ซิลิโคนจมูก เสริมจมูกทรงสวย เป็นธรรมชาติ แบบไหนดี ซิลิโคนเกาหลี/อเมริกา

[PaPathisa]

ซิลิโคนจมูกทรงต่าง ๆ เสริมจมูกแบบไหนดี จมูกทรงบาร์บี้ จมูกทรงหยดน้ำ​

ซิลิโคนจมูก คืออะไร มีกี่แบบ ซิลิโคนสำเร็จรูป vs ซิลิโคนเหลาเอง ต่างกันอย่างไร ซิลิโคนอเมริกา ซิลิโคนเกาหลี จมูกทรงไหนดี จมูกทรงบาร์บี้ จมูกทรงหยดน้ำเหมาะกับใคร

การเสริมจมูกในปัจจุบันมีอยู่หลายวิธี แต่วิธีที่ได้รับความนิยม คือ การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ที่ในปัจจุบันมีการพัฒนาให้มีความเป็นธรรมชาติ มีทรงจมูกหลายรูปทรงให้เลือก เพื่อเสริมให้จมูกโด่งสวย รับกับใบหน้า

ในบทความนี้มาดูว่าซิลิโคนจมูกที่แพทย์นำมาใช้เสริมจมูก วัสดุที่เข้าสู่ร่างกายจะเป็นอันตรายหรือไม่ ซิลิโคนจมูกมีกี่แบบ รูปทรงจมูกมีแบบไหน จมูกทรงบาร์บี้ จมูกทรงหยดน้ำ ทรงจมูกยอดฮิตเหมาะกับใคร และถ้าไม่เสริมจมูกด้วยซิลิโคนจะมีวิธีไหนอีกบ้างที่ทำให้จมูกโด่งขึ้น
สารบัญ ซิลิโคนจมูก

ซิลิโคนจมูก คืออะไร ​

ซิลิโคนจมูก คือ วัสดุที่นิยมนำมาใช้เสริมจมูก ทำจากพลาสติกสังเคราะห์ ซึ่งมีหลายเกรด จากแหล่งผลิตที่แตกต่างกัน และรูปแบบของซิลิโคนก็มีความแตกต่างกันด้วย

ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย เวลาที่ใส่ซิลิโคนเข้าไปในร่างกายแล้วไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน (biocompatibility) เกรดซิลิโคนที่ใช้ต้องเป็น Medical Grade Silicone หรือซิลิโคนทางการแพทย์ ผ่านการรับรองจากอย. มีความบริสุทธิ์สูง สามารถนำมาใช้กับศัลยกรรมความงาม เช่น ซิลิโคนจมูก ซิลิโคนคาง ซิลิโคนเต้านม และอยู่ได้ถาวร

ซิลิโคนจมูก มีกี่แบบ​

ซิลิโคนเสริมจมูก มี 2 แบบ ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

1. ซิลิโคนเสริมจมูกแบบสำเร็จรูป มีข้อดี คือ ได้รูปทรงที่แน่นอน โอกาสบิดเบี้ยวหรือเอียงเกิดได้น้อย แต่ก็มีข้อเสีย คือ สามารถปรับแต่งรูปทรงได้เพียงเล็กน้อย จึงอาจไม่เหมาะกับทุกคนที่อยากเสริมจมูก
2. ซิลิโคนเสริมจมูกแบบเหลาเอง แพทย์จะนำซิลิโคนเสริมจมูกมาเหลาขึ้นรูปให้เหมาะกับใบหน้าของแต่ละคน ก่อนใส่เข้าไปในจมูก แบ่งออกเป็น 4 ชนิด ตามลักษณะความอ่อน-แข็ง ดังนี้
   1. ซิลิโคนแข็ง (Hard Silicone) คงรูปได้ดี ไม่ยุบตัวง่าย แต่อาจทะลุได้หากเนื้อจมูกไม่หนาพอ จึงมักเลือกใช้ซิลิโคนชนิดแข็งปานกลางแทน
   2. ซิลิโคนแข็งปานกลาง (Medium Silicone) สามารถเหลาได้รูปทรงที่สวยงาม ไม่ทะลุง่าย และไม่ยุบตัวหลังทำ เหมาะกับคนที่มีเนื้อสันจมูกเยอะ สันจมูกหนา
   3. ซิลิโคนนิ่ม (Soft Silicone) ดูเนียนเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่เนื้อจมูกไม่หนา แต่อาจยุบตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป
   4. ซิลิโคนนิ่มมาก (Ultra Soft Silicone) เหมาะกับคนที่มีสันจมูกน้อย เสริมให้จมูกโด่งได้สวยและดูเป็นธรรมชาติมาก

ทั้ง 2 แบบแม้จะเป็นซิลิโคนเสริมจมูกต่างรูปแบบกัน แต่ต้องใช้เทคนิคและความชำนาญของศัลยแพทย์เป็นอย่างมาก ทั้งในขั้นตอนการเหลาปรับแต่งซิลิโคน ตลอดจนการผ่าตัดใส่สิริโคนเสริมจมูก เพื่อให้ออกมาปลอดภัยและสวยงาม

ซิลิโคนจมูกทรงต่าง ๆ​

ปัจจุบันซิลิโคนจมูกทรงต่าง ๆ มีให้เลือกหลากหลายรูปทรง และมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป โดย 5 ทรงจมูกยอดนิยม มีดังนี้

ซิลิโคนจมูกทรงบาร์บี้​

ซิลิโคนจมูกทรงบาร์บี้ (Barbie Silicone) มีสันค่อนข้างกว้าง สโลป แต่ไม่โด่งมาก ซิลิโคนทรงบาร์บี้เหมาะสำหรับคนที่มีโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มความโด่งขึ้นเล็กน้อย

ซิลิโคนจมูกทรงหยดน้ำ​

ซิลิโคนจมูกทรงหยดน้ำ เหมาะกับคนที่มีรูปจมูกยาวพอเหมาะและปลายจมูกมีเนื้อหนาพอสมควร โดยแพทย์จะใส่ซิลิโคนดันตรงปลายให้ปลายยาวขึ้นเป็นทรงหยดน้ำ ส่วนคนที่เนื้อบริเวณปลายจมูกน้อย แพทย์จะแนะนำวิธีเสริมจมูกแบบไม่ใช้ซิลิโคนแทน เพื่อป้องกันปัญหาซิลิโคนทะลุ

ซิลิโคนจมูกทรงตั๊กแตน​

ซิลิโคนแมนทิส (Mantis Silicone) หรือซิลิโคนทรงตั๊กแตน ออกแบบให้มีปีกทั้งสองข้างสำหรับครอบสันจมูกไว้ ช่วยลดปัญหาจมูกเบี้ยว เอียง ทะลุ มีขอบแกนบาง และปรับแต่งรูปทรงได้ง่าย

ซิลิโคนบราว​

ซิลิโคนบราว (Brown Silicone) รูปทรงคล้ายกับทรงแมนทิสผสมทรงบาร์บี้ คือ โด่งคล้ายแมนทิส แต่สันจมูกสโลปคล้ายบาร์บี้ เป็นซิลิโคนจมูกสีน้ำตาลตามชื่อที่ใช้เรียก เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อยหรือผิวบาง เพราะเมื่อแสงตกกระทบ จะไม่เห็นซิลิโคนสะท้อนแสงชัดเจน

ซิลิโคนซินเดอเรลล่า​

ซิลิโคนซินเดอเรลล่า (Cinderella Silicone) มีรูปทรงคล้ายทรงบาร์บี้ แต่เนื้อฐานซิลิโคนตรงสันจมูกจะค่อนข้างหนา เหมาะสำหรับคนที่มีโครงสร้างจมูกค่อนข้างแบนราบ

