- เข้าร่วม
- 22 มกราคม 2018
- ข้อความ
- 49
ปัจจุบันนี้ การศัลยกรรมไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นและมีจำนวนของแพยท์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายมากขึ้น ทำให้ การทำศัลยกรรมไม่น่ากลัวและปลอดภัย หากเลือกสถานที่มีการรับรองและแพทย์มีประสบการณ์มาก
เช่นกันกับ เพศที่สามในบ้านเรา ถือว่าได้รับการเป็นที่ยอมรับ ผิดกับบางประเทศที่ยังค่อนข้างเคร่งครัดอยู่นั้น ซึ่งก่อนหน้านี้เราอาจจะคุ้นเคยจากการแปลงจากชายมาเป็นหญิง แต่ในปัจจุบัน จำนวนของผู้ที่ร่างกายเป็นหญิงแต่ใจเป็นชายก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกัน
ปัญหาที่เห็นได้ชัดก็คือ ปัญหาทรวงอก เนื่องจากเพศหญิงจะมีเต้านมที่แตกต่างจากเพศชาย การแก้ปัญหาอย่างง่ายๆ คือ การใส่เสื้อทับ ตามมาด้วยการเทคฮอร์โมน แต่ก็ต้องทำเป็นประจำต่อเนื่อง
การผ่าตัดศัลยกรรมตัดหน้าอก จึงเป็นอีกทางเลือกใหม่ สำหรับการแก้ปัญหาอย่างถาวร สำหรับผู้ที่มั่นใจว่าต้องเการเปลี่ยนแปลง วันนี้แพทย์หญิงเพ็ญลดา จาก เอเม่คลินิค จะมาให้ความรู้คร่าวๆ เกี่ยวกับเทคนิคการตัดหน้าอก
เทคนิคในการผ่าตัดเต้านมให้เป็นชาย ขึ้นอยู่กับขนาดและความหย่อนคล้อยของเต้านม
1.สำหรับคนไข้ที่มีขนาดหน้าอกเล็ก หรือ คัพ A มีขนาดปานนมเล็ก จะใช้เทคนิครูปตัว U หรือการผ่าตัดใต้ราวนมเป็นรูปครึ่งวงกลม แล้วก็เย็บกลับเข้าดังเดิม
เทคนิคแบบนี้จะได้หน้าอกแบนราบและยังคงมี ประสาทความรู้สึก
ความรู้สึกบริเวณหัวนม ประมาณ 80%
2. คนไข้ที่มีขนาดหน้าอกคัพ B- C แพทย์จะทำการผ่าตัดบริเวณรอบปานนม โดยเทคนิครูปตัว O เพื่อนำเนื้อส่วนเกินออก หลังจากนั้นจะนำผิวหนังที่เหลือมารวมกันเพื่อเย็บ ทำให้ได้หน้าอกที่แบนราบ แต่หากคนไข้ท่านใดที่มีเนื้อหน้าอกเยอะ อาจมีหนังย่นรอบหัวนมแต่จะหายไปหลังจาก 3-6 เดือน
หากคนไข้ที่มีหัวนมใหญ่ จะสามารถลดขนาดหัวนมได้ หลัง 7 วัน เนื่องจากหากลดขนาดหัวนมหลังผ่าตัดเนื้อบริเวณหน้าอกออกพร้อมกัน อาจทำให้ หัวนมเน่าหรือตายได้เนื่องจาก ขนาดเลือดไปหล่อเลี้ยง
ความรู้สึกบริเวณหัวนม ประมาณ เหลือประมาณ 50-60%
3. หากคนไข้มีขนาดหน้าอกขนาด D ขึ้นไป และห้อยมาก
จะใช้เทคนิค ผ่าแบบเป็นเส้นตรงกลางหัวนม เพื่อตัดเต้านมทั้งหมดออกและนำการตัดและย้ายหัวนมไปไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม เทคนิคนีคนี้ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลหลายวันกว่า เทคนิคอื่น
ความรู้สึกบริเวณหัวนม อาจจะมีนิดหน่อยหรือไม่มีเลย
หากผู้ใด สนใจการศัลยกรรมหน้าอก ควรหาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน และเลือกสถานที่ได้รับมาตรฐานและเชื่อถือได้ ทำการผ่าตัดโดยแพทย์ที่มีประสบกาณ์สั่งสมมาหลายเคส เพราะอย่างไรแล้ว สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ก็คือความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ
เช่นกันกับ เพศที่สามในบ้านเรา ถือว่าได้รับการเป็นที่ยอมรับ ผิดกับบางประเทศที่ยังค่อนข้างเคร่งครัดอยู่นั้น ซึ่งก่อนหน้านี้เราอาจจะคุ้นเคยจากการแปลงจากชายมาเป็นหญิง แต่ในปัจจุบัน จำนวนของผู้ที่ร่างกายเป็นหญิงแต่ใจเป็นชายก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกัน
ปัญหาที่เห็นได้ชัดก็คือ ปัญหาทรวงอก เนื่องจากเพศหญิงจะมีเต้านมที่แตกต่างจากเพศชาย การแก้ปัญหาอย่างง่ายๆ คือ การใส่เสื้อทับ ตามมาด้วยการเทคฮอร์โมน แต่ก็ต้องทำเป็นประจำต่อเนื่อง
การผ่าตัดศัลยกรรมตัดหน้าอก จึงเป็นอีกทางเลือกใหม่ สำหรับการแก้ปัญหาอย่างถาวร สำหรับผู้ที่มั่นใจว่าต้องเการเปลี่ยนแปลง วันนี้แพทย์หญิงเพ็ญลดา จาก เอเม่คลินิค จะมาให้ความรู้คร่าวๆ เกี่ยวกับเทคนิคการตัดหน้าอก
เทคนิคในการผ่าตัดเต้านมให้เป็นชาย ขึ้นอยู่กับขนาดและความหย่อนคล้อยของเต้านม
1.สำหรับคนไข้ที่มีขนาดหน้าอกเล็ก หรือ คัพ A มีขนาดปานนมเล็ก จะใช้เทคนิครูปตัว U หรือการผ่าตัดใต้ราวนมเป็นรูปครึ่งวงกลม แล้วก็เย็บกลับเข้าดังเดิม
เทคนิคแบบนี้จะได้หน้าอกแบนราบและยังคงมี ประสาทความรู้สึก
ความรู้สึกบริเวณหัวนม ประมาณ 80%
2. คนไข้ที่มีขนาดหน้าอกคัพ B- C แพทย์จะทำการผ่าตัดบริเวณรอบปานนม โดยเทคนิครูปตัว O เพื่อนำเนื้อส่วนเกินออก หลังจากนั้นจะนำผิวหนังที่เหลือมารวมกันเพื่อเย็บ ทำให้ได้หน้าอกที่แบนราบ แต่หากคนไข้ท่านใดที่มีเนื้อหน้าอกเยอะ อาจมีหนังย่นรอบหัวนมแต่จะหายไปหลังจาก 3-6 เดือน
หากคนไข้ที่มีหัวนมใหญ่ จะสามารถลดขนาดหัวนมได้ หลัง 7 วัน เนื่องจากหากลดขนาดหัวนมหลังผ่าตัดเนื้อบริเวณหน้าอกออกพร้อมกัน อาจทำให้ หัวนมเน่าหรือตายได้เนื่องจาก ขนาดเลือดไปหล่อเลี้ยง
ความรู้สึกบริเวณหัวนม ประมาณ เหลือประมาณ 50-60%
3. หากคนไข้มีขนาดหน้าอกขนาด D ขึ้นไป และห้อยมาก
จะใช้เทคนิค ผ่าแบบเป็นเส้นตรงกลางหัวนม เพื่อตัดเต้านมทั้งหมดออกและนำการตัดและย้ายหัวนมไปไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม เทคนิคนีคนี้ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลหลายวันกว่า เทคนิคอื่น
ความรู้สึกบริเวณหัวนม อาจจะมีนิดหน่อยหรือไม่มีเลย
หากผู้ใด สนใจการศัลยกรรมหน้าอก ควรหาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน และเลือกสถานที่ได้รับมาตรฐานและเชื่อถือได้ ทำการผ่าตัดโดยแพทย์ที่มีประสบกาณ์สั่งสมมาหลายเคส เพราะอย่างไรแล้ว สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ก็คือความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