ซีสต์รังไข่เรื่องภัยอันตรายใกล้ตัวของผู้หญิงที่ไม่ควรมองข้าม

babala

สมาชิกโดดเด่น
Registered
เข้าร่วม
16 กันยายน 2020
ข้อความ
131
gynecologist01042021.jpg
เรื่องภายในของคุณผู้หญิงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและหมั่นตรวจเช็ก โดยเฉพาะซีสต์รังไข่ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่หลายคนคิด เพราะบางครั้งอาจไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า รู้ตัวอีกครั้งแม้จะรักษาได้ก็ส่งผลกระทบกับร่างกายไปมากแล้ว ดังนั้นการเข้าใจเรื่องซีสต์รังไข่และหมั่นสังเกตตนเองจึงเป็นทางออกที่ดีในการป้องกันและรับมือได้อย่างถูกวิธี ก่อนอื่นเราคงต้องมาทำความเข้าใจกับประเภทของซีสต์ หรือถุงน้ำรังไข่กันเสียก่อน ถุงน้ำรังไข่หรือซีสต์รังไข่มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ดังนี้

1.ฟังค์ชั่นนัล ซีสต์ (Functional Cyst) คือถุงน้ำรังไข่ที่เกิดจากการทำงานตามปกติของรังไข่เพื่อสร้างไข่ที่เป็นเซลล์สืบพันธุ์ของฝ่ายหญิง จะเป็นถุงน้ำที่โตขึ้นแล้วแตกทำให้เซลล์ไข่ไหลออกมา หลังจากนั้นถุงน้ำนี้ก็จะค่อย ๆ ยุบตัวไปเอง

2.เนื้องอกถุงน้ำรังไข่ (Ovarian Tumor หรือ Ovarian Cyst) คือเนื้องอกรังไข่ชนิดที่มีของเหลวภายใน ซึ่งอาจเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง (ไม่ใช่มะเร็ง) หรือ ชนิดร้ายแรง (มะเร็ง) ก็ได้ โดยมากเนื้องอกแต่ละชนิดมักจะมีลักษณะเฉพาะที่พอจะบอกได้ว่าเป็นชนิดใด เช่น Dermoid Cyst (ถุงน้ำเดอร์มอยด์) ซึ่งภายในถุงน้ำมักจะมีน้ำ, ไขมัน เส้นผม กระดูกและฟัน เมื่อเอ็กซเรย์ดูหรือตรวจอัลตราซาวด์ ก็มักจะบอกได้ว่าเป็นเนื้องอกชนิดนี้ ส่วนเนื้องอกถุงน้ำชนิดที่เป็นมะเร็งบางชนิด จะมีการสร้างสารเคมีที่ตรวจพบว่ามีปริมาณสูงมาก ๆ ในกระแสเลือดได้ เช่น CA 125 ก็สามารถบ่งบอกล่วงหน้าได้ว่าน่าจะเป็นมะเร็ง

3.ถุงน้ำที่คล้ายเนื้องอก (Tumor like condition) คือถุงน้ำที่เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ที่เกิดขึ้นที่รังไข่ เมื่อมีรอบเดือนเยื่อบุโพรงมดลูกนี้ก็จะมีเลือดซึมออกมาสะสมในถุงน้ำนี้เรื่อย ๆ จนเป็นเลือดเก่า ๆ ข้น ๆ สีคล้ายช็อกโกแลต จึงเรียกว่า ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst)

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ควรที่จะต้องหมั่นสังเกตอาการของตนเองด้วยว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นซีสต์รังไข่ไหมโดยส่วนใหญ่ผู้ที่มีถุงน้ำรังไข่ผิดปกติในระยะแรกหรือมีขนาดเล็กมักไม่ค่อยมีสัญญาณเตือนหรือมีอาการใด ๆ แต่มักตรวจพบเมื่อได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี หรือผู้ป่วยเข้ามารับการตรวจภายในจากการเป็นโรคอื่น ๆ ส่วนผู้ที่เริ่มมีอาการ ก็จะมีอาการแตกต่างกันไปในแต่ละราย เช่น ปวดบริเวณท้องน้อย หากการปวดสัมพันธ์กับรอบเดือนก็สงสัยได้ว่าอาจมีช็อกโกแลตซีสต์ , ปัสสาวะบ่อยขึ้น เนื่องจากซีสต์มีขนาดใหญ่จนไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ , มีอาการหน่วง ๆ ท้องน้อย , มีประจำเดือนผิดปกติ คือ มามาก มากระปริบกระปรอย ปวดประจำเดือนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละเดือน , มีอาการปวดท้องน้อยเฉียบพลัน เนื่องจากขั้วถุงน้ำรังไข่บิด หรือถุงน้ำรังไข่แตก กรณีนี้ต้องรีบพบแพทย์

แม้ฟังดูว่าเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงและรักษาได้ แต่ในกรณีที่ถุงน้ำรังไข่แตกออกและมีเส้นเลือดฉีกขาดอาจทำให้ตกเลือดในช่องท้องและมีโอกาสเสียชีวิตได้ ผู้หญิงทุกคนจึงควรให้ความสนใจ เมื่อสังเกตได้ว่ามีอาการผิดปกติในข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น ควรรีบพบสูติ-นรีแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาต่อไป

#ซีสต์รังไข่
 

กระทู้ที่คล้ายกัน

กลับ
บน ล่าง