การทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกในปัจจุบันนั้นเป็นที่นิยมของสาวๆทั้งสาวแท้และสาวเทียมเป็นอย่างมากเพราะทำให้ผู้หญิงอย่างเรามีความมั่นใจมากขึ้น และดูเหมือนการทำศัลยกรรมหน้าอกจะเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และหากคุณกำลังสนใจที่จะไปทำละก็ การศึกษาความรู้เบื้องต้น ข้อดี ข้อเสียของการทำทำศัลยกรรมหน้าอกนั้นสำคัญเป็นอันดับแรก งั้นเรามาทำความรู้จักการทำศัลยกรรมหน้าอกกันดีกว่าคะ
การทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกนั้นเริ่มทำครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1962 โดยศัลยแพทย์จาก Texas จนกระทั้ง ศาสตร์ในการทำศัลยกรรมหน้าอกนั้นพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นที่นิยมเรื่อยมา โดยวัสดุที่นิยมในปัจจุบันคือถุงซิลิโคน เจล เนื่องจากมีความเป็นธรรมชาติกว่า และมีความปลอดภัยกว่าวัสดุประเภทอื่น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกบริษัทที่ผลิตเต้านมเทียมจะได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัย ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจผ่าตัดเสริมหน้าอกจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อการเสริมหน้าอกที่ปลอดภัยและเหมาะสม
สิ่งที่ควรทราบก่อนทำศัลยกรรมหน้าอก
ลักษณะถุงเต้านมมีกี่แบบ
แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ แบบทรงกลมและแบบทรงหยดน้ำ การเลือกแบบรูปทรงของถุงเต้านมอาจจะพิจารณาตามทรงหน้าอกของแต่ละคนได้ หรืออาจตามความพึงพอใจของผู้ทำศัลยกรรม รวมทั้งความเหมาะสมตามความเห็นของศัลยแพทย์ด้วย
แผลผ่าตัด
แผลผ่าตัดคือแผลที่ใช้เพื่อเป็นทางเข้าของถุุงซิลิโคนสามารถลงได้หลายตำแหน่ง โดยสามารถเลือกตามความเหมาะสมก็ได้ เช่น แผลใต้ราวนม แผลบริเวณรักแร้ และแผลบริเวณปานนม ซึ่งแผลแต่ละแบบก้อมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป
การเตรียมตัวก่อนการทำศัลยกรรม
1. งดน้ำและอาหารก่อนการศัลยกรรมหน้าอกอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
2. งดใช้ยาบางชนิดที่อาจมีผลต่อการทำหน้าอก เช่น แอสไพริน, วิตามินอี, วิตามินซี เป็นต้น
3. หลีกเลี่ยงการทำหน้าอกขณะมีประจำเดือน
4. ควรไปตรวจเช็คร่างกายก่อนการทำหน้าอก
ความเสี่ยงและอาการแทรกซ้อนหลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก
การผ่าตัดทุกชนิดย่อมมีความเสี่ยงที่เกิดจากการผ่าตัด ในระยะแรกบางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน และบางครั้งอาจเกิดความรู้สึกชาบริเวณหัวนมหรือบริเวณใกล้รอยผ่าตัดได้ แต่ส่วนใหญ่จะดีขึ้นเป็นปกติในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวบางรายอาจจะเกิดการรัดตัวของพังผืดที่อยู่รอบเต้านม ทำให้เกิดความรู้สึกแข็งผิดปกติของเต้านมได้
การดูแลตัวเองหลังการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก
• สัปดาห์หลังการทำหน้าอก ควรใส่ผ้ารัดหน้าอกไว้ตลอด เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของซิลิโคน
• สัปดาห์หลังการทำหน้าอก ต้องมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อตัดไหม จากนั้นควรมาพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
• เมื่อแผลหายสนิทแล้ว ควรใช้ยาป้องกันแผลนูน และควรทานวดที่แผลหรือใช้แผ่นซิลิโคนแปะแผล
• ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักและออกกำลังกายหนัก หรือขับรถเป็นระยะเวลา 2-4 สัปดาห์
• ควรเลือกรับประทานผักผลไม้หรืออาหารที่ย่อยง่าย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย
• ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดการแพ้ยาให้หยุดรับประทานทันที
แหล่งที่มา :http://bbbeautycenter.com/หน้าอก/
การทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกนั้นเริ่มทำครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1962 โดยศัลยแพทย์จาก Texas จนกระทั้ง ศาสตร์ในการทำศัลยกรรมหน้าอกนั้นพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นที่นิยมเรื่อยมา โดยวัสดุที่นิยมในปัจจุบันคือถุงซิลิโคน เจล เนื่องจากมีความเป็นธรรมชาติกว่า และมีความปลอดภัยกว่าวัสดุประเภทอื่น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกบริษัทที่ผลิตเต้านมเทียมจะได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัย ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจผ่าตัดเสริมหน้าอกจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อการเสริมหน้าอกที่ปลอดภัยและเหมาะสม
สิ่งที่ควรทราบก่อนทำศัลยกรรมหน้าอก
ลักษณะถุงเต้านมมีกี่แบบ
แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ แบบทรงกลมและแบบทรงหยดน้ำ การเลือกแบบรูปทรงของถุงเต้านมอาจจะพิจารณาตามทรงหน้าอกของแต่ละคนได้ หรืออาจตามความพึงพอใจของผู้ทำศัลยกรรม รวมทั้งความเหมาะสมตามความเห็นของศัลยแพทย์ด้วย
แผลผ่าตัด
แผลผ่าตัดคือแผลที่ใช้เพื่อเป็นทางเข้าของถุุงซิลิโคนสามารถลงได้หลายตำแหน่ง โดยสามารถเลือกตามความเหมาะสมก็ได้ เช่น แผลใต้ราวนม แผลบริเวณรักแร้ และแผลบริเวณปานนม ซึ่งแผลแต่ละแบบก้อมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป
การเตรียมตัวก่อนการทำศัลยกรรม
1. งดน้ำและอาหารก่อนการศัลยกรรมหน้าอกอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
2. งดใช้ยาบางชนิดที่อาจมีผลต่อการทำหน้าอก เช่น แอสไพริน, วิตามินอี, วิตามินซี เป็นต้น
3. หลีกเลี่ยงการทำหน้าอกขณะมีประจำเดือน
4. ควรไปตรวจเช็คร่างกายก่อนการทำหน้าอก
ความเสี่ยงและอาการแทรกซ้อนหลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก
การผ่าตัดทุกชนิดย่อมมีความเสี่ยงที่เกิดจากการผ่าตัด ในระยะแรกบางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน และบางครั้งอาจเกิดความรู้สึกชาบริเวณหัวนมหรือบริเวณใกล้รอยผ่าตัดได้ แต่ส่วนใหญ่จะดีขึ้นเป็นปกติในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวบางรายอาจจะเกิดการรัดตัวของพังผืดที่อยู่รอบเต้านม ทำให้เกิดความรู้สึกแข็งผิดปกติของเต้านมได้
การดูแลตัวเองหลังการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก
• สัปดาห์หลังการทำหน้าอก ควรใส่ผ้ารัดหน้าอกไว้ตลอด เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของซิลิโคน
• สัปดาห์หลังการทำหน้าอก ต้องมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อตัดไหม จากนั้นควรมาพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
• เมื่อแผลหายสนิทแล้ว ควรใช้ยาป้องกันแผลนูน และควรทานวดที่แผลหรือใช้แผ่นซิลิโคนแปะแผล
• ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักและออกกำลังกายหนัก หรือขับรถเป็นระยะเวลา 2-4 สัปดาห์
• ควรเลือกรับประทานผักผลไม้หรืออาหารที่ย่อยง่าย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย
• ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดการแพ้ยาให้หยุดรับประทานทันที
แหล่งที่มา :http://bbbeautycenter.com/หน้าอก/