ตา ฝั่งมุกน้องคุ คืออะไร เรามาทำความจักกันนะจ๊ะ

surgerycare

Junior Member
Registered
เข้าร่วม
14 พฤศจิกายน 2013
ข้อความ
421
ฝังมุก คือ การฝังวัสดุที่มีลักษณะกลมเกลี้ยง ขนาดประมาณ 4-10 มิลลิเมตร เช่น ไข่มุกแท้ ซิลิโคน โลหะ แก้ว เข้าไปในหนังหุ้มองคชาตอย่างถาวร เป็นวิธีการประดับด้วยลูกปัดมุก โดยการฝังมุกนี้มีมายาวนานกว่า 1,000 ปี และได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งจุดกำเนิดอาจเป็นเหตุผลทางศาสนาหรือเป็นเครื่องประดับเพื่อความสวยงามนะคะ

ฝังมุก มีข้อดีอย่างไร


การฝังมุกเป็นรสนิยมทางเพศในแต่ละบุคคล ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสุขภาพในแง่ทางการแพทย์ โดยการฝังมุกอาจมีข้อดีบางประการต่อความรู้สึกในขณะมีเพศสัมพันธ์หรือข้อดีอื่น ๆ ดังนี้


อาจมีข้อดีในแง่ของความสวยงาม เนื่องจากมีการใช้วัสดุในการฝังที่แตกต่างกัน เช่น ไข่มุกแท้ ไข่มุกแก้ว ซิลิโคน โลหะ แก้ว สแตนเลส เทฟลอน ไทเทเนียม ทอง ไนโอเบียม แพลทินัม โพลีเมอร์ ซึ่งเป็นความชอบของแต่ละบุคคล ช่วยเพิ่มความมั่นใจในขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการฝังมุกในแง่ของความสวยงามอาจช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสุขทางอารมณ์ ส่งผลให้ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้เมื่อผู้ชายรู้สึกมีความมั่นใจในอวัยวะเพศของตัวเอง นอกจากนี้ วัสดุกลมเกลี้ยงที่มีการเคลื่อนไหวในขณะช่วยตัวเองหรือมีเพศสัมพันธ์ก็อาจช่วยกระตุ้นให้ผู้ชายมีอารมณ์ทางเพศมากขึ้นนะคะ และยังช่วยให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับความชื่นชอบในแต่ละคน โดยวัสดุที่อยู่ใต้หนังหุ้มองคชาตอาจช่วยกระตุ้นเส้นประสาทในช่องคลอดหรือทวารหนักจนถึงจุดสุดยอดได้ แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงอาจชื่นชอบการมีเพศสัมพันธ์กับอวัยวะเพศชายแบบปกติมากกว่าการฝังมุก และการถึงจุดสุดยอดของผู้หญิงนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการกระตุ้นที่อวัยวะเพศเพียงจุดเดียว แต่ยังมีส่วนอื่น ๆ และวิธีการเล้าโลมอื่น ๆ ที่สามารถช่วยให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดได้ เช่น ใบหู เต้านม หัวนม การลูบคลำร่างกาย





ขั้นตอนการฝังมุก

การฝังมุกจำเป็นต้องทำโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญและใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่ผ่านการฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยการฝังมุกอาจมีขั้นตอน ดังนี้



ฉีดยาชาบริเวณที่ต้องการฝังมุก เพื่อลดความเจ็บปวด

การฝังมุกอาจมี 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนการเจาะที่เส้นสองสลึง ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ยึดเกาะระหว่างปลายอวัยวะเพศกับหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ และขั้นตอนที่ 2 คือ การฝังวัสดุใต้หนังหุ้มองคชาต ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที

หลังจากการฝังมุกสามารถปัสสาวะได้ตามปกติ

เข้าพบคุณหมอตามนัดหมายเพื่อตรวจบาดแผลและความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น







การดูแลตัวเองหลังฝังมุก

การดูแลตัวเองหลังฝังมุกอย่างถูกวิธีอาจช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บและการติดเชื้อ ซึ่งการดูแลตัวเองอาจทำได้ดังนี้


ควรดูแลแผลไม่ให้โดนน้ำ 3 วัน เพื่อป้องกันความอับชื้นและการอักเสบ

เมื่อครบ 3 วัน ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศเป็นประจำทุกวันเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรคที่อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ และควรเช็ดอวัยวะเพศให้แห้งสนิทเสมอ เพื่อป้องกันความอับชื้นที่อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย

หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงในหรือกางเกงที่คับแน่น เพราะอาจกดทับแผลจนทำให้เกิดการอักเสบได้

หลีกเลี่ยงการช่วยตัวเองหรือการมีเพศสัมพันธ์ 2 สัปดาห์ เพื่อรอให้แผลหายสนิท เพราะแผลอาจใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน ถึงจะหายสนิท ทั้งนี้ อาจขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคนด้วยนะจ๊ะ

สังเกตอาการติดเชื้อ หากพบว่ามีอาการต่าง ๆ เช่น มีไข้ ผิวบริเวณที่เจาะอุ่น บวมแดง มีกลิ่นเหม็น เจ็บปวด มีหนองสีเหลืองหรือสีเขียว ควรรีบเข้าพบคุณหมอทันที



มีเคล็ดลับมาบอกนะจ๊ะ เตรียมตัวก่อนฝั่งมุก ก่อนทำ 3 วัน ทานหยุนหนานไป๋เหยา เป็นตัวช่วยลดบวมเขียวช้ำได้ดีมากเลยค่ะ ส่วนอีกตัวคือเหล่งเอี๊ยงExtra สุดเข้มข้น ไม่ขมไม่เหม็นทานง่ายมากค่ะ เหมือนน้ำเปล่าเลยค่ะ ที่สุดแห่งการบรรเท่าปวดลดการอักเสบภายใน เร่งการฟื้นตัว ถ้าใครอยากสวยไวหายเร็ว ADD LINE นี้เลยจ๊า Line : @surgerycare , Tel. 097-4475573 ปรึกษาได้เลยนะคะ

**หากต้องการสินค้าด่วน กรุงเทพ และปริมณฑล มีบริการเรียกแมสนะคะ**

**หากต้องการสินค้าด่วน ชลบุรี มีบริการเรียกแมสนะคะ**
 

ไฟล์แนบ

  • 66334004_1779221048890764_5420779014279135232_n.jpg
    66334004_1779221048890764_5420779014279135232_n.jpg
    51.1 KB · ดู: 0
กลับ
บน ล่าง