ประโยชน์ของแอปเปิ้ล ช่วยผิวสวย-หน้าใส ได้ดีเว่อร์ ๆ

[ฝ้าย]

​

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าผลไม้สีแดงสดรสหวานกรอบอย่าง ผลแอปเปิล คือ หนึ่งในสุดยอดผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างนับไม่ถ้วน ทั้งเป็นยาอายุวัฒนะตามความเชื่อของชาวตะวันตก ช่วยดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก และที่สำคัญยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยผ่องใสอย่างเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย วันนี้กระปุกดอทคอมจึงไม่พลาดที่จะนำเอาเคล็ดลับผิวสวยด้วยแอปเปิลมาฝากกัน งานนี้ใครอยากมีผิวสวยเด้งจนคนอื่นอิจฉา รีบตามเราไปดูกันเลยค่ะ ผิวสวยครบด้วยเนื้อแอปเปิลสด สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีผิวดำคล้ำและดูหม่นหมอง ให้นำแอปเปิลครึ่งผล (ไม่ต้องปอกเปลือก) มาปั่นโดยเติมน้ำเย็นลงไปเล็กน้อย แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก ลดรอยด่างดำ เผยผิวสวยสดใส ด้วยสูตรพอกหน้าแอปเปิลครึ่งลูกผสมน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะปั่นเข้าด้วยกัน จากนั้นจึงนำมาพอกหน้าแล้วนวดวนเบา ๆ ให้ทั่วผิวประมาณ 5 นาที จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลบรอยจุดด่างดำ หรือรอยสิวให้จางลง นอกจากนี้ยังทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้นด้วย หน้าใส ผิวเด้งทุกวันโดยไม่ต้องพึ่งแอพฯ ด้วยสูตรเด็ดที่ใช้นมสด ½ ถ้วยผสมกับแอปเปิล 1 ลูกปั่นรวมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วนำมาขัดเบา ๆ ให้ทั่วผิวหน้าและผิวกาย ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก วิตามินซีและสารอีลาสตินที่มีอยู่ในแอปเปิลจะช่วยทำให้ผิวสว่างสดใสและปรับสภาพผิวที่ดูร่วงโรย แห้งเหี่ยวให้กลับเต่งตึงได้อย่างรวดเร็ว ผิวนุ่มชุ่มชื่น สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีผิวแห้งลอกหรือมีผิวหยาบกร้าน ให้ลองใช้สูตรนี้ โดยการนำแอปเปิลครึ่งลูกมาปั่นกับน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นจึงนำมาพอกหน้าประมาณ 10-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น จะช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม เหมือนมอยส์เจอไรเซอร์ให้ผิวดูชุ่มชื่นขึ้น แถมยังช่วยกระชับรูขุมขนได้อีกด้วย ฟื้นฟูผิวเสีย ผิวโทรมให้สดใสมีน้ำมีนวล ด้วยการนำแอปเปิลครึ่งผลมาปั่นรวมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ จากนั้นจึงนำมาพอกหน้าทิ้งเอาไว้สัก 30 นาที แล้วล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ปิดท้ายด้วยการล้างน้ำเย็นอีกครั้ง ขอบอกว่าสูตรนี้จะช่วยให้ผิวที่เคยแห้งกร้านหม่นหมอง ดูสดชื่นและกระจ่างใส อ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น รู้เคล็ดลับผิวสวยเริ่ดด้วยผลแอปเปิลกันอย่างนี้แล้ว เชื่อได้เลยว่าต่อจากนี้ในตู้เย็นของคุณสาว ๆ จะต้องอัดแน่นไปด้วยแอปเปิลอย่างแน่นอน ก็แหมทั้งกินได้อร่อยมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แถมยังสามารถนำมาขัดสีฉวีวรรณเปลี่ยนผิวให้สวยได้ขนาดนี้ ใครจะพลาดได้ล่ะ^^ ที่มา www.kapook.com