- เข้าร่วม
- 19 มิถุนายน 2020
- ข้อความ
- 192
สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อริช่าค่ะ เห็นชื่อกระทู้ว่า ทุบทั้งหน้า!! ทำวีไลน์กับหมอไทย แก้คางสั้น กรามใหญ่ โหนกแก้มสูง แบบนี้ คงจะพอเดาออกนะคะว่านี่เป็นกระทู้เกี่ยวกับอะไร ใช่ค่ะ! กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวศัลยกรรมค่ะ เอาล่ะริช่าจะมาเล่าประสบการณ์ทำศัลยกรรมปรับโครงหน้า จะเรียกว่าทุบทั้งหน้าเลยก็ว่าได้ หลายคนอาจจะคิดนะคะว่าถ้าทำศัลยกรรมทั้งหน้าจะต้องไปเกาหลีเท่านั้นถึงจะดี คุณคิดผิดค่ะ! ริช่าให้หมอไทยเป็นคนทุบหน้าให้ บอกเลยว่ารีวิวนี้เหมาะสำหรับคนที่กำลังมีความคิดว่า จะเหลากรามที่ไหนดี เหลาโหนกแก้มที่ไหนดี หรือเบิ้ล 2 อย่างทั้งตัดกรามทุบโหนกที่ไหนดีไปเลย หรือแม้แต่กังวลเรื่องราคาว่า เหลากรามราคาเท่าไหร่ บอกเลยว่ารีวิวนี้มีประโยชน์กับทุกๆคนแน่นอนค่ะ
แค่เห็นภาพก็รู้แล้วค่ะปัญหาของริช่าคือโครงหน้าค่ะ กระดูกชัดเจนมาก ทั้งมุมกราม โหนกแก้ม คางสั้น และปัญหาที่ริช่าตัดสินใจทำก่อนเป็นอย่างแรกนั่นก็คือ เหลาโหนกแก้ม หรือ ยุบโหนกแก้ม หรือ ทุบโหนกแก้มนี่แหละค่ะ 5555+
ริช่ายุบโหนกแก้มเมื่อปี 2554 หรือประมาณ 9 ปีที่แล้วค่ะ ซึ่งถ้าย้อนกลับไป 9 ปีที่แล้ว ก็คงยังไม่ได้มีคลินิกความงามหรือ โรงพยาบาลศัลยกรรมกันเยอะแยะเท่านี้นัก และยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับกระดูกโครงหน้าแล้ว ยิ่งหาหมอเก่งๆยากขึ้นไปอีก ริช่าหาข้อมูลด้วยตัวเองว่าจะเหลาโหนกแก้มที่ไหนดีและสอบถามเพื่อนๆ กับคนรู้จักมากมาย ซึ่งเราก็ได้รายชื่อคุณหมอ นั่นคือคุณหมออมรพงษ์ วชิรมน Vertex Clinc ค่ะ คุณหมอแกเนี่ยเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในการผ่าตัดศัลยกรรมโครงหน้า ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกต่างๆ นาๆ คือต้องบอกว่าศัลยกรรมโครงหน้าเนี่ยที่ไหนก็ทำสวยที่ไหนก็ทำได้ แต่ที่ๆทำแล้วปลอดภัย และออกมาสวยด้วย คือต้องบอกเลยว่า คือสำหรับตัวริช่าเอง ริช่าบอกเลยว่า ต้องเป็นคุณหมออมรพงษ์เท่านั้นนะคะ
และนอกจากชื่อเสียงและฝีมือคุณหมอแล้วเนี่ย ยังมีในเรื่องของเทคโนโลยีและเทคนิคในการผ่าตัด นั่นคือ Nemotec V เพราะด้วยหน้าที่การงานเนี่ย เราต้องใช้หน้าตาบ่อย ซึ่งเราจะไม่สามารถรับทำการศัลยกรรมที่ใช้เวลาพักฟื้นนานๆ คือไม่ สามารถเลย แต่พอได้คุยกับคุณหมออมรพงษ์ปุ๊บเนี่ย คุณหมอบอกว่าศัลยกรรมแบบนี้ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ที่เดียวที่มีการฟื้น ตัวได้อย่างรวดเร็วมาก โดยที่แบบว่าแปปเดียวจริงๆคือ เราลางานแค่แปปเดียวเนี่ย ต้องบอกว่าตอนแรกก็แบบว่าจริงรึป่าว จนพอได้มาทำเองถึงรู้สึกเลยว่าเฮ้ย! คุณหมอพูดจริง นอกจากตัวเราเองยังมีอีกหลายเคสที่เขามีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว อย่าง Amazing จริงๆ
หลังยุบโหนกแก้มครบ 1 เดือนค่ะ
รู้สึกละมุนขึ้น แต่มันยังไม่พอใจค่ะ อย่างที่บอก ปัญหาเราไม่ได้อยู่ที่โหนกแก้มอย่างเดียว ยังมีกรามที่ต้องเหลากราม ยังมีคางที่ต้องแก้คางสั้นอีก และก็จมูกที่ต้องเสริม (ในส่วนของจมูก เราขอข้ามไปนะคะ จะเน้นรีวิวปรับโครงหน้าอย่างเดียวเนอะ)
พอเกาหลีมันเริ่มบูมเนี่ย เราก็เริ่มอยากมีแพลนไปทำศัลยกรรมเกาหลีแบบคนอื่นบ้าง ก็ปรึกษาเพื่อนอยากทำหน้าเรียววีไลน์ ก็ดูรีวิวศัลยกรรมเกาหลีเอยอะไรเอย เกิดกิเลสทันทีจ้า วางแผนจะไปทำกับเพื่อนเนาะ แต่ช่วงนั้นเรายังลางานมากๆไม่ได้ ก็เลยส่งตัวเพื่อนไปทำก่อน ไม่ได้ไปทำรอบเดียวกับเพื่อน ผลปรากฎว่าเพื่อนกลับมา กลายเป็นศัลยกรรมคางเบี้ยว เขาไม่สามารถเคี้ยวข้าวได้ ก็ต้องเป็นงานแก้ และก็เป็นการแบบ..ใช้คำว่ารื้อแผงดีกว่าเนอะ ก็คือว่ารื้อใหม่หมดเลย ซึ่งต้องบอกว่าตอนนั้นเราเองก็วางมัดจำไปแล้วเป็นแสนเหมือนกัน เรายอมทิ้งมัดจำเลย เพราะเรารู้สึกว่า ถ้าเราจะเลือกอะไรให้กับตัวเองทั้งทีเนี่ยจะเลือกที่มันชัวร์ ปลอดภัย ไม่ต้องแก้ ไม่ต้องซ่อม ทำครั้งเดียวจบ ไม่มีงานศัลยกรรมคางเบี้ยวแล้วต้องมาแก้ไขทีหลังอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เลยกลับมาตายรังกับคุณหมออมรพงษ์ ด้วยเทคนิค Nemotec V แบบเดิมดีกว่าค่ะ
นี่ก็เป็นใบหน้า before ก่อนจะเข้ารับการศัลยกรรมวีไลน์ แก้คางสั้นด้วยการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง ไม่ใช้ซิลิโคนเสริมคาง ให้ดูแบบมีความละมุนแล้วก็ แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้นนะคะ
ต้องยอมรับว่าฝีมือคุณหมอเก่งมาก ตัดกระดูกได้ออกมาเรียบตรงไม่หยึกหยัก ไม่ขรุขระ กระดูกชิ้นเล็กๆคือกระดูกคางที่ตัดออกมาหลังตกแต่งคางเรียบร้อยแล้ว
กระดูกชิ้นกรามและกระดูกคางที่คุณหมออมรพงษ์ตัดออกมา
แค่เห็นภาพก็รู้แล้วค่ะปัญหาของริช่าคือโครงหน้าค่ะ กระดูกชัดเจนมาก ทั้งมุมกราม โหนกแก้ม คางสั้น และปัญหาที่ริช่าตัดสินใจทำก่อนเป็นอย่างแรกนั่นก็คือ เหลาโหนกแก้ม หรือ ยุบโหนกแก้ม หรือ ทุบโหนกแก้มนี่แหละค่ะ 5555+
ริช่ายุบโหนกแก้มเมื่อปี 2554 หรือประมาณ 9 ปีที่แล้วค่ะ ซึ่งถ้าย้อนกลับไป 9 ปีที่แล้ว ก็คงยังไม่ได้มีคลินิกความงามหรือ โรงพยาบาลศัลยกรรมกันเยอะแยะเท่านี้นัก และยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับกระดูกโครงหน้าแล้ว ยิ่งหาหมอเก่งๆยากขึ้นไปอีก ริช่าหาข้อมูลด้วยตัวเองว่าจะเหลาโหนกแก้มที่ไหนดีและสอบถามเพื่อนๆ กับคนรู้จักมากมาย ซึ่งเราก็ได้รายชื่อคุณหมอ นั่นคือคุณหมออมรพงษ์ วชิรมน Vertex Clinc ค่ะ คุณหมอแกเนี่ยเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในการผ่าตัดศัลยกรรมโครงหน้า ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกต่างๆ นาๆ คือต้องบอกว่าศัลยกรรมโครงหน้าเนี่ยที่ไหนก็ทำสวยที่ไหนก็ทำได้ แต่ที่ๆทำแล้วปลอดภัย และออกมาสวยด้วย คือต้องบอกเลยว่า คือสำหรับตัวริช่าเอง ริช่าบอกเลยว่า ต้องเป็นคุณหมออมรพงษ์เท่านั้นนะคะ
