- เข้าร่วม
- 4 สิงหาคม 2017
- ข้อความ
- 185
ดูแลตัวเองอย่างไร ??? หลังศัลยกรรมเสริมก้น - เสริมสะโพก
การเสริมสะโพก และการเสริมก้นด้วยถุงซิลิโคน จะเป็นการผ่าตัดซ่อนแผลใน 2 บริเวณ คือ บริเวณร่องก้น และบริเวณร่องก้นด้านล่าง แต่มากกว่า 90% นิยมทำตรงร่องก้น เพราะสามารถซ่อนแผลได้ดีกว่า เพราะใส่ชุดว่ายน้ำก็ไม่เห็นรอยแผล
การผ่าตัดเสริมสะโพก เสริมก้น ด้วยซิลิโคน ถ้าเทียบกับการเสริมหน้าอก เทคนิคการผ่าตัดของแพทย์ใกล้เคียงกัน โดยสิ่งที่แตกต่างกันคือ ถุงซิลิโคน จะรับกับแรงกระแทกหรือการกดทับได้มากกว่าถุงซิลิโคนหน้าอก เนื่องจากต้องแบกรับน้ำหนักร่างกายเมื่อต้องนั่งหรือนอน รวมถึง การดูแลตนเองหลังผ่าตัดจะต้องสะอาดมากเป็นพิเศษ เนื่องจากอยู่ใกล้บริเวณอวัยวะขับถ่ายของเสีย ซึ่งหากทำความสะอาดไม่ดีอาจติดเชื้อได้
การดูแลตนเองหลังผ่าตัดเสริมสะโพก – เสริมก้น ทำอย่างไร ??
1. หลังผ่าตัดวันรุ่งขึ้นก็สามารถยืน - เดินได้ ทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ
2. ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ใช้กระดาษในการเช็ดทำความสะอาด หลังอุจจาระ ปัสสาวะ และต้องพยายามไม่ให้ติดเชื้อ
3. ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ห้ามนั่ง หรือนอนทับโดยตรง ควรนอนคว่ำ หรือ นอนตะแคงซ้าย - ขวา เพราะแผลยังไม่หายดี อาจทำให้เกิดแผลแยกและซิลิโคนมีปัญหาได้
4. หลังผ่าตัดสัปดาห์แรก แผลจะค่อนข้างหายดี จากนั้นอีก 1 สัปดาห์ แพทย์จะนัดมาดูแผล หากแผลหายดีสามารถฉีดน้ำล้างก้นได้ นอนทับได้ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
5. โดยสรีระของร่างกายในส่วนของเนื้อก้น และสะโพกจะหนากว่าหน้าอก เพราะประกอบด้วยกล้ามเนื้อและไขมันใต้ผิวหนัง เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะแข็งเกิดการผิดรูปจะมีน้อยกว่า ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องนวด
6. ข้อควรระวัง แม้ซิลิโคน สามารถรองรับแรงกดดันได้สูงมาก แต่ถ้าโดนของแหลมทิ่ม หรือตำ มีสิทธิ์แตกได้ เช่น โดนมีด คัทเตอร์ หรือเข็มฉีดยา ฉะนั้น หากจำเป็นจะต้องฉีดยา ควรเปลี่ยนไปฉีดตำแหน่งอื่น และระวังเรื่องถูกของของแหลมทิ่ม แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าถุงซิลิโคนแตก ก็สามารถเปลี่ยนได้ ไม่มีอันตรายอะไร
#แผลเล็ก #เจ็บน้อย #หายเร็ว #เป็นธรรมชาติ
#มั่นใจยิ่งกว่า #โรงพยาบาลบางมด
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
การเสริมสะโพก และการเสริมก้นด้วยถุงซิลิโคน จะเป็นการผ่าตัดซ่อนแผลใน 2 บริเวณ คือ บริเวณร่องก้น และบริเวณร่องก้นด้านล่าง แต่มากกว่า 90% นิยมทำตรงร่องก้น เพราะสามารถซ่อนแผลได้ดีกว่า เพราะใส่ชุดว่ายน้ำก็ไม่เห็นรอยแผล
การผ่าตัดเสริมสะโพก เสริมก้น ด้วยซิลิโคน ถ้าเทียบกับการเสริมหน้าอก เทคนิคการผ่าตัดของแพทย์ใกล้เคียงกัน โดยสิ่งที่แตกต่างกันคือ ถุงซิลิโคน จะรับกับแรงกระแทกหรือการกดทับได้มากกว่าถุงซิลิโคนหน้าอก เนื่องจากต้องแบกรับน้ำหนักร่างกายเมื่อต้องนั่งหรือนอน รวมถึง การดูแลตนเองหลังผ่าตัดจะต้องสะอาดมากเป็นพิเศษ เนื่องจากอยู่ใกล้บริเวณอวัยวะขับถ่ายของเสีย ซึ่งหากทำความสะอาดไม่ดีอาจติดเชื้อได้
การดูแลตนเองหลังผ่าตัดเสริมสะโพก – เสริมก้น ทำอย่างไร ??
1. หลังผ่าตัดวันรุ่งขึ้นก็สามารถยืน - เดินได้ ทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ
2. ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ใช้กระดาษในการเช็ดทำความสะอาด หลังอุจจาระ ปัสสาวะ และต้องพยายามไม่ให้ติดเชื้อ
3. ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ห้ามนั่ง หรือนอนทับโดยตรง ควรนอนคว่ำ หรือ นอนตะแคงซ้าย - ขวา เพราะแผลยังไม่หายดี อาจทำให้เกิดแผลแยกและซิลิโคนมีปัญหาได้
4. หลังผ่าตัดสัปดาห์แรก แผลจะค่อนข้างหายดี จากนั้นอีก 1 สัปดาห์ แพทย์จะนัดมาดูแผล หากแผลหายดีสามารถฉีดน้ำล้างก้นได้ นอนทับได้ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
5. โดยสรีระของร่างกายในส่วนของเนื้อก้น และสะโพกจะหนากว่าหน้าอก เพราะประกอบด้วยกล้ามเนื้อและไขมันใต้ผิวหนัง เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะแข็งเกิดการผิดรูปจะมีน้อยกว่า ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องนวด
6. ข้อควรระวัง แม้ซิลิโคน สามารถรองรับแรงกดดันได้สูงมาก แต่ถ้าโดนของแหลมทิ่ม หรือตำ มีสิทธิ์แตกได้ เช่น โดนมีด คัทเตอร์ หรือเข็มฉีดยา ฉะนั้น หากจำเป็นจะต้องฉีดยา ควรเปลี่ยนไปฉีดตำแหน่งอื่น และระวังเรื่องถูกของของแหลมทิ่ม แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าถุงซิลิโคนแตก ก็สามารถเปลี่ยนได้ ไม่มีอันตรายอะไร
#แผลเล็ก #เจ็บน้อย #หายเร็ว #เป็นธรรมชาติ
#มั่นใจยิ่งกว่า #โรงพยาบาลบางมด
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos