อัมพฤกษ์ อัมพาต คือ โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke เป็นอาการผิดปกติของระบบประสาทที่เกิดขึ้นทันทีทันใดจากเนื้อสมองขาดเลือด หรือเลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อยลงจากหลอดเลือดแดงที่ ตีบ, อุดตัน หรือ แตก ส่งผลให้เนื้อสมองถูกทำลาย โดยมีอาการแสดงอยู่นานกว่า 24 ชั่วโมง หลายท่านคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว ถึงวิธีการรักษาได้ด้วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกของการฟื้นฟูอัมพฤกษ์ อัมพาต
วันนี้เรามีข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า TMS จากศูนย์สมองและระบบประสาท ของโรงพยาบาลนครธนมาฝากกันค่ะ
เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) คืออะไร?
TMS (Transcranial Magnetic Stimulation) คือ เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปกระตุ้นเซลล์สมอง ส่งผลให้เกิดการหลั่งสารสื่อประสาทที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมและการสร้างวงจรระบบประสาทต่าง ๆ ภายในสมอง โดยการกระตุ้นสมองในตำแหน่งต่าง ๆ จะใช้หัว Coil ในลักษณะที่แตกต่างกัน ทั้งรูปร่าง ความถี่ และความแรงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทั้งนี้ขึ้นกับลักษณะและตำแหน่งรอยโรคของผู้ป่วย
ประโยชน์ของการรักษาด้วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)
- เป็นทางเลือกเพื่อช่วยในการฟื้นฟูภาวะอ่อนแรง สื่อสารลำบาก กลืนลำบาก จากภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาตในผู้ป่วยหลอดเลือดสมองอุดตัน
- ทางเลือกในการรักษาภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่รักษาด้วยยาต้านซึมเศร้าแล้วไม่ตอบสนองเท่าที่ควร
- ทางเลือกในการฟื้นฟูการทำงานของสมองในผู้ป่วยที่มีภาวะความจำถดถอยจากโรคอัลไซเมอร์
การรักษาด้วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) ให้ประสิทธิภาพดีแค่ไหน?
การรักษาด้วยเทคโนโลยี TMS คือการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าผ่านเข้าไปยังสมอง ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บต่ออวัยวะโดยรอบ ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วย หากทำควบคู่กับการทำกายภาพบำบัด จะช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยได้ 30-60%
แพทย์จะทำการกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กวันละ 1 ครั้ง โดยระยะเวลาและความถี่ที่นัดมาทำขึ้นกับโรคที่ผู้ป่วยเป็น ทั้งนี้แพทย์จะคอยซักถามและสังเกตอาการข้างเคียงตลอดระยะเวลาในการกระตุ้น
ใครบ้างที่เหมาะกับการรักษาด้วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)
- ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตันที่มีอาการมาแล้วอย่างน้อย 3 เดือน
- ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่รักษาด้วยยาในขนาดที่เหมาะสมมาแล้วและอาการยังไม่ดีขึ้นภายในหนึ่งปีนับจากเริ่มทานยาต้านเศร้า
- ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ระยะเริ่มต้นถึงระยะปานกลาง
ข้อจำกัดในการรักษาด้วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)
- ผู้ที่มีการฝังโลหะหรือชิ้นส่วนของโลหะในสมองและในช่องหู เพราะสนามแม่เหล็กสามารถเหนี่ยวนำวัตถุที่เป็นโลหะ จนอาจก่อให้เกิดแรงกระทำต่อโครงสร้างสมองโดยรอบวัตถุนั้นได้
- ผู้ติดเครื่องกระตุ้นหัวใจหรือเครื่องมือที่ฝังอยู่ในร่างกาย เพราะสนามแม่เหล็กจะรบกวนการทำงานของวงจรไฟฟ้าของเครื่องเหล่านั้นได้
ผลข้างเคียงที่พบในการรักษาด้วย TMS
มีความร้อนบริเวณที่กระตุ้น เนื่องจากคลื่นแม่เหล็กทำให้อุณหภูมิภายในสมองสูงขึ้นแต่น้อยมากจะมีปวดตึงศีรษะบริเวณที่ทำการกระตุ้น คลื่นไส้ วิงเวียน อาการชัก อารมณ์พลุ่งพล่าน สำหรับผู้ป่วยจิตเวช
ข้อแนะนำก่อนรักษาด้วย TMS
1.แพทย์จะแนะนำการรักษา ข้อบ่งชี้ และข้อห้ามในการใช้เครื่องมือดังกล่าว
2.ห้ามอดนอน ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนทำการรักษาด้วย TMS ในวันรุ่งขึ้น
3.หลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีนก่อนทำ TMS
4.กรณีมียาที่ใช้เป็นประจำ โดยเฉพาะยาในกลุ่มยานอนหลับ ยาทางจิตเวช ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง
อัมพฤกษ์ อัมพาต จากโรคหลอดเลือดสมองถือเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว เพราะมีผู้ป่วยหลายคนที่กว่าจะรู้ตัวว่าป่วยก็มีอาการหนักแล้ว ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้คือ หมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายตัวเอง ว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่ ได้แก่ หน้าเบี้ยว แขนขาชาหรืออ่อนแรง พูดไม่ชัด พูดไม่ออก การมองเห็นผิดปกติ เวียนศีรษะ เดินเซ ซึมลง หรือปวดศีรษะรุนแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้ามีอาการใดอาการหนึ่งแล้วอย่ารีรอ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะการได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีสามารถช่วยลดความพิการและการเสียชีวิตลงได้
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลนครธน : https://www.nakornthon.com/article/...กไฟฟ้า-ช่วยฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต
วันนี้เรามีข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า TMS จากศูนย์สมองและระบบประสาท ของโรงพยาบาลนครธนมาฝากกันค่ะ
เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) คืออะไร?
TMS (Transcranial Magnetic Stimulation) คือ เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปกระตุ้นเซลล์สมอง ส่งผลให้เกิดการหลั่งสารสื่อประสาทที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมและการสร้างวงจรระบบประสาทต่าง ๆ ภายในสมอง โดยการกระตุ้นสมองในตำแหน่งต่าง ๆ จะใช้หัว Coil ในลักษณะที่แตกต่างกัน ทั้งรูปร่าง ความถี่ และความแรงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทั้งนี้ขึ้นกับลักษณะและตำแหน่งรอยโรคของผู้ป่วย
ประโยชน์ของการรักษาด้วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)
- เป็นทางเลือกเพื่อช่วยในการฟื้นฟูภาวะอ่อนแรง สื่อสารลำบาก กลืนลำบาก จากภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาตในผู้ป่วยหลอดเลือดสมองอุดตัน
- ทางเลือกในการรักษาภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่รักษาด้วยยาต้านซึมเศร้าแล้วไม่ตอบสนองเท่าที่ควร
- ทางเลือกในการฟื้นฟูการทำงานของสมองในผู้ป่วยที่มีภาวะความจำถดถอยจากโรคอัลไซเมอร์
การรักษาด้วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) ให้ประสิทธิภาพดีแค่ไหน?
การรักษาด้วยเทคโนโลยี TMS คือการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าผ่านเข้าไปยังสมอง ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บต่ออวัยวะโดยรอบ ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วย หากทำควบคู่กับการทำกายภาพบำบัด จะช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยได้ 30-60%
แพทย์จะทำการกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กวันละ 1 ครั้ง โดยระยะเวลาและความถี่ที่นัดมาทำขึ้นกับโรคที่ผู้ป่วยเป็น ทั้งนี้แพทย์จะคอยซักถามและสังเกตอาการข้างเคียงตลอดระยะเวลาในการกระตุ้น
ใครบ้างที่เหมาะกับการรักษาด้วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)
- ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตันที่มีอาการมาแล้วอย่างน้อย 3 เดือน
- ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่รักษาด้วยยาในขนาดที่เหมาะสมมาแล้วและอาการยังไม่ดีขึ้นภายในหนึ่งปีนับจากเริ่มทานยาต้านเศร้า
- ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ระยะเริ่มต้นถึงระยะปานกลาง
ข้อจำกัดในการรักษาด้วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)
- ผู้ที่มีการฝังโลหะหรือชิ้นส่วนของโลหะในสมองและในช่องหู เพราะสนามแม่เหล็กสามารถเหนี่ยวนำวัตถุที่เป็นโลหะ จนอาจก่อให้เกิดแรงกระทำต่อโครงสร้างสมองโดยรอบวัตถุนั้นได้
- ผู้ติดเครื่องกระตุ้นหัวใจหรือเครื่องมือที่ฝังอยู่ในร่างกาย เพราะสนามแม่เหล็กจะรบกวนการทำงานของวงจรไฟฟ้าของเครื่องเหล่านั้นได้
ผลข้างเคียงที่พบในการรักษาด้วย TMS
มีความร้อนบริเวณที่กระตุ้น เนื่องจากคลื่นแม่เหล็กทำให้อุณหภูมิภายในสมองสูงขึ้นแต่น้อยมากจะมีปวดตึงศีรษะบริเวณที่ทำการกระตุ้น คลื่นไส้ วิงเวียน อาการชัก อารมณ์พลุ่งพล่าน สำหรับผู้ป่วยจิตเวช
ข้อแนะนำก่อนรักษาด้วย TMS
1.แพทย์จะแนะนำการรักษา ข้อบ่งชี้ และข้อห้ามในการใช้เครื่องมือดังกล่าว
2.ห้ามอดนอน ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนทำการรักษาด้วย TMS ในวันรุ่งขึ้น
3.หลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีนก่อนทำ TMS
4.กรณีมียาที่ใช้เป็นประจำ โดยเฉพาะยาในกลุ่มยานอนหลับ ยาทางจิตเวช ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง
อัมพฤกษ์ อัมพาต จากโรคหลอดเลือดสมองถือเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว เพราะมีผู้ป่วยหลายคนที่กว่าจะรู้ตัวว่าป่วยก็มีอาการหนักแล้ว ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้คือ หมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายตัวเอง ว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่ ได้แก่ หน้าเบี้ยว แขนขาชาหรืออ่อนแรง พูดไม่ชัด พูดไม่ออก การมองเห็นผิดปกติ เวียนศีรษะ เดินเซ ซึมลง หรือปวดศีรษะรุนแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้ามีอาการใดอาการหนึ่งแล้วอย่ารีรอ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะการได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีสามารถช่วยลดความพิการและการเสียชีวิตลงได้
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลนครธน : https://www.nakornthon.com/article/...กไฟฟ้า-ช่วยฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต
กระทู้เพิ่มเติมหมวดหมู่เดียวกัน
- คุณหมอกวาง วาสิตา ศัลยแพทย์หนึ่งเดียวจากประเทศไทย ปลื้มเข้าร่วมประชุมงาน PRS KOREA 2024 กระทบไหล่หมอจากทั่วเอเชีย
- ประตูม้วนกม8 กม4 คู้บอน รามคำแหง บดินทรเดชา รามอินทรา เกษตร ประตูม้วนคลองกุ่ม คลองสามวา เลียบด่วน
- EMMA CLINIC นำเทรนด์ทรงจมูก TEARDROP อ.พญ.วาสิตาหรือคุณหมอกวาง แกะกล่องเทคนิคใหม่ Preservation Rhinoplasty ชี้ฝั่งยุโรปและเอเชียกำลังมาแรง
- หอพักหน้า ม.มหิดล ประตู6 PJ Bed Story ศาลายา พุทธมลฑล นครปฐม ห้องพักใหม่ เช่าถูก เฟอร์ใหม่ทั้งตึก
- EMMA CLINIC ไม่หยุดอัปความรู้ ส่ง “อ.พญ.วาสิตา หรือหมอกวาง ” ดีกรีศัลยแพทย์งานแก้สุดปัง บินตรงเอ็กซ์คลูซีฟเทรนนิ่งความรู้ใหม่ๆเทรนด์ศัลยกรรมจมูก ณ ป