ TT เราหาข้อมูลเรื่องแก้จมูกอยู่สักพักจนในที่สุดก็เลือกได้ว่าจะมาแก้ที่เมดเมติก เพราะดูจากรีวิวแล้วมีความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญราคาก็ไม่แพงจนเกินไปก็เลยเป็นเหตุผลที่มาแก้จมูกที่นี่ค่ะ โดยหลังจากที่ตัดสินว่าจะแก้จมูกกับที่นี่แล้ว สิ่งแรกที่เราทำก็คือโทรไปจองคิวคุณหมอ ค่าจองคิวหมอที่นี่เสีย 5,000บาทนะคะ (คิวจะช้าหรือเร็วขึ้นกับคิวคุณหมอที่เลือกทำนะคะของเราโชคดีมาก มีคนสละสิทธิก็เลยได้เข้ามาทำก่อน
พอมาถึงที่คลินิก ก็มากรอกเอกสาร ถ่ายรูป แล้วก็จะมีพยาบาลพาไปเปลี่ยนชุด ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนผ่าตัดพอทำความสะอาดผิวเสร็จเค้าก็จะก็ให้เราทานยาคลายเครียด เพื่อลดความกังวล
**อยากฝากไว้นิดสำหรับใครที่มาทำศัลยกรรม อย่าลืมงดการแต่งหน้าแล้วไม่ใส่การคอนแทคเลนส์ ด้วยนะคะ ***
รอหมอประมาณ15นาที พอคุณหมอมาถึง ก็มียิ้มทักทาย แล้วก็เข้ามองดูหน้าเราแล้วก็เอามือจับที่ตรงจมูก
คุณหมอพูดกับเราว่า
คุณหมอ: ที่จมูกเราดูโตเพราะซิลิโคนเหลาใหญ่เกินไป ทำให้ปลายจมูกมันทู่ ยิ่งปล่อยไว้นานก็ยิ่งเป็นพังผืด ทำให้แก้ได้ยาก
เรา:คุณหมอช่วยหนูด้วยนะคะ ช่วยแก้ให้มันสวยกว่าเดิม
คุณหมอ:ยิ้มแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากคุยเรื่องจมูกเสร็จ ก็เตรียมตัวได้เวลาขึ้นเขียงสักที
ตื่นเต้นอ่า มาลุ้นกันว่าจะออกมาเป็นไง >,<
ขั้นตอนแรก คุณหมอก็จะฉีดยาชาที่จมูก ระหว่างนั้นคุณหมอก็จะเหลาซิลิโคน
ระหว่างเหลาคุณหมอก็จะชวนคุยเรื่องโน่นนั่นนี่ คุณหมอใจดีมากค่ะ เป็นกันเองกับคนไข้ทำให้เราไม่รู้สึกเกร็งเลยคุยไปคุยมาจนยาชาเริ่มออกฤทธิ์ เราเองก็เริ่มรู้สึกเบลอๆ หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ
ตื่นขึ้นมาอีกทีก็มีดั้งใหม่แล้ว
คุณหมอบอกกับว่า เคสเราจมูกมีพังผืดเยอะมากๆ ทำให้ใช้เวลาเลาะนานกว่าทุกเคส เพราะไม่งั้นใส่ซิลิโคนเข้าไปไม่ได้ พอคุณหมอพูดจบ พยาบาลก็พาเราไปนอนประคบเย็น พอเลือดหยุดไหลก็กลับบ้านได้
ภาพนี้เป็นก่อนและหลังแก้จมูก
ก่อนทำปลายจมูกจะทู่ๆ ตรงสันจมูกก็ดูบวมเหมือนคนฉีดฟิลเลอร์
หลังทำปลายจมูกดูพุ่งขึ้น สันจมูกก็สโลปสวยขึ้น
ความรู้สึกหลังทำ
รู้สึกว่าตัวเองสวยขึ้น5555 แต่งหน้าง่ายขึ้น ใครเห็นใครก็ชมว่าจมูกสวยกว่าแต่ก่อนเยอะ จมูกดูเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา ทำแล้วโหงวเฮ้งดีขึ้นด้วยนะ
ป.ล ใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมถามเราได้เลยน้า
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก