แต่หลายต่อหลายท่าน คงเคยได้ยินกิตติศัพท์ ของยาฆ่าแมลงที่จำเป็นต้องใช้ในการเพาะปลูกเจ้าสตรอเบอรี่นี้กันมาบ้าง เลยทำให้รู้สึกขยาด จนถึงหวาดระแวงว่า จะรับประทานดีหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่ เจ้าสตรอเบอรี่ แสนจะมีประโยชน์มากมาย บทความสุขภาพประจำวันศุกร์นี้ ผู้เขียนจึงขอนำประโยชน์จาก สตรอเบอรี่มานำเสนอ รวมถึงวิธีการล้าง เพื่อกำจัดสารเคมีจากการเพาะปลูก และยาฆ่าแมลงตกค้าง เพื่อให้คุณผู้อ่านที่รักสุขภาพทุก ๆ ท่าน ได้ บริโภคสตรอเบอรี่กันอย่างปลอดภัยกัน
สตรอเบอรี่ (Strawberry) เป็นผลไม้ที่จัดอยู่ในสกุลไม้ดอกในวงศ์กุหลาบ มีมากกว่า 20 สปีชีส์และมีลูกผสมอีกมากมาย ผลสดของสตรอเบอรี่มีรสชาติหลากหลายตั้งแต่เปรี้ยวไปจนถึงรสหวานจัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ปลูก โดยสตรอเบอรี่ที่นิยมปลูกในบ้านเราก็คือ สตรอเบอรี่สวน สตรอเบอรี่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เคอซิติน (Quercetin) เคมเพอรอล (Kaempferol) แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งสารดังกล่าวมีส่วนช่วยในการยับยั้งสารก่อมะเร็งต่าง ๆ ได้ และยังมีวิตามินซีในปริมาณสูง
โดยสตรอเบอรี่สดประมาณ 100 กรัม จะมีวิตามินซีมากถึง 58 มิลลิกรัมเลยล่ะค่ะ ซึ่งเมื่อนำสตรอเบอรี่ไปเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นในเรื่องการช่วยต้านอนุมูลอิสระ พบว่า สตรอเบอร์รี่จะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าส้มถึงหนึ่งเท่าครึ่ง / มากกว่า องุ่นแดง 2 เท่า / มากกว่า กีวี 3 เท่า / มากกว่า มะเขือเทศ 7 เท่า / มากกว่า กล้วยหอม 7 เท่า และมากกว่า ลูกแพร ถึง 15 เท่า กันเลยทีเดียว!!
มาดูประโยชน์ของสตรอเบอรี่กันบ้างดีกว่า
1. ส่งเสริมการทำงานของสมอง ที่ส่งเสริมการทำงานของสมองได้นั้นเพราะในสตรอเบอรี่ นั้นมี วิตามินซีและไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrient) ซึ่งทำให้อนุมูลอิสระน้อยลง เพราะเจ้า อนุมูลอิสระนั้นทำให้เนื้อเยื่อและเส้นประสาทเสื่อมสภาพลง ไม่พอแค่นั้นยังมีไอโอดินที่ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพอีกด้วย
2. ดูแลสายตา ปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ทำให้ตาของเรานั้นเสื่อมสภาพลง และปัญหาส่วนใหญ่นั้นเกิดจากอนุมูลอิสระ และการขาดสารอาหาร ยิ่งถ้าหากเรามีอายุมาก ยิ่งทำให้สายตาเราเสื่อมลงได้อย่างรวดเร็ว สตรอเบอรี่นั้นมีความสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ เพราะมี วิตามิน ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) กรดฟีโนลิกส์ และมีอีกหลายตัว ที่ช่วยในการลดและชะลอการเกิดอนุมูลอิสระได้ แถมยังช่วยให้ปรับความดันในตาให้กลับมาเป็นปกติ
3. ป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง เพราะอนุมูลอิสระนั้นเป็นตัวที่ส่งเสริมให้เกิดโรคมะเร็งหลาย ๆ ชนิด ดังนั้นหากเราลด และชะลอการทำงานของอนุมูลอิสระ ก็ช่วยปกกันและรักษาโรคมะเร็งได้เช่นกัน
4. ลดความดันโลหิต คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง คงชอบ เพราะสตรอเบอรี่นั้นมี โพแทสเซียม(Potassium) และแมกนีเซียม (Magnesium) ที่ช่วยให้ปรับความดันโลหิตกลับสู่สภาวะปกติ
5. ปราศจากโรคหัวใจ วิตามิน ใยอาหาร โฟเลต รวมไปถึงสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในสตอรเบอรี่ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย และเสริมกล้ามเนื้อหัวใจให้อีกด้วย
สตรอเบอรี่ยิ่งสดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากเท่านั้น และการรับประทานสตรอเบอรี่แบบสด ๆ จะทำให้ได้รับสารอาหารจากสตรอเบอรี่มากที่สุด!
ดังนั้นก่อนจะรับประทาน จึงควรรู้วิธีการล้าง เพื่อที่จะกำจัดสารเคมีจากการเพาะปลูก และยาฆ่าแมลงตกค้างกัน เพื่อให้คุณผู้อ่านได้รับประทานสตรอเบอรี่กันอย่างปลอดภัยกันดีกว่า
ใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 กะละมัง แช่นาน 10 - 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดทันที ลดสารพิษตกค้างได้ ประมาณ 29 - 38%
ใช้ด่างทับทิม 20 - 30 เกล็ด ผสมน้ำ 1 กะละมัง แช่นาน 10 - 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ลดสารพิษตกค้างได้ 35-43 %
ใช้น้ำส้มสายชู 5% 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 กะละมัง แช่นาน 10 - 15 นาที ลดสารพิษได้ประมาณ 60 - 84 %
ล้างด้วยโซเดียมไบคาร์บอเนต/ เบคกิ้ง โซดา หรือที่คุณแม่บ้าน คุ้นชื่อกันว่า ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่น 1 กะละมัง แช่ผัก ผลไม้นาน 15 นาที จะลดปริมาณสารพิษลงได้ประมาณ 90 - 95 %
จะเห็นว่าการใช้ผงฟูในการล้างจะช่วยลดปริมาณสารเคมีตกค้างลงได้มากที่สุด วิธีเหล่านี้ ยังประยุกต์ใช้ได้กับการล้างผัก และผลไม้ชนิดอื่น ๆ ด้วยนะคะ รู้แบบนี้แล้ว รีบไปหาซื้อผงฟูมาติดครัวไว้กันดีกว่าค่ะ
ทานสตรอเบอรี่ครั้งต่อไป ล้างให้สะอาด ปราศจากสารตกค้างกันก่อนนะคะ
ที่มา www.hunsa.com