และนอกจากชื่อเสียงและฝีมือคุณหมอแล้วเนี่ย ยังมีในเรื่องของเทคโนโลยีและเทคนิคในการผ่าตัด นั่นคือ Nemotec V เพราะด้วยหน้าที่การงานเนี่ย เราต้องใช้หน้าตาบ่อย ซึ่งเราจะไม่สามารถรับทำการศัลยกรรมที่ใช้เวลาพักฟื้นนานๆ คือไม่ สามารถเลย แต่พอได้คุยกับคุณหมออมรพงษ์ปุ๊บเนี่ย คุณหมอบอกว่าศัลยกรรมแบบนี้ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ที่เดียวที่มีการฟื้น ตัวได้อย่างรวดเร็วมาก โดยที่แบบว่าแปปเดียวจริงๆคือ เราลางานแค่แปปเดียวเนี่ย ต้องบอกว่าตอนแรกก็แบบว่าจริงรึป่าว จนพอได้มาทำเองถึงรู้สึกเลยว่าเฮ้ย! คุณหมอพูดจริง นอกจากตัวเราเองยังมีอีกหลายเคสที่เขามีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว อย่าง Amazing จริงๆ
หลังยุบโหนกแก้มครบ 1 เดือนค่ะ
รู้สึกละมุนขึ้น แต่มันยังไม่พอใจค่ะ อย่างที่บอก ปัญหาเราไม่ได้อยู่ที่โหนกแก้มอย่างเดียว ยังมีกรามที่ต้องเหลากราม ยังมีคางที่ต้องแก้คางสั้นอีก และก็จมูกที่ต้องเสริม (ในส่วนของจมูก เราขอข้ามไปนะคะ จะเน้นรีวิวปรับโครงหน้าอย่างเดียวเนอะ)
พอเกาหลีมันเริ่มบูมเนี่ย เราก็เริ่มอยากมีแพลนไปทำศัลยกรรมเกาหลีแบบคนอื่นบ้าง ก็ปรึกษาเพื่อนอยากทำหน้าเรียววีไลน์ ก็ดูรีวิวศัลยกรรมเกาหลีเอยอะไรเอย เกิดกิเลสทันทีจ้า วางแผนจะไปทำกับเพื่อนเนาะ แต่ช่วงนั้นเรายังลางานมากๆไม่ได้ ก็เลยส่งตัวเพื่อนไปทำก่อน ไม่ได้ไปทำรอบเดียวกับเพื่อน ผลปรากฎว่าเพื่อนกลับมา กลายเป็นศัลยกรรมคางเบี้ยว เขาไม่สามารถเคี้ยวข้าวได้ ก็ต้องเป็นงานแก้ และก็เป็นการแบบ..ใช้คำว่ารื้อแผงดีกว่าเนอะ ก็คือว่ารื้อใหม่หมดเลย ซึ่งต้องบอกว่าตอนนั้นเราเองก็วางมัดจำไปแล้วเป็นแสนเหมือนกัน เรายอมทิ้งมัดจำเลย เพราะเรารู้สึกว่า ถ้าเราจะเลือกอะไรให้กับตัวเองทั้งทีเนี่ยจะเลือกที่มันชัวร์ ปลอดภัย ไม่ต้องแก้ ไม่ต้องซ่อม ทำครั้งเดียวจบ ไม่มีงานศัลยกรรมคางเบี้ยวแล้วต้องมาแก้ไขทีหลังอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เลยกลับมาตายรังกับคุณหมออมรพงษ์ ด้วยเทคนิค Nemotec V แบบเดิมดีกว่าค่ะ
นี่ก็เป็นใบหน้า before ก่อนจะเข้ารับการศัลยกรรมวีไลน์ แก้คางสั้นด้วยการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง ไม่ใช้ซิลิโคนเสริมคาง ให้ดูแบบมีความละมุนแล้วก็ แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้นนะคะ
ต้องยอมรับว่าฝีมือคุณหมอเก่งมาก ตัดกระดูกได้ออกมาเรียบตรงไม่หยึกหยัก ไม่ขรุขระ กระดูกชิ้นเล็กๆคือกระดูกคางที่ตัดออกมาหลังตกแต่งคางเรียบร้อยแล้ว
กระดูกชิ้นกรามและกระดูกคางที่คุณหมออมรพงษ์ตัดออกมา
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- Endotine คืออะไร ใครควรทำ
- สาวๆหนุ่มๆ คนไหนกำลังกลุ้มใจ มีปัญหาหัวล้าน ผมร่วง ผมบาง หรืออยากได้แนวผมที่สวย มารวมกันตรงนี้เลยค่ะ
- [รีวิวจัดฟันแบบใส] อยากฟันเรียงสวยแต่ไม่มีเวลาเข้ามาคลินิกทุกเดือน
- รีวิวผ่าตัดขากรรไกร แก้ปากอูม แบบละเอียดยิบ 12 วันไปงานได้แล้ว ไม่มีสายเดรน ไม่ต้องจัดฟันก่อน
- โดนเพื่อนช็อตฟีลตั้งแต่เด็กว่ากรามใหญ่ แค่นั้นไม่พอยังโดนคนที่บ้านช็อตอีก