จะเลือกทรงซิลิโคนจมูกทรงไหน ส่วนใหญ่ก็จะเลือกตามความชอบเป็นหลัก โดยสามารถนำรูปทรงจมูกที่ชอบไปให้แพทย์ดูว่าเหมาะสมกับโครงสร้างจมูกของเราหรือไม่ ถ้าไม่ได้จะปรับแต่งอย่างไร เพื่อให้ได้จมูกโด่งสวย

ซิลิโคนจมูกมีของประเทศอะไรบ้าง​

ซิลิโคนเสริมจมูก มีแหล่งผลิตหลายประเทศ แต่สิริโคนเสริมจมูกที่ได้รับความนิยม หลัก ๆ จะมาจาก 3 ประเทศ คือ

1. ซิลิโคนอเมริกา (USA Silicone) ซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ คุณภาพดี มีความปลอดภัยสูง มีความบริสุทธิ์ 100% เป็น Medical Grade Silicone เนื้อซิลิโคนเนียนละเอียด เป็นซิลิโคนจมูกสีขาว และมีความนิ่มปานกลาง เหมาะกับคนที่มีเนื้อบริเวณสันจมูกเยอะนิยมนำมาเหลาขึ้นรูปให้เหมาะกับทรงจมูกของแต่ละคน
2. ซิลิโคนเกาหลี (Korea Silicone) ซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ โคนจมูกและปลายจมูกมีความนิ่มมาก มีความยืดหยุ่นสูง เป็นซิลิโคนจมูกสีน้ำตาล หรือมีสีเหลือง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทรงจมูกที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โด่งมากจนเกินไป
3. ซิลิโคนญี่ปุ่น (Japan Silicone) ซิลิโคนมาตรฐานธรรมดา วัตถุดิบบางอย่างนำเข้าจากญี่ปุ่น ทำการผลิตในไทย เป็นซิลิโคนจมูกสีเหลืองอ่อน เนื้อค่อนข้างแข็งและไม่ยืดหยุ่น เมื่อเสริมแล้วจึงไม่สามารถบิดได้ ทำให้ได้รับความนิยมน้อยที่สุด

นอกจากนี้ยังมีซิลิโคนบราซิล (Brazil Silicone) ซิลิโคนจีน (China Silicone) ซิลิโคนไต้หวัน (Taiwan Silicone) รวมถึงซิลิโคนไทย (Thai Silicone) แต่ได้รับความนิยมน้อย

ซิลิโคนเกาหลี​

เสริมจมูกซิลิโคนเกาหลี ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะคนที่อยากได้ความเป็นธรรมชาติ เพราะทำออกมาแล้วจะไม่ดูโด่งจนเกินไป แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับโครงสร้างจมูกของแต่ละคนด้วย อีกทั้งซิลิโคนยังมีความนิ่มมากและยืดหยุ่นสูง บิดได้ จับแล้วดูเป็นธรรมชาติ และมีโอกาสน้อยที่จะเกิดผลข้างเคียง เช่น ทะลุ เอียง หรือซิลิโคนดันกระดูกอ่อนปลายจมูกให้โผล่ออกมา ทำให้ได้รับความสนใจมาก

ปัจจุบันมีซิลิโคนเกาหลีพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นซิลิโคนจมูกสีเนื้อ ซึ่งนอกจากความนิ่มและยืดหยุ่นสูงแล้ว ยังมีจุดเด่น คือ สามารถยึดเกาะติดกับเนื้อจมูกได้ดี หมดปัญหาซิลิโคนไม่รัดแกน หรือไม่แนบติดกับจมูก อีกทั้งยังมีความเป็นธรรมชาติมากอีกด้วย

จมูกทรงบาร์บี้ usa​

จมูกทรงบาร์บี้ usa หรือจมูกทรงอเมริกาบาร์บี้ ซึ่งเรียกตามวัสดุที่ใช้ คือ ซิลิโคน USA ทำออกมาแล้วจะทำให้ใบหน้าดูหวานละมุนมากขึ้น เพราะบริเวณสันจมูกจะมีลักษณะเว้าเป็นเคิร์ฟ และปลายจมูกมีระดับที่สูงกว่าสันจมูกเล็กน้อย หรือปลายจมูกเชิดเล็กน้อย ทำให้ดูน่ารักอ่อนหวานเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ และทำให้ใบหน้าดูเด็กลง

เสริมจมูกแบบไม่ใช้ซิลิโคนได้ไหม​

เสริมจมูกแบบไม่ใช้ซิลิโคน หรือเสริมจมูกไร้ซิลิโคนสามารถทำได้ บางคนอาจใช้การแต่งหน้าเข้าช่วย ด้วยการไฮไลท์ดั้งเพื่อเพิ่มมิติให้ใบหน้า ซึ่งถ้าแต่งหน้าไม่เก่งก็ต้องใช้เวลานาน ปัจจุบันมีวิธีอื่น ๆ หรือหัตถการอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมให้จมูกดูโด่งขึ้นได้ ดังนี้

1.เสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อของตัวเอง​

ใช้กระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อ เช่น กระดูกซี่โครง กระดูกอ่อนหลังหู เนื้อเยื่อก้นกบ หรือไขมัน เป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยสูง เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อย แต่มีราคาที่สูงกว่าการเสริมจมูกโดยใช้ซิลิโคน และนอกจากจะนำมาใช้ในการเสริมจมูกเป็นหลักแล้ว ยังนำมารองปลายจมูกที่เสริมด้วยซิลิโคน เพื่อป้องกันการทะลุก็ได้

2.ร้อยไหมจมูก​

ร้อยไหมจมูก เป็นหัตถการที่ช่วยเสริมจมูกได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้วแต่ต้องการความคม หรือในคนที่สันจมูกสวยอยู่แล้วแต่ต้องการยกแค่ปลายจมูกขึ้น แต่จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน-2 ปี ไม่ถาวร ขึ้นอยู่กับไหมที่เลือกใช้ ทำให้ต้องร้อยไหมจมูกเพิ่มอยู่เรื่อย ๆ มีโอกาสเกิดพังผืดดึงรั้งจมูกให้ผิดทรงได้ และหากในอนาคตอยากจะผ่าตัดเสริมจมูก ก็ต้องขูดพังผืดออก เจ็บตัวและเสียค่าใช้จ่ายสูงกว่า ถ้าเทียบกับการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนที่อยู่ได้นานกว่า ราคาถูกว่า และอันตรายน้อยกว่า

3.ฟิลเลอร์จมูก​

ฉีดฟิลเลอร์จมูก เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว ต้องการเพิ่มความคม สันจมูกหรือปลายจมูกขึ้นเล็กน้อย แต่จมูกเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูง อาจเกิดอันตรายถึงขั้นตาบอดได้ เนื่องจากบริเวณจมูกมีเส้นเลือดที่เชื่อมโยงกับเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงดวงตา อาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ ต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีแพทย์ที่มีรู้เทคนิคและมีความชำนาญ ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้ทำผ่าตัดเสริมจมูก ซึ่งอยู่ได้นานกว่าและสวยกว่า

ทั้งหมดนี้เป็นการทำจมูกไม่ใส่ซิลิโคน หรือทำจมูกแบบไม่ใช้ซิลิโคน ซึ่งการเสริมจมูกไม่ใช้ซิลิโคนราคาก็จะแตกต่างกันออกไป และมีระยะเวลาคงอยู่ที่ไม่ถาวร

การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน นอกจากจะมีข้อดีในเรื่องความคงทนถาวรแล้ว ยังมีทรงจมูกหลายทรงให้เลือก แพทย์ยังสามารถเหลาปรับแต่งให้เหมาะกับใบหน้า และด้วยการพัฒนาของวัสดุซิลิโคนจมูกที่มีความนิ่มและยืดหยุ่นสูงยังทำให้การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนออกมาสวยงามและดูเป็นธรรมชาติมากอีกด้วย





[/CODE